ลูทีน และ ซีแซนทีน กับ สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อ ดวงตาโดย กิฟฟารีน แอล ซี วิต

สารอาหารต่างๆนั้นมีความจำเป็นต่อร่างกายเราทุกคนนะครับ เพราะคนเราทุกคน ต้องกินอาหาร และ อาหารเหล่านั้นก็มีสารอาหารแตกต่างกันไป วันนี้เราจะมาเรียนรู้กันครับ ว่า “ลูทีน และ ซีแซนทีน กับ สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อ ดวงตา” เรามาเรียนรู้กันครับว่า มีอะไรกันบ้างดีกว่า

ลูทีน และ ซีแซนทีน คืออะไร?

“ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)” เป็น “สารธรรมชาติ” (สารอาหาร) ที่มีในพืชผักผลไม้หลายชนิด เป็นสารในตระกูลของ”สารแคโรทีนอยด์” และพบได้ในบริเวณดวงตาตรงบริเวณ “เลนส์ตา” และ “จอรับภาพของตา”

คุณประโยชน์ของ ลูทีน และ ซีแซนทีน ต่อดวงตา

ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) ซึ่ง ในธรรมชาติแล้วแม้ว่าจะมี แคโรทีนอยด์มากกว่า 600 ชนิด แต่มีเพียงสาร 2 ชนิดนี้เท่านั้น ที่พบในจุดรับภาพของจอตา “สาร” ทั้งสองชนิดนี้ จะทําหน้าที่ช่วยกรองหรือป้องกันรังสีจากแสงแดดที่เป็นอันตรายต่อ ดวงตา และช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตา ไม่ให้ถูกทําลาย โดยการ “ลดอนุมูลอิสระ”

ดังนั้น จึงทําหน้าที่บํารุงตา ทําให้จอตาไม่เสื่อมเร็ว พืชผักที่มีสารลูทีนและซีแซนทีน โดยมากมักจะเป็นผักผลไม้ที่มีสีเหลืองและสีเขียวเข้ม เช่น ข้าวโพด แครอท ฟักทอง ผักกาด ผักปวยเล้ง คะน้า ผักโขม ฯ

การบริโภคพืชผักที่มีลูทีนและซีแซนทีน หรือ แม้แต่อาหารสุขภาพที่มีสารสําคัญนี้จะมีประโยชน์ในโรคหลายชนิดด้วยกัน ที่สําคัญคือ โรคต้อกระจก และ โรคจุดรับภาพเสื่อม

โรคต้อกระจก คืออะไร?

“โรคต้อกระจก” คือ ภาวะที่กระจกตาหรือเลนส์ตาขุ่น ทําให้แสงไม่สามารถผ่านเข้าไปในตาได้ ตามปกติ ต้อกระจกไม่ใช่โรคติดต่อ ต้อกระจกจะค่อยๆ ขึ้นไปอย่างช้าๆ ใช้เวลาเป็นปีๆ และสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด

โรคจุดรับภาพเสื่อม คืออะไร?

“โรคจุดรับภาพเสื่อม” โรคนี้เกิดจากการเสื่อมของจุดรับภาพ (Macular) ซึ่งเป็นกลางจอตา (Retina) ทําให้ การมองเห็นภาพเบลอบิดเบี้ยว บางครั้ง อาจรุนแรงขนาดเห็นจุดดํามาบังภาพอยู่ตลอดเวลา

การศึกษาวิจัยและทดลอง ของ ลูทีนและซีแซนทีน กับโรคต้อกระจก

กลไลของ “ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)” ลด ป้องกัน หรือ ชะลอการเกิดต้อกระจกได้ นั้น เป็นเพราะ ลดกลไกการเกิดความเสื่อมของโรคต้อกระจกโดยตรง (อ้างอิงที่ 1) และยังเป็นสารที่มีคุณสมบัติเป็น “สารต้านอนุมูลอิสระ” (อ้างอิงที่ 2.3)

