, ,

อาหารเสริม ไฟโตสเตอรอล ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน ไฟโตสเตอรอล แคปซูล (60 แคปซูล)

980฿

ตัวช่วย ลดความเสี่ยงต่อการเกิด โรคหลอดเลือดหัวใจ

การบริโภคไฟโตสเตอรอลจะช่วยทำให้ระดับโคเลสเตอรอลรวม และแอลดีแอล โคเลสเตอรอล (LDLCholesterol) หรือโคเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ลดลง โดยที่ไม่ไปกระทบกับ เอชดีแอล โคเลสเตอรอล (HDL Cholesterol) หรือโคเลสเตอรอลชนิดดี เป็นผลให้ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง

Availability: มีสินค้าอยู่ 20

อาหารเสริม ไฟโตสเตอรอล ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน ไฟโตสเตอรอล แคปซูล (60 แคปซูล)

Giffarine Phytosterol Capsule : Phytosterol Dietary Supplement Capsule Type (60 capsules)

ตัวช่วย ลดความเสี่ยงต่อการเกิด โรคหลอดเลือดหัวใจ

การบริโภคไฟโตสเตอรอลจะช่วยทำให้ระดับโคเลสเตอรอลรวม และแอลดีแอล โคเลสเตอรอล (LDLCholesterol) หรือโคเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ลดลง โดยที่ไม่ไปกระทบกับ เอชดีแอล โคเลสเตอรอล (HDL Cholesterol) หรือโคเลสเตอรอลชนิดดี เป็นผลให้ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง

ดักจับไขมันที่ทางเดินอาหารด้วย “ไฟโตสเตอรอล”

ใครที่ต้องการลด คอเลสเตอรอล ภายในร่างกาย ขอบอกเลยว่าไฟโตสเตอรอล ช่วยคุณได้ เพราะสารไฟโตสเตอรอลเป็นสารที่สามารถค้นพบได้มากในพืชต่างๆ เช่น รำข้าว จมูกข้าว ไข่แดง น้ำมันพืชชนิดต่างๆ งา ปู กุ้ง และตับ โดยสารชนิดนี้จะมีโครงสร้างทางเคมีที่คล้ายๆ กับคอเลสเตอรอลที่อยู่ภายในร่างกาย แต่ในทางตรงกันข้ามสารไฟโตสเตอรอลกลับมีคุณสมบัติที่ช่วยในการลดคอเลสเตอรอลภายในร่างกายได้ ซึ่งสารไฟโตสเตอรอลจะเกิดการยับยั้งในส่วนของการดูดซึมไขมันที่ทางเดินอาหารให้ถูกขับออกจากร่างกาย โดยจะมีกระบวนการขับถ่ายออกมาในรูปของอุจจาระ

ดังนั้นการบริโภคไฟโตสเตอรอลจะช่วยทำให้ระดับโคเลสเตอรอลรวม และแอลดีแอล โคเลสเตอรอล (LDLCholesterol) หรือโคเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ลดลง โดยที่ไม่ไปกระทบกับ เอชดีแอล โคเลสเตอรอล (HDL Cholesterol) หรือโคเลสเตอรอลชนิดดี เป็นผลให้ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง

ไฟโตสเตอรอล (Phytosterols)

“ไฟโตสเตอรอล (Phytosterols)” เป็น “สาร สเตอรอยด์ (Sterols) ” ที่พบใน “พืช” มีโครงสร้างทางเคมี ที่คล้ายกับ “โคเลสเตอรอล (Cholesterols)”  มาก จึงช่วยยับยั้งการดูดซึม “โคเลสเตอรอล (Cholesterols)” ในอาหารที่เรารับประทานเข้าไปไม่ให้เข้าสู่กระแสเลือด

ด้วยกลไกการเข้าไปแทนที่ “โคเลสเตอรอล (Cholesterols)” ที่ตัวรับโคเลสเตอรอล (และตัวไฟโตสเตอรอล เองจะถูกดูดซึมได้น้อยมาก) ทําให้โคเลสเตอรอลจากอาหารถูกดูดซึมน้อยลง และถูกขับออกมาพร้อมกับอุจจาระในที่สุด

ดังนั้นการบริโภค “ไฟโตสเตอรอล (Phytosterols)” จะช่วย ทําให้ระดับ “โคเลสเตอรอล (Cholesterols)” รวม และ “แอลดีแอล โคเลสเตอรอล (LDL Cholesterol)” หรือโคเลสเตอรอลชนิดไม่ดีลดลง โดยที่ไม่ไปกระทบกับ “เอชดีแอล โคเลสเตอรอล (HDL Cholesterol)” หรือโคเลสเตอรอลชนิดดี เป็นผลให้ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอด เลือดหัวใจลดลง (อ้างอิงที่ 1)

