, ,

อาหารเสริม สารสกัดจากขิง ผสม ผงขิง และ วิตามินซี ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน จินเจอร์-ซี (60 แคปซูล)

400฿

ดูแลตัวเองได้ง่ายๆ ด้วยสารสกัดจากขิงเข้มข้น

กิฟฟารีน จินเจอร์-ซี สะดวกพกพา วันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารสกัดขิง ผสม ผงขิง และ วิตามินซี ชนิดแคปซูล

  • เทียบเท่าการทานผงขิง 1,000 มก. มากที่สุดที่ อย.ไทยอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  • เทียบเท่าการทานขิงสด 5 กรัม
  • ให้สารสำคัญเป็นจินเจอร์รอลสูงถึง 4 มก.

Availability: มีสินค้าอยู่ 20

อาหารเสริม สารสกัดจากขิง ผสม ผงขิง และ วิตามินซี ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน จินเจอร์-ซี (60 แคปซูล)
Giffarine Ginger-C : Dietary Supplement Ginger Extract Mixed with Ginger Powder and Vitamin C Capsule Type (60 capsules)

ดูแลตัวเองได้ง่ายๆ ด้วยสารสกัดจากขิงเข้มข้น

กิฟฟารีน จินเจอร์-ซี สะดวกพกพา วันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารสกัดจากขิง ผสม ผงขิง และ วิตามินซี ชนิดแคปซูล

  • เทียบเท่าการทานผงขิง 1,000 มก. มากที่สุดที่ อย.ไทยอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  • เทียบเท่าการทานขิงสด 5 กรัม
  • ให้สารสำคัญเป็นจินเจอร์รอลสูงถึง 4 มก.

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ขิง และสารอาหารในการควบคุมนํ้าหนัก

เรื่องน่ารู้ ของ ขิง (Ginger)

“ขิง (Ginger)” เป็นพืชอยู่ในวงศ์ Zingiberaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Zingiber officiales Roscoe

“ขิง (Ginger)” ซึ่งมีสรรพคุณเป็นยา ทั้งในตํารับยาไทย จีน และแพทย์อายุรเวท โดย “เหง้า” ของ ขิงแก่ มีคุณสมบัติเป็นยาขับลม ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน แก้ท้องผูก เหงือกอักเสบ แก้ไอขับเสมหะ บรรเทาข้ออักเสบ รักษาอาการปวดศีรษะ รวมทั้ง ช่วยกระตุ้นการอยากอาหาร

ประโยชน์ ของ สารสกัดจาก ขิง (Ginger Extract) ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

รายงานผลการศึกษาทางคลินิกของ “ขิง (Ginger)” มีหลายการศึกษาที่สนับสนุนการรักษา และป้องกันโรคต่างๆ ซึ่งสามารถใช้ได้ในระยะยาวอย่างปลอดภัย ดังต่อไปนี้

ลดอาการปวดและอักเสบในผู้ที่เป็นโรคข้อเสื่อม โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และลดการปวดกล้ามเนื้อ

มีงานวิจัยที่ทําในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม 261 คน โดยให้รับประทานสารสกัด จาก “ขิง (Ginger)” เป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบว่า กลุ่มที่ได้รับสารสกัดจาก “ขิง (Ginger)” มีอาการปวดลดลงกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอกอย่างมีนัยสําคัญ

อีกงานวิจัย การศึกษาในผู้ป่วยข้อเข่าอักเสบ (Gonarthritis) 29 ราย โดย ได้รับสารสกัดจาก “ขิง (Ginger)” (เทียบเท่ากับเหง้าขิง 250 มก.) วันละ 4 ครั้ง เป็นระยะ เวลา 6 เดือน

พบว่าสารสกัดจาก “ขิง (Ginger)” สามารถบรรเทาอาการปวดได้ดีกว่ายาหลอก อย่างมีนัยสําคัญ

ยังมีการศึกษาในผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis) จํานวน 28 คน และผู้ป่วยโรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) จํานวน 18 คน พบว่า 3 ใน 45 14 ของผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมทั้ง 2 ชนิด มีอาการปวดข้อลดลง