เพราะ “อนุมูลอิสระ” เป็น สาเหตุหนึ่งของการเกิดต้อกระจก (อ้างอิงที่ 4)

มีการวิจัยในกลุ่ม “ผู้สูงอายุ” ต่างๆ พบว่ากลุ่มที่มีระดับของ ลูทีนและซีแซนทีน ในกระแสเลือดสูง จะมีความขุ่นของ “เลนส์ตา” น้อยกว่า

ซึ่งเป็นการวิจัยของ จักษุแพทย์และผู้วิจัย สรุปว่า “ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)” น่าจะลดการเกิดความเสื่อมของเลนส์ตาในผู้สูงอายุได้จริง (จ้างอิงที่ 5)

ยังมีการวิจัยว่า การรับประทาน “ลูทีน (Lutein)” ในปริมาณสูงเพิ่มความสามารถในการมองเห็นของผู้ป่วยที่เป็นโรคต้อกระจกไปแล้ว การวิจัยนี้ เป็นการวิจัยที่มีการออกแบบแผนการวิจัยมาอย่างดี และ ทำการทดลองเป็นเวลานานถึงสองปี (อ้างอิงที่ 6)

การวิจัยที่ Harvard School of Public Health, Boston ในผู้ชาย 36,644 คน ที่ได้รับอาหารเสริมและวิตามินต่างๆ พบว่ากลุ่มที่ได้รับอาหารเสริมเป็น “ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)” จะลดความเสื่อมของโรคต้อกระจกถึง 19% (อ้างอิงที่ 7)

และที่ University of Massachusetts ทําวิจัยในสุภาพสตรี ถึง 50,461 คน พบว่า “ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)” จะลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจกถึง 22% (อ้างอิง8)

การวิจัยที่ University of Wisconsin Madison Medical School ในผู้สูงอายุ 43-48 ปี จํานวน 1,354 คน พบว่าช่วย ลดอุบัติการณ์ของต้อกระจกที่เกิดตรงกลางเลนส์ (Nuclear Cataracts) ได้ถึง 50% (อ้างอิง9)

จากการวิจัยทั้งหมดนี้จึงเป็นที่ ยอมรับว่า “ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)” ลดอุบัติการณ์ โรคต้อกระจกในผู้สูงอายุได้จริง

การศึกษาวิจัยและทดลอง ของ ลูทีน และ ซีแซนทีน กับ โรคจุดรับภาพเสื่อม

นอกจาก “ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)” จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกแล้ว ยังพบว่ามีประโยชน์ต่อ “โรคจุดรับภาพเสื่อม”

ซึ่งมีหลาย ๆ การศึกษาสนับสนุนข้อมูลดังกล่าว โดยพบว่าถ้าปริมาณ “ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)” ใน “ลูกตา” ลดน้อยลงจะพบความเสื่อมมากขึ้นในการเป็น “โรคจุดรับภาพเสื่อม” (อ้างอิงที่ 10)

และเสี่ยงในการเป็นโรคจุดรับภาพเสื่อมจะลดลงหากมีปริมาณลูทีนและซีแซนทีนในเลือดสูงขึ้น (อ้างอิงที่ 11,12)

แสดงให้เห็นว่าการบริโภคอาหารที่มีลูทีนและซีแซนทีนสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้

ประโยชน์ ของ ลูทีน และ ซีแซนทีน กับสุขภาพร่างกาย

จากงานวิจัยรายงานว่า ผู้ที่บริโภคอาหารที่มี ลูทีนในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง จะลดความเสี่ยง ในการเป็นโรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดตีบในสมอง และลดอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเต้านม ในสตรีช่วงหมดประจําเดือนได้อีกด้วย (อ้างอิงที่ 13-15)

วิตามิน เอ มีประโยชน์ยังไง?

