เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ขมิ้นชัน และ เคอร์คูมินอยด์ เทคโนโลยี PNS จาก กิฟฟารีน

“ขมิ้นชัน” เป็น พืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถนํามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ สุขภาพ เนื่องจากมีคุณประโยชน์และงานวิจัยทางด้านการแพทย์ และ เคอร์คูมินอยด์ เทคโนโลยี PNS มันคืออะไร? เรามา ทำความรู้จัก กับมันเพิ่มเติ่มกันดีกว่าครับ

สารบัญ

ขมิ้นชัน คืออะไร?

“ขมิ้นชัน (Curcumin)” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma longa Linn., Curcuma domestica Valeton. ชื่อวงศ์ Zingiberaceae

“ขมิ้นชัน” ชื่อท้องถิ่น ขมิ้นแกง, ขมิ้นชัน ขมิ้นหยวก ขมิ้นหัว ขี้มิ้น ยากยอ สะยอ หมิ่น ส่วนที่ใช้คือ เหง้าสดและแห้ง

“ขมิ้นชัน” มีสารสำคัญใน “กลุ่มโพลีฟีนอล (Polyphenol) (คือ กลุ่มของสารที่ให้สีที่พบในพืชผักผลไม้ทั่วไป)” ที่เรียกว่า “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)”

โดย “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)” ประกอบด้วยสารหลัก 3 ชนิด คือ

  1. เคอร์คูมิน (Curcumin)
  2. เดเมทอกซีเคอร์คูมิน (Demethoxycurcumin)
  3. บิสเดเมททอกซีเคอร์คูมิน (Bisdemethoxycurcumin)

ประโยชน์ของ ขมิ้นชัน จากการวิจัยทางการแพทย์

“ขมิ้นชัน (Curcumin)” เป็น “พืชสมุนไพร” ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีสรรพคุณในทางยามากมาย นิยมนำมาปรุงใช้ในสูตรยาสมุนไพรไทยเพื่อดูแลรักษาอาการต่างๆมาอย่างยาวนานนับร้อยปี

ในปัจจุบันได้มีการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีคุณประโยชน์และมีงานวิจัยทางด้านการแพทย์สนับสนุนกล่าวโดยสรุปได้ดังนี้

ประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร

“ขมิ้นชัน (Curcumin)” ช่วยแก้ท้องอืดเฟ้อ ลดแผลในกระเพาะ ช่วยย่อยอาหาร บํารุงตับ ลด การปวดมดลูก ลดการเจ็บป่วยจากโรคลําไส้อักเสบเรื้อรัง ขมิ้นชันช่วยแก้ท้องอืดเฟ้อด้วยการขับลม (อ้างอิงที่ 1)

นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร (อ้างอิงที่ 2, 3) และฤทธิ์ป้องกันตับอักเสบ จากสารพิษอีกด้วย (อ้างอิงที่ 4, 5) จากผลทั้งหมดดังกล่าว ขมิ้นจึงมีผลช่วย บรรเทาอาการปวดท้องเนื่องจากแผลในกระเพาะได้ และช่วยแก้ท้องอืดเฟ้อ

ประโยชน์ต่อระบบหัวใจ หลอดเลือดหัวใจและสมอง

“สารเคอร์คูมิน (Curcumin)” ใน “ขมิ้นชัน (Curcumin)” มีความเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมากเพียงพอ และ มีงานวิจัยในหนูทดลองว่า ลดการเกิดปริมาณกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการ ขาดเลือดได้จริง

โดยการวิจัยได้ทดลองผูกเส้นเลือดหัวใจให้กล้ามเนื้อหัวใจ ตาย กลุ่มที่ได้รับสารเคอร์คิวมินจะมีปริมาณกล้ามเนื้อหัวใจตายน้อยกว่า อย่างมีนัยสําคัญ (อ้างอิงที่ 6)

ในทํานองเดียวกัน “สารเคอร์คูมิน (Curcumin)” ใน “ขมิ้นชัน (Curcumin)” มีผลในการป้องกันเซลล์สมองตาย จากการขาดเลือดได้ จากกลไกการต้านอนุมูลอิสระ ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับ การแข็งตัวของเกล็ดเลือด (อ้างอิงที่ 7)

ประโยชน์ในด้านการช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งหลายชนิด

ปัจจุบันนี้ขมิ้นได้รับการวิจัยมากขึ้น และพบว่าสามารถให้เสริมกับยา ต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี เพราะช่วยกันทําลายเซลล์มะเร็งโดยกลไกอื่นๆ อีกเพิ่มเติม นอกเหนือไปจากยาต้านมะเร็ง (อ้างอิงที่ 8)

และ “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ยังได้รับ คําแนะนําว่าน่าจะมีบทบาทในการป้องกันมะเร็งได้มาก เพราะมีกลไกป้องกันมะเร็ง โดยออกฤทธิ์ที่เอนไซม์ระยะหนึ่งและสอง (Phase I and II carcinogen-metabolizing enzymes) ในการทํางานก่อมะเร็งของสาร เหนี่ยวนํามะเร็งอีกด้วย (อ้างอิงที่ 9)

“สารเคอร์คูมิน (Curcumin)” ใน “ขมิ้นชัน (Curcumin)” มีฤทธิ์ยับยั้งและทําลายเซลล์มะเร็งของมนุษย์ได้หลายชนิด เช่น เซลล์มะเร็งตับ เซลล์มะเร็งเม็ดโลหิตขาว T cell Leukemia เซลล์มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ Bladder Cancer cell เซลล์มะเร็งปอดชนิดNon small cell Carcinoma

ทําให้มีการเสนอแนะว่า “ขมิ้นชัน (Curcumin)” น่าจะมี บทบาทในการป้องกันมะเร็