และพบว่าในผู้ป่วย ที่มีอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ (Muscular discomfort) จํานวน 10 คน ทั้งหมด มีอาการปวดลดลง

มีการทดลองแบบ Double-blind randomized placebo-controlled clinical trial ในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมที่มีอาการปวดระดับปานกลาง จํานวน 120 คน โดย แบ่งผู้ป่วยเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่รับประทานแคปซูลผง “ขิง (Ginger)” จํานวน 2 แคปซูล ต่อวัน (500 มก. แคปซูล หรือ 1 กรัมต่อวัน) และกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (ผงแป้งในขนาดเดียวกัน) เป็นระยะเวลา 3 เดือน

พบว่า ระดับตัวชี้วัดภาวะการ ยักเสบได้แก่ nitric oxide (NO) และ hs-C reactive protein (hs-CRP) ในเลือดของผู้ป่วยที่ได้รับแคปซูลผง “ขิง (Ginger)” ลดลงมากกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอกอย่างมีนัยสําคัญจึงอาจให้ผงซึ่งเสริมในผู้ที่มีอาการข้อเข่าเสื่อมได้

ลดอาการปวดประจําเดือนได้ไม่แตกต่างจากยาต้านการอักเสบที่นิยมใช้กัน ทั่วไป และช่วยลดการสูญเสียเลือดประจําเดือนในผู้หญิงที่มีปัญหาประจําเดือนมามาก

มีงานวิจัยเปรียบเทียบผลการลดอาการปวดประจําเดือนของผงขิงกับยาต้าน การอักเสบที่นิยมใช้กันทั่วไปคือ Mefenamic acid และ Ibuprofen พบว่ากลุ่ม ที่ได้รับผง “ขิง (Ginger)” 250 มก.ต่อแคปซูล 4 ครั้งต่อวัน เป็นระยะเวลา 3 วันก่อนถึงรอบเดือน มีอาการปวดประจําเดือนลดลงไม่ต่างจากกลุ่มที่ได้รับยาต้านการอักเสบ

และการศึกษาการลดการสูญเสียเลือดประจําเดือน ในวัยรุ่นผู้หญิงที่มีปัญหา ประจําเดือนมามาก อายุระหว่าง 15-18 ปี จํานวน 90 คน

พบว่ากลุ่มที่ได้รับ แคปซูลผง “ขิง (Ginger)” ขนาด 250 มก. วันละ 3 ครั้ง ติดต่อกัน 4 วัน (เริ่มจากวันก่อนที่ จะมีประจําเดือนจนถึงวันที่ 3 ของการมีประจําเดือน) มีการสูญเสียเลือดประจํา เดือนลดลง และมีผลข้างเคียงน้อยกว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก

ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนในสตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยหลังผ่าตัด ผู้ป่วยที่ได้รับยา เคมีบ่าบัด และจากการเมารถเมาเรือ

มีการศึกษาในหญิงตั้งครรภ์ (อายุครรภ์น้อยกว่า 20 สัปดาห์) จํานวน 120 คน พบว่า กลุ่มที่ได้รับสารสกัดจาก “ขิง (Ginger)” ขนาด 125 มก. วันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 4 วัน มีอาการคลื่นไส้น้อยกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอกอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ และในการศึกษาเดียวกันนี้ มีการติดตามเรื่องความปลอดภัยของทารกในครรภ์

พบว่า ความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ของมารดา รับประทานสารสกัดจากขิงเทียบกับกลุ่มประชากรทั่วไป ไม่มีความแตกต่างกัน

มีรายงานว่า การใช้ “ขิง (Ginger)” ในขนาดอย่างน้อย 1 กรัม มีประสิทธิภาพในการ ป้องกันอาการคลื่นไส้ อาเจียนหลังการผ่าตัดได้ดีกว่ายาหลอก