สําหรับงานวิจัยที่สนับสนุนผลของ “ไฟโตสเตอรอล (Phytosterols)” ในการลดโคเลสเตอรอลรวม และ แอลดีแอลโคเลสเตอรอลนั้น มีหลายงาน วิจัยสนับสนุน

โดยในปีค.ศ. 1999 นั้น มีงาน วิจัยตีพิมพ์ว่าได้มีการใช้ “ไฟโตสเตอรอล (Phytosterols)” ใน การศึกษากับมนุษย์ 16 งานวิจัย รวม 590 คน พบว่า สามารถช่วยลดระดับ “โคเลสเตอรอลรวม” ในเลือดลงได้เฉลี่ย 10% และ ลดระดับแอลดีแอล โคเลสเตอรอลลงได้ 13% (อ้างอิงที่ 2)

อีกงานวิจัยหนึ่งเป็นการ กล่าวถึงว่า การได้รับ “ไฟโตสเตอรอล (Phytosterols)” ในรูป เอสเทอร์ 2 กรัมต่อวัน สามารถช่วยลดระดับ “แอลดีแอล (LDL)” โคเลสเตอรอลลงได้ 10% (อ้างอิงที่ 3)

นอกจากนี้ คณะกรรมการอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ยอมรับถึงเรื่อง ประโยชน์ของ “ไฟโตสเตอรอล (Phytosterols)” โดยได้มี ประกาศเกี่ยวกับ ข้อกําหนดเรื่อง การกล่าวอ้างทางสุขภาพของสเตอรอลเอสเทอร์จากพืช (Plant Sterol Ester) กับความเสี่ยงต่อ การเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ มีความตอนหนึ่งว่า มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่แสดง ให้เห็นว่าอาหารที่มี “สเตอรอลเอสเทอร์” จาก พืช (Plant Sterol Ester) ช่วยในการลดระดับของ “โคเลสเตอรอลรวม” และ “แอลดีแอลโคเลสเตอรอล” ได้

โดยข้อกําหนดนี้อนุญาตให้กล่าวอ้างบนฉลากอาหารประเภทที่มี โคเลสเตอรอลต่ํา หรือมีไขมันอิ่มตัวต่ํา ได้ว่าสเตอรอลเอสเทอร์จากพืชอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ที่การรับประทานอย่างน้อย 1.3 กรัมต่อวัน ภายใต้เงื่อนไขที่กําหนด (อ้างอิงที่ 4)

มารู้จักประโยชน์ของ ไฟโตสเตอรอล จาก กิฟฟารีน กันเถอะ
  1. ลดการดูดซีม โคเลสเตอรอล ในระบบทางเดินอาหาร
  2. ไม่มีผลต่อ การดูดซึมสารอาหารอื่นๆ
  3. เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ผู้สูงอายุ

 

 

โคเลสเตอรอล คือ อะไร?

“โคเลสเตอรอล (Cholesterols)” คือ “สารประกอบไขมัน” ชนิดหนึ่ง พบได้ในสัตว์ และมนุษย์ ร่างกายได้รับ “โคเลสเตอรอล” จากการสังเคราะห์ของ “ตับ” และจากอาหารที่รับประทานเข้าไป “โคเลสเตอรอล” จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย โดยทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบของ “ผนังเซลล์” ในร่างกาย และยังเป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนบางชนิดที่จำเป็นของร่างกาย และน้ำดี

โดยปกติแล้ว “โมเลกุล ของ โคเลสเตอรอล” จะลอยในกระแสเลือดไม่ได้ เมื่อ “โคเลสเตอรอล” เข้าไปอยู่ในกระแสเลือด จะต้องมีการจับตัวกับ “โปรตีน” เรียกว่า “ไลโปโปรตีน” โดยเราสามารถแบ่ง “ไลโปโปรตีน” หรือ อาจจะเรียกง่ายๆว่า “โคเลสเตอรอลในเลือด” ออกเป็น 2 ประเภท

ไลโปโปรตีน หรือ โคเลสเตอรอลในเลือด แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คืออะไรบ้าง?
1. แอลดีแอล โคเลสเตอรอล (LDL Cholesterol)