“วิตามิน เอ (Vitamin A)“ มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ ที่สําคัญคือ ช่วยในการมองเห็น (อ้างอิงที่ 16) โดยนําไปร่วมใช้ในการสร้างสารที่ใช้ในการมองเห็น หากขาดจะทําให้มองเห็นได้ยากในเวลากลางคืนหรือในที่แสง สว่างน้อย และทําให้เยื่อบุตาแห้ง กระจกตา เป็นแผล ในกรณีที่ร่างกายขาดวิตามิน เอ อย่างรุนแรงอาจทําให้ตาบอดได้

ลูทีน ชีแชนทีน และวิตามินเอ จึงเหมาะสาหรับใครบ้าง?

• ผู้ที่มีการใช้ชีวิตติดจอโทรศัพท์ พูดคุยอัพเดท ข่าวสารต่างๆผ่านทาง Social Media ตลอดเวลา
• ผู้ที่ต้องนั่งท่างานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นเวลานาน
• ผู้ที่ใช้สายตามากๆ เป็นเวลาต่อเนื่อง เช่น อ่านหนังสือ หรือขับรถนานๆ
• เด็กวัยเรียนและวัยเจริญเติบโตผู้ที่ไม่ชอบรับประทานผักและผลไม้
• ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพตาเสื่อม และทุกๆ คน ที่ต้องการปกป้องดูแลดวงตา

กลับสู่สารบัญ

รู้หรือไม่ ดวงตา ทํางานหนัก แค่ไหน

“ชีวิตติดจอ” ในแต่ละวันดวงตาของคุณต้องทํางานหนักแค่ไหนทั้งจ้องจอโทรศัพท์ มือถือ จ้องจอคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะ “ผมนี่ก็วันละไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง” โดยส่วนนี้ผมใช้ “แว่นกันแสง” เป็นตัวช่วยป้องกันอีกชั้นหนึ่ง ไหนคุณต้องพูดคุยอัพเดทข่าวสารต่างๆผ่านทาง Social Media ทําให้ดวงตาของคุณทํางานหนักตลอดทั้งวัน ถึงเวลาแล้วที่เราต้องใส่ใจดูแลดวงตาของเราเป็นพิเศษ ด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์เพื่อดวงตาโดยเฉพาะ กันดีกว่าครับ

“ดวงตา ทําหน้าที่เป็นอวัยวะรับความรู้สึกด้านการมองเห็น” ถ้าเรานอนวันละ 6 ชั่วโมง นั่นคือเราใช้ดวงตา วันละ 18 ชั่วโมง เดือนละ 540 ชั่วโมง ปีละ 6,480 ชั่วโมง โดยเฉพาะ ในปัจจุบัน เราใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน อ่านหนังสือ หรือใช้สายตาในที่แสงน้อย หรือสัมผัสแสงอาทิตย์และแสงยูวีปริมาณมาก

ดังนั้น อาการเสื่อมถอยของสุขภาพตาจึงหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่สามารถชะลอได้ หากเรารู้ วิธีการป้องกัน และรู้จักสารอาหารที่จะเข้าไปฟื้นฟูสภาพหรือบํารุงเซลล์ต่างๆ ภายในดวงตา ตัวอย่างของสารอาหารดังกล่าว ได้แก่

แสงสีฟ้า! อันตรายจากแสงสีฟ้า ! ภัยเงียบในยุคโชเชียล

แสงสีฟ้า หรือ Blue light คืออะไร?

“แสงสีฟ้า หรือ Blue light” เป็นคลื่นแสงพลังงาน สูง สามารถกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระภายในลูกตาส่งผลให้เซลล์ประสาทตาเสื่อม การจ้องมองแสง สีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นเวลา นาน จะก่อให้เกิดอาการปวดตา ตาแห้ง พร่ามัว น้ําตาไหล อีกทั้ง “เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรค จุดรับภาพเสื่อม และโรคต้อกระจก” อีกด้วย

จากงานวิจัยพบว่า “ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)” มี คุณสมบัติพิเศษคือ ทําหน้าที่เปรียบเสมือนกับตัว กรองแสงสีฟ้า และช่วยในการต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยลดอันตรายจากแสงสีฟ้าลงได้ อีกทั้งกําจัดอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายออกไป เป็นผลให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจุดรับภาพเสื่อม และโรคต้อกระจก