และพบว่าการให้ “ขิง (Ginger)” ร่วมกับยา Prochlorperazine. ในผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ที่ได้รับยาเคมีบําบัดจํานวน 20 รายสามารถลดความรุนแรง และระยะเวลาในการคลื่นไส้ได้ และขิงยังมีฤทธิ์แก้คลื่นไส้ อาเจียน จากการเมารถ เมาเรือได้ด้วย

ลดระดับไขมันในเลือด

มีการศึกษาแบบ Double blind controlled clinical trial พบว่า กลุ่มที่ได้รับ แคปซูล “ขิง (Ginger)” 1 กรัม วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 45 วัน มีระดับค่าเฉลี่ยของไตรกลีเซอไรด์, โคเลสเตอรอล, แอล ดี แอล โคเลสเตอรอล ลดลงอย่างมีนัยสําคัญกว่ากลุ่มที่ ไม่ได้รับประทานขิง

ช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดไมเกรน

การศึกษาแบบ Double blind randomized clinical trial เปรียบเทียบ การใช้ “ขิง (Ginger)” กับยา Sumatriptan (ยารักษาอาการไมเกรน) ในผู้ป่วย จํานวน 100 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับ แคปซูล “ขิง (Ginger)” 250 มก. 1 แคปซูล และกลุ่มที่ได้รับยา Sumatriptan 50 มก. 1 แคปซูล ทันทีที่เริ่มมีอาการปวดศีรษะ

พบว่า ความรุนแรง ของอาการปวดลดลงในทั้ง 2 กลุ่ม หลัง จากได้รับ ยา 2 ชั่วโมง โดยประสิทธิภาพ ในการลดอาการปวดของ “ขิง (Ginger)” และยา Sumatriptan ไม่มีความแตกต่างกัน แต่อาการ ไม่พึงประสงค์ของขิงจะน้อยกว่า

ช่วยเรื่องอาหารไม่ย่อย

มีงานวิจัยให้ยิ่งบรรจุแคปซูล ปริมาณ 1.2 กรัม กับคนไข้ที่มีอาการ อาหารไม่ย่อย พบว่า “ขิง (Ginger)” ช่วยกระตุ้นให้การย่อยอาหารดีขึ้นได้

ประโยชน์ ของ สารสกัดจาก ขิง (Ginger Extract) ในผลิตภัณฑ์เสริมความงาม

  1. มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก ซึ่ง ขิง เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี มีสารประกอบที่ป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ทำให้เกิดริ้วรอย จึงช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาผิวที่พบได้บ่อยเหล่านี้ได้
  2. ช่วยปรับสีแผลเป็นให้กลมกลืนกับสีผิวปกติ สารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในขิงจะช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดของร่างกายให้ดีขึ้น อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการปรับสีผิว ขิงจึงช่วยทำให้รอยแผลเป็น (สีคล้ำ)จางลง และกลมกลืนไปกับสีผิวปกติได้ดีขึ้น นอกจากนี้ขิงยังช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเส้นใยคอลลาเจนเป็นสิ่งที่ร่างกายใช้ในการเสริมความยืดหยุ่นของผิว และสามารถช่วยสมานแผลได้เร็วขึ้นด้วย
  3. ช่วยลดเลือนเซลลูไลต์ เซลลูไลต์ คือ เซลล์ไขมันที่เคลื่อนตัวสูงขึ้นมาสะสมอยู่ชั้นใต้ผิวหนัง มีลักษณะขรุขระคล้ายกับผิวเปลือกส้ม ร้อยละ 80 ของผู้หญิงจะพบกับปัญหาเซลลูไลต์ในระดับหนึ่ง การใช้ขิงจะช่วยล้างสารพิษในร่างกายและทำให้เลือดสูบฉีดได้ดีขึ้น ซึ่งมันจะไปหยุดการสะสมของไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง เซลลูไลต์ที่เห็นเป็นผิวเปลือกส้มก็จะลดเลือนลง ไม่สังเกตเห็นได้ชัด
  4. ช่วยรักษาและป้องกันสิวบางชนิด ขิง อุดมไปด้วยไฟโตเคมิคอล (Phytochemical) หรือที่เรียกว่า “จินเจอร์รอล (Gingerol)” ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบจึงช่วยรักษาและป้องกันสิวบางชนิด รวมถึงยังช่วยลดปริมาณน้ำมัน (ความมัน) ส่วนเกินที่ผิวได้ด้วย ทั้งนี้ขิงไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นยารักษาสิวทุกชนิด แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะช่วยดูแลปัญหาสิวให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีความอ่อนโยนต่อสภาพผิวส่วนใหญ่
โรค หรือ ภาวะที่จะแนะนำ ในการใช้ ขิง
  • ใช้ได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย
  • ผู้สูงอายุ
  • ผู้ที่ต้องการควบคุม นํ้าหนัก
  • ผู้ป่วยนอนกรน
  • ผู้ป่วยเบาหวาน
  • ผู้ป่วยไขมันในเลือดสูง
  • สตรีปวดประจําเดือน
  • สตรีหลังคลอด
  • ผู้ป่วยข้อเสื่อม เข่าเสื่อม ข้อกระดูกสันหลังเสื่อม
  • ผู้ป่วยโรคหัวใจ (ที่ไม่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือเกล็ดเลือด)
  • ผู้ป่วยไมเกรน
ข้อควรระวัง :
  • ระวังการใช้ร่วมกับสารกันเลือดเป็นลิ่ม (Anticoagulants) และยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด (Antiplatelets) เนื่องจากอาจทําให้เลือดแข็งตัวช้า และทําให้เลือดไหลหยุดยาก
  • ระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ําดี ยกเว้นภายใต้ การดูแลของแพทย์
  • ไม่แนะนําให้รับประทานในเด็กอายุต่ํากว่า 6 ปี 