เปรียบเสมือน ” ตัวผู้ร้าย ” โดยแอลดีแอล ที่มากเกิน จะเข้าไปแทรกและฝังตัวที่ผนังหลอดเลือด สะสมติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน และจะก่อให้เกิดเป็น “พลาด (Plaque)” หรือ “ตะกอนที่ผนังหลอดเลือดแดง” อันเป็น ต้นเหตุของ “โรคหลอดเลือดแดงตีบตัน” ยิ่ง ระดับ LDL โคเลสเตอรอลสูงมากเท่าไหร่ อัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

2. เอชดีแอล โคเลสเตอรอล (HDL Cholesterol)

เปรียบเสมือน “ตำรวจ” คอยจับผู้ร้าย เพราะ เอชดีแอล โคเลสเตอรอล จะทำหน้าที่เป็นตัวพา “โคเลสเตอรอล จากหลอดเลือดแดง” กลับไปทำลายที่ “ตับ” การมีระดับ HDL โคเลสเตอรอลสูง จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็น “โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Heart Disease)”  (อ้างอิงที่ 5-7)

ตาราง การแบ่งระดับของ โคเลสเตอรอล

อ้างอิงจาก ATP III Classification of LDL, Total, and HDL Cholesterol (mg/dl), ATP III Guidelines At-A-Glance Quick Desk Reference, National Cholesterol Education (อ้างอิงที่ 8)

ระดับโคเลสเตอรอล (มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร) ความหมายทางคลินิก
ระดับโคเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-cholesterol)
< 100 เหมาะสม
100 – 129 ใกล้เคียงค่าเหมาะสม ยอมรับได้
130 – 159 ค่อนข้างสูง
160 – 189 สูง
190 สูงมาก
ระดับโคเลสเตอรอลรวม (Total cholesterol)
< 200 เหมาะสม
200 – 239 ค่อนข้างสูง
240 สูง
ระดับโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-cholesterol)
< 40 ต่ำ
≥ 60 สูง
ปัญหา โภชนาการเกิน คืออะไร?

“โภชนาการเกิน” เป็นปัญหาทางโภชนาการ ที่เกิดจากการบริโภค ไขมันจากเนื้อสัตว์มากเกินความต้องการของร่างกาย ทําให้เกิด “โรคไขมันสูงในเลือด” ภาวะ “โคเลสเตอรอลในเลือดสูง” เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สําคัญอย่างยิ่งต่อการเกิด “โรคหัวใจขาดเลือด” ซึ่งจะมีผลต่อการเกิดอัมพาตได้ “กรดไขมันที่อิ่มตัว” ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่จะเพิ่มปริมาณของ “โคเลสเตอรอลในเลือด” ให้สูงขึ้นได้ (อ้างอิงที่ 9) ดังนั้นพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการบริโภคของคนเรา จึงเป็นปัจจัยสําคัญที่ทําให้เกิดภาวะโคเลสเตอรอลสูง

แนวทางในการควบคุมระดับ โคเลสเตอรอล มีอะไรบ้าง?

สําหรับแนวทางในการควบคุมระดับโคเลสเตอรอล สามารถทําได้หลายวิธีคือ

1. ควบคุมอาหาร

ควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่แดง เนื้อสัตว์ติดมัน เครื่องใน อาหารทะเลบางชนิด อาหารประเภททอด น้ํามันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง น้ํามัน มะพร้าว กะทิ หันมาบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพต่างๆ เช่น นมพร่องมันเนย และอาหาร ประเภทผักและผลไม้ต่างๆ หรือรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของไฟโตสเตอรอลพร้อมกับมื้ออาหาร

2. ออกกําลังกายควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร

ออกกําลังกายควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร วิธีนี้จะช่วยเพิ่มระดับ HDL โคเลสเตอรอล และลดระดับ LDL โคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ ควรออกกําลังกายอาทิตย์ละ 3 ครั้ง และทําอย่างต่อเนื่องในแต่ละครั้งตามระดับความสามารถของร่างกายตัวเอง

3. ใช้ยาช่วยลดระดับไขมันในเลือด

ใช้ยาช่วยลดระดับไขมันในเลือด วิธีนี้ต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัย

ไขมันในเลือดสูง คืออะไร?