อันตรายของต้อกระจก… โรคที่ทุกคนต้องเจอ

โรคต้อกระจก เกิดจากการที่เลนส์ตาขุ่นเสื่อมตามวัย และอนุมูลอิสระทําร้ายดวงตา ซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพในการมองเห็นลดลง และอาจเลวร้ายจนถึงขั้นตาบอดได้ โดยภาวะตาบอดนั้น มาจากต่อกระจกถึง 52 % 

โรคต้อกระจก… ใครเสี่ยงบ้าง?

• ผู้สูงอายุ เนื่องจากความเสื่อมตามอายุ เป็นสาเหตุของการเกิดต้อกระจกถึง 95% 
• ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน จะมีโอกาสเป็นต้อกระจกมากกว่า ผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวาน 2-4 เท่า 

กลับสู่สารบัญ

สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อ ดวงตา มีอะไรบ้าง?

ลูทีน (Lutein) และชีแซนทีน (Zeaxanthin)

“ลูทีน (Lutein) และชีแซนทีน (Zeaxanthin)” ลูทีน และซีแซนทีน เป็นสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ ที่ร่างกายมนุษย์ ไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ จําเป็นต้องได้รับจากอาหาร และเป็น แคโรทีนอยด์ 2 ชนิดเท่านั้นที่พบอยู่ที่จุดรับภาพของลูกตา (Macula) และที่เลนส์ของตา ทั้งคู่ทําหน้าที่ช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตา ไม่ให้ถูกทําลาย

โดยการ “ลดอนุมูลอิสระ” และ “กรองแสงสีฟ้า” ที่จะทําลาย “ดวงตา” มีประโยชน์ในโรคที่เกี่ยวกับดวงตาที่สําคัญคือ โรคต้อกระจก (Age-related cataract, ARC) และโรคจอประสาทตาเสื่อม (Age-related macular degeneration, AMD) และยังอาจช่วยให้ การมองภาพเห็นชัดขึ้น

ประโยชน์ของ ลูทีน (Lutein) และชีแซนทีน (Zeaxanthin)

• ปกป้องเซลล์จอประสาทตา
• ช่วยกรองแสงสีฟ้า
• ลดการเกิดโรคต้อกระจก และจอประสาทตาเสื่อม
• ช่วยให้มองเห็นภาพชัดขึ้น

แอสตาแซนธิน (Astaxanthin)

“แอสตาแซนธิน” เป็น “สารแคโรทีนอยด์” อีกชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ต้องได้จากการรับประทานเข้าไป โดยอาจได้จากสาหร่ายสีแดงสายพันธุ์ Haematococcus pluvialis แอสตาแซนธินมีคุณสมบัติเป็นสาร ต้านอนุมูลอิสระ และมีประโยชน์ต่อดวงตา ดังนี้

ประโยชน์ของ แอสตาแซนธิน (Astaxanthin)

• ช่วยทําให้มองภาพได้ชัดขึ้นด้วยกลไกช่วยในการปรับโฟกัสของเลนส์ตา(Accommodation Function of Eye)
• ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตา จากการใช้งานคอมพิวเตอร์ โดยมี งานวิจัยให้ผู้ที่ทํางานกับจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน จํานวน 26 คน รับประทานแอสตาแซนธินวันละ 5 มก. เป็นเวลา 4 สัปดาห์ พบว่า อาการตาเมื่อยล้าดีขึ้น
• ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังดวงตา ทําให้ดวงตามีสุขภาพที่ดี และ ช่วยลดอาการล้าของดวงตาได้

กล่าวได้ว่า “แอสตาแซนธิน คือสารอาหารที่เหมาะสําหรับผู้ที่ต้องใช้สายตามาก” ผู้ที่ทํางานกับ คอมพิวเตอร์ หรือจ้องจอต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน

สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ (Bilberry Extract)

“สารสกัดจากบิลเบอร์รี่” มีสารสําคัญที่มีประโยชน์คือ แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีประวัติการใช้มาอย่าง ยาวนานในด้านการบํารุงดวงตา ช่วยให้จอตาเป็นปกติ ชะลอการขุ่นมัวของเลนส์ตา เพิ่มความแข็งแรงของเส้นเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงดวงตา ช่วยเพิ่ม การปรับตัวในการมองในที่มืด ช่วยลดอาการล้าของดวงตาได้

ประโยชน์ของ สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ (Bilberry Extract)

• ช่วยให้จอตาเป็นปกติ
• ชะลอการขุ่นมัวของเลนส์ตา
• ทําให้เส้นเลือดฝอย ที่ไปเลี้ยงดวงตาแข็งแรง
• ช่วยในการมองเห็นในที่มืด
• ลดอาการล้าของดวงตา

วิตามิน เอ (Vitamin A)

“วิตามิน เอ (Vitamin A) “ วิตามินเอ มีส่วนช่วยคงสภาพปกติของการมองเห็น และมีส่วนช่วยคง สภาพปกติของเยื่อบุต่างๆ หากขาดจะทําให้มองเห็นได้ยากในเวลากลางคืน หรือในที่แสงสว่างน้อย

ประโยชน์ของ วิตามิน เอ (Vitamin A)

• คงสภาพปกติของ การมองเห็น
• คงสภาพปกติของ เยื่อบุต่างๆ
• ช่วยในการมองเห็นในที่มืด

และงานวิจัยพบว่า วิตามินเอช่วยเพิ่มคุณภาพของน้ําตาในกลุ่มคนที่มีอาการตาแห้งขณะที่วิตามินอีมีส่วนช่วยในกระบวนการ ต่อต้านอนุมูลอิสระ

วิตามิน อี (Vitamin E)

“วิตามิน อี (Vitamin E) ” วิตามินอี มีส่วนช่วยคงสภาพปกติของการมองเห็น และ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

ประโยชน์ของ วิตามิน อี (Vitamin E)

• ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
• ช่วยในการพัฒนา ของเซลล์ประสาท

ดังนั้น “ลูทีนและซีแซนทีน แอสตาแซนธิน วิตามินเอ วิตามินอี และ สารสกัดจากบิลเบอร์รี่” จึงเหมาะสําหรับผู้ที่มีการใช้ชีวิตติดจอโทรศัพท์หรือ ทํางานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน, ผู้ที่ใช้สายตามากๆอย่างต่อเนื่อง เช่น อ่านหนังสือ หรือขับรถนานๆ, เด็กวัยเรียนและวัยเจริญเติบโต, ผู้ที่มี ภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคต้อกระจกและโรคจุดรับภาพเสื่อม และผู้ที่ต้องการปกป้องดูแลดวงตา

กลับสู่สารบัญ

หลังจากเราได้เรียนรู้กันไปแล้วว่า เจ้าสารออาหารที่มีประโยชน์ต่อ “ดวงตา” มีอะไรกันไปแล้ว ก็ได้เวลาแนะนำสินค้าจากทางเรากันครับ

อาหารเสริม บำรุงดางตา จาก กิฟฟารีน มีอะไรบ้าง?

อาหารเสริม ลูทีน และ ซีแซนทีน ผสม วิตามินเอ ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน แอล ซี วิต พลัส เอ

ตัวช่วย เติมสารอาหารให้แก่ ดวงตา ที่รักของคุณ

อาหารเสริม ลูทีน และ ซีแซนทีน ผสม วิตามินเอ กิฟฟารีน แอล ซี วิต พลัส เอ มีส่วนผสมของ ลูทีน (Lutein), ซีแซนทีน (Zeaxanthin) และ วิตามินเอ (Vitamin A) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงดวงตา ลดโอกาสเสื่อมของเลนส์ตาและจอประสาทตา เพื่อดูแลดวงตาคู่สวยของคุณ

*ลูทีนและซีแซนทีน นำเข้าจากบริษัทดีเอสเอ็ม ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

อาหารเสริม ลูทีน ซีแซนทีน และวิตามินเอ เหมาะกับ:

• ผู้ที่มีการใช้ชีวิตติดจอโทรศัพท์
• ผู้ที่ต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นเวลานาน
• ผู้ที่ต้องใช้สายตามากๆ เป็นเวลาต่อเนื่อง เช่นอ่านหนังสือ หรือ ขับรถนาน
• เด็กวัยเรียนและวัยเจริญเติบโต
• ผู้ที่ไม่ชอบรับประทานผักและผลไม้
• ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคต้อกระจกโรคจุดรับภาพตาเสื่อม และ ทุกๆ คนที่ต้องการดูแลปกป้องดวงตา

ส่วนประกอบสำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล :

ลูทีน 20% 15.75 มิลลิกรัม (ให้ ลูทีน 3.15 มิลลิกรัม)

ซีแซนทีน 20% 15.75 มิลลิกรัม (ให้ ซีแซนทีน 3.15 มิลลิกรัม)

วิตามิน เอ แพลมิเทต 1332 มิลลิกรัม (ให้ วิตามิน เอ 1332 หน่วยสากล)

อาหารเสริม ลูทีน และ ซีแซนทีน ผสม แอสตาแซนธิน สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ วิตามินเอ และ วิตามินอี ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน แอล ซี วิต 3 เอกซ์

ตัวช่วย เติมสารอาหารให้แก่ ดวงตา ที่รักของคุณ แบบคูณสาม

กิฟฟารีน แอล ซี วิต 3 เอกซ์ เพิ่มประสิทธิภาพและอัดแน่นด้วยคุณภาพมากขึ้น!! ประกอบด้วย ลูทีน (Lutein) มากถึง 10 มก. พร้อมด้วย ซีแซนทีน (Zeaxanthin), แอสตาแซนธิน (Astaxanthin), วิตามินเอ (Vitamin A), วิตามินอี (Vitamin E) และ สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ (Bilberry Extract) ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา และช่วยต้านอนุมูลอิสระให้แก่ดวงตา จึงช่วยลดโอกาสการเสื่อมของเลนส์ตา และจอประสาทตาได้

LZvit3X เพิ่มประสิทธิภาพและอัดแน่นด้วยคุณภาพมากขึ้น!!

ส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 แคปซูล:

ลูทีน 5% 200 มก. (ให้ลูทีน 10 มก.)

แอสตาแซนธิน 2.5%จากฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิสสกัด 80 มก.(ให้แอสตาแซนธิน 2 มก.)

ซีแซนทีน 5% 63 มก. (ให้ซีแซนทีน 3.15 มก.)

สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ 10 มก.

ดีแอล-แอลฟา-โทโคเฟอริล แอซีเทต (50%) 6 มก. (ให้วิตามินอี 3 หน่วยสากล)

วิตามิน เอ แอซีเทต 4.098 มก. (ให้วิตามิน เอ 1332 หน่วยสากล)

เม็ดเคี้ยวสำหรับเด็ก กลิ่นมิกซ์เบอร์รี่ ผสมลูทีน และวิตามิน เอ กิฟฟารีน แอล ซี วิต จูเนียร์

เตรียมพร้อม สำหรับ สายตาให้ลูกน้อย ทุกการเรียนออนไลน์

อาหารเสริม ลูทีน และ ซีแซนทีน ผสม วิตามินเอ กิฟฟารีน แอล ซี วิต พลัส เอ มีส่วนผสมของ ลูทีน (Lutein), ซีแซนทีน (Zeaxanthin) และ วิตามินเอ (Vitamin A) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงดวงตา ลดโอกาสเสื่อมของเลนส์ตาและจอประสาทตา เพื่อดูแลดวงตาคู่สวยของคุณ

ส่วนประกอบสำคัญโดยประมาณใน 1 เม็ด :

ครีมเทียม 34.22 %

เกล็ดธัญพืช 25.34 %

น้ำตาล 22.56 %

โพลีเด็กซ์โตรส 8.13 %

หางนมผม 3.56 %

กลิ่นมิกซ์เบอร์รี่ 2.7 %

ลูทีน 1.26 %

ผงมิกซ์เบอร์รี่ 0.9 %

กรดมาลิก 0.4 %

วิตามินเอ แอซีเทต 0.02664 % (500000 หน่วยสากล/กรัม)

อาหารเสริม น้ำมันปลา โดย ไตรโดโคซาเฮกซาโนอิน่า-เอโอเอกซ์ และ วิตามินเอ ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน อควา เทียร์

ตัวช่วย ดูแลปัญหา ตาแห้ง ระคายเคืองตา คู่รัก

กิฟฟารีน อควา เทียร์ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมน้ำมันปลา บาย อัลกาเทรียม มีสารสำคัญคือ ไตรโดโคซาเฮกซาโนอิน่า-เอโอเอ็กซ์ (Tridocosahexanoina-AOX) ซึ่งเป็น DHA แบบพิเศษ มีคุณสมบัติช่วยให้ตาชุ่มชื้น และ วิตามินเอ (Vitamin A) เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้ง แสบตา ระคายเคืองตา จากการใส่คอนแทคเลนส์ และใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณ 1 แคปซูล :

น้ำมันปลา 250 มก.

วิตามินเอ 0.67 มก.

กลับสู่สารบัญ

เอกสารอ้าง

1. The body of evidence to support a protecterole for lutein and zeaxanthin in delaying chronic disease Overview. J Nutr.2002 Mor:132(3):5185-5245
2. Antioxidant and prooxidant properties ofcarotenoids. Arch Biochem Sophyt2001 Jan 1:385(1):20-7
3. Bochim. Biophys Acto 199,108868-72
4. Ocular photosen taction. PhotochemPhotobiol. 1987 Dec:46(6): 1051-5
5. Lens aging in relation to nuhitional determinants and possible risk factors for age-related cataract. Arch Ophthalmol. 2002 Dec;120(12):1732-7
6. Lutein, but not alpha tocopherosupplementation improves visual function in patients with age related cataracts : a2y double-blind, placebo-controlled pilot study Nutrition, 2003 Jan;19(1):21-4
7. A prospective study of carotenoid intake and risk of cataract extraction in US men. Am J Clin Nutr. 1999 Oct:70(4):517-24
8. A prospective study of carotenoid and vitamin A intakes and risk of cataract extraction in US women. Am J Clin Nut 1999 Oct:7040509-16
9. Antioxidant intake and risk of incident agerelated nuclear cataracts in the Beaver Dam Eye Study. Am J Epidemiol. 1999 May 1:149(9):801-9
10. The macular pigment: a possible role in protection from age-related macular degeneration. Adv Pharmacol. 1997:38:537-56
11. Antioxidant status and neorascular age related macular degeneration. Eye Disease Cone-Control Study Group. Arch Ophthalmo 1993 Jan;111(1):104-9
12. Dietary carotenoids, Vlamins A Card E and advanced age-related macular degeneration. Eye Disease Case-Control Study Group. JAMA. 1994 Nov 9:272018):1413-20
13. J. Am. Med. Assoc. 1999: 282-1233-1239.
14. J. Natl. Cancer Inst. 1999: 91: 547-556
15. J. Nutr. 1999; 129: 5-8.
16. ประกาศสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ง การแสดงความกล่าว อ้างเกี่ยวกับหน้าทีของสารอาหารhttp://newsser.fda.moph.go.th/food/file/Laws Announcementoshe200000anok200rug%20AdministrationNumtion_Cam 11-8-513.pdf
17. กินอะไร…ชะลอจอประสาทตาเสื่อม, บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน ภาควิชาอาหารเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
18. Yu-Ping Jia. et al. Molecules. 2017.
19. Braow L. et al. Am J Clin Nutr. 1999.
20. Chasan-Taber L. et al. Am J Clin Nutr. 1999.
21. Lyle BJ. et al. Am J Epidemiol. 1999.
22. John T.Landrum. et al. Adv Pharmacol. 1997.
23. Antioxidant status and neovascular age-related macular degeneration. Arch Ophthalmol. 1993.
24. Seddom JM. et al. JAMA. 1994.
25. Kidd P. et al. Altern Med Rev. 2011.
26. Masayoshi Kajita, Et al. Medical Consultation & New Remedies. 2009.
27. Yasunori Nagaki, et al. J Trad Med. 2002.
28. Yasunori Nagaki, et al. Journal of Clinical Therapeutics and Medicines. 2005.
29. ประกาศสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง การแสดงข้อความกล่าวอ้างหน้าที่ของสารอาหาร
30. Bilberry (Vaccinium myrtillus L.). Herbal Medicine: Biomolecular and Clinical Aspects. 2nd edition. 3.Ozawa Y. et al. J Nutr Health Aging, 2015.
31. https://www.matichon.co.th/prachachuen/prachachuen-scoop/news_1006232
32. https://www.thaihealth.or.th/Content/36824-%22โรคต้อกระจก%22%20ปัจจัยคุกคามคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ.html
33. ต้อกระจกในผู้ป่วยเบาหวาน, ลักษณาพร กรุงไกรเพชร (พ.บ.) สาขาวิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.

เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop อย่าลืมดูแลตัวท่านเองด้วยนะครับ

สิทธิพิเศษเมื่อสมัครสมาชิกกิฟฟารีนกับเรา

• ค่าสมัครเพียง 180 บาท เป็นสมาชิกตลอดชีพ ไม่มีค่าต่ออายุรายปี
• รับแคตตาล็อกสินค้าพร้อมบัตรสมาชิก และรับส่วนลดในการซื้อสินค้าราคาสมาชิก 25% ได้ทันที
• รับเงินปันผล 10%-15%-25% คืนกลับมาจากการใช้สินค้าทุกเดือน และรับโบนัสพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
• รับสิทธิ์แลกซื้อสินค้าราคาโปรโมชั่นพิเศษประจำเดือน และโปรโมชั่นของแถมประจำสัปดาห์ ได้ทุกเดือน
• ประกันคุ้มครองชีวิตฟรี ในรหัสเดียวกัน สามี/ภรรยา วงเงินตั้งแต่ 120,000-320,000 บาท
• สามารถเลือกได้ว่าต้องการเป็นผู้ใช้สินค้าเพียงอย่างเดียว หรือ ต้องการทำเป็นธุรกิจเพื่อสร้างรายได้
• สร้างเครือข่ายได้รับลิขสิทธิ์ 4%-10% พร้อมส่งต่อเครือข่าย และรายได้ทั้งหมด เป็นมรดกให้ทายาท
• เมื่อขึ้นตำแหน่งแล้วจะไม่มีการปรับหรือลดตำแหน่งในภายหลัง แม้ว่าจะไม่ได้รักษายอดในเดือนถัดไป

สำหรับท่านที่สมัครสมาชิกกิฟฟารีน กับ ทางเว็บไซต์ ของเรา

• รหัส สมาชิก ของท่าน คือ คูปองส่วนลด 25% ในการ ซื้อ สินค้า กับทาง เว็บไซต์ ของเรา
• เราจำกัดแค่ ต้องใช้คูปองกับ เว็บไชต์ ของเรา แต่ เราไม่ได้จำกัด ผู้ใช้ คุณ จะให้ใครใช้ก็ได้ โดย เราจัดส่งให้ ฟรี !
• สำหรับ ท่าน ที่ต้องการต่อยอด ธุรกิจ ลองปรีกษาเรา เรายินดีที่จะให้คำปรึกษา แก่คุณ
• ช่องทางสะดวกให้คำปรึกษา Fan Page Sirikul Shop

สมัครสมาชิก กิฟฟารีน