วิตามินซี (Vitamin C)

“วิตามิน ซี (Vitamin C)” เป็น “สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)” ที่ดี มีส่วนช่วยในการสร้าง เนื้อเยื่อ “คอลลาเจน (Collagen)” จึงช่วยลดการเกิดริ้วรอยและช่วยป้องกันอันตรายจากรังสียูวีจากแสงแดด นอกจากนี้ยังสามารถลดภาวะการเกิดผิวหมองคล้ําได้อย่างนัยสําคัญ จึงเป็นส่วนสําคัญที่ช่วยให้ผิวพรรณแลดูกระจ่างใส และมีสุขภาพดี

ประโยชน์ของ วิตามินซี (Vitamin C) ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

มีบทบาทในระบบ “ปฏิกิริยาไฮดร๊อกซิเลชั่น (Hydroxylation)” ของ “โพรลีน (Proline)” เพื่อสร้าง “คอลลาเจน (Collagen)” ซึ่งเป็นองค์ประกอบของกระดูก กระดูกอ่อน ฟัน และผนังเส้นเลือด ช่วยเพิ่มการดูดซึมของเหล็ก ถ้าขาดจะมีเลือดออกตามไรฟัน อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เหงือกบวม ฟันหลุดง่าย

  1. มีส่วนช่วยในการทําหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
  2. มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ
  3. มีช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง
  4. มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทํางานตามปกติของผิวหนัง

ดูแลตัวเองทุกวัน ด้วย ขิง สมุนไพรใกล้ตัว

เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop

รหัสสินค้า : 41031

เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-03440-1-0194

ขนาด กxยxส : 9x2x12.5

น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.07

กิฟฟารีน จินเจอร์-ซี (60 แคปซูล)

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณ 1 แคปซูล:
สารสกัดจากขิง 80 มก.
ผงขิง 40 มก.
กรดแอสคอร์บิค 40 มก. (ให้วิตามินซี 40 มก.)
วิธีรับประทาน:
วันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

คำเตือน: อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค

รีวิว

ยังไม่มีบทวิจารณ์

มาเป็นคนแรกที่วิจารณ์ “อาหารเสริม สารสกัดจากขิง ผสม ผงขิง และ วิตามินซี ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน จินเจอร์-ซี (60 แคปซูล)”

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Shopping Cart
Scroll to Top