คือภาวะที่ร่างกายมีไขมันชนิดไม่ดีในเลือดสูง ไขมันไม่ดีเหล่านี้ จะเกาะติดผนังหลอดเลือดเกิดเป็นตะกรันไขมัน หรือ Plaque ซึ่งจะทําให้หลอดเลือดตีบหรืออุดตันได้

  • คอเลสเตอรอล ไม่ควรเกิน 200 mg/dl ไขมันอันตราย
  • ไตรกลีเซอไรด์ ไม่ควรเกิน 160 mg/dl
  • ไขมันอันตราย LDL ไม่ควรเกิน 100 mg/dl
  • ไขมันชนิดดี HDL ไม่ควรต่ํากว่า 40 mg/dl

ความเสี่ยง ของผู้ที่มี ไขมันในเลือดสูง
  • เพิ่มโอกาสการเกิดหลอดเลือด หัวใจตีบ
  • ส่งผลทําให้กล้ามเนื้อหัวใจ ขาดเลือด
  • เป็นปัจจัยสําคัญที่ทําให้เกิด โรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต
  • เป็นปัจจัยสําคัญที่ทําให้เกิด โรคความดันโลหิตสูง

วิธีป้องกัน ไขมันในเลือดสูง
หลีกเลี่ยง
  • อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น น้ํามันปาล์ม กะทิ หมูติดมัน เนื้อสัตว์แปรรูปเป็นต้น
  • อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่ปลา ไข่แดง ตับ ไต สมอง ปลาหมึก หอยนางรม เป็นต้น
  • ไขมันทรานส์ ได้แก่ เนยเทียม เนยขาว ครีมเทียม
  • ของหวานหรืออาหารที่มีน้ําตาลสูง
ควรรับประทาน
  • อาหารประเภทเนื้อปลา โดยเฉพาะปลาทะเล เนื่องจาก มีโอเมก้า 3 ช่วยลดระดับ ไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และจะช่วยในการเพิ่มไขมันดีในเลือด
  • เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน นมพร่องมันเนย
  • ถั่วเปลือกแข็ง ถั่วเหลือง
  • อาหารประเภทผักใบต่างๆ และผลไม้บางชนิดที่ให้ กากใยสูง เช่น คะน้า ฝรั่ง ส้ม

เอกสารอ้างอิง

  1. Dietary phytosterols as cholesterol-lowering agents in humans. Can J Physiol Pharmacol. 1997
    Mar:75(3):217-27
  2. Effects of dietary phytosterols on cholesterol metabolism and atherosclerosis: clinical and experimental evidence. Am J Med. 1999 Dec;107(6):588-94
  3. Phytosterols in human nutrition. Annu Rev Nutr. 2002;22:533-49. Epub 2002 Apr 4
  4. Sec. 101.83 Health claims: plant sterol/stanol esters and risk of coronary heart disease (CHD), Subpart E-Specific Requirements for Health Claims, TITLE 21–FOOD AND DRUGS: CHAPTER I– FOOD AND DRUG ADMINISTRATION DEPARTMENT OF HEALTH AND HUMAN SERVICES; SUBCHAPTER B–FOOD FOR HUMAN CONSUMPTION PART 101 FOOD LABELING, Code of Federal Regulations Title 21, Volume 2, U.S. Food and Drug Administration http://www.accessdata.fda.gov/scripts/cdrh/cfdocs/cfcfr/CFRSearch.cfm?fr=101.83
  5. Cholesterol, Triglycerides, and Associated Lipoproteins. Bookshelf ID: NBK351 PMID: 21250192 http://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK351/
  6. About Cholesterol. American Heart Association. http://www.heart.org/HEARTORG/Conditions/ Cholesterol/AboutCholesterol/About-Cholesterol UCM_001220_Article.jsp
  7. Why Cholesterol Matter. American Heart Association. http://www.heart.org/HEARTORG/Conditions/Cholesterol/WhyCholesterolMatters/Why-Cholesterol-Matters UCM_001212_Article.jsp
  8. ATP III Classification of LDL. Total, and HDL Cholesterol (mg/dL), ATP III Guidelines At-A- Glance Quick Desk Reference. National Cholesterol Education,http://www.nhlbi.nih.gov/ guidelines/cholesterol/atglance.pdf
  9. โภชนาการสาร 2532:23:202-12 กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข http://nutrition.anamai.moph.go.th/newpage8.htm

เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop

รหัสสินค้า : 40115

เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-03440-1-0133

ขนาด กxยxส : 9x2x12.5

น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.11

กิฟฟารีน ไฟโตสเตอรอล (60 แคปซูล)

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล:
ไฟโตสเตอรอล เอสเทอร์ 650 มิลลิกรัม
วิธีรับประทาน:
ครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 2ครั้ง พร้อมอาหาร คำเตือน : อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภคใม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค

รีวิว

ยังไม่มีบทวิจารณ์

มาเป็นคนแรกที่วิจารณ์ “อาหารเสริม ไฟโตสเตอรอล ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน ไฟโตสเตอรอล แคปซูล (60 แคปซูล)”

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Shopping Cart
Scroll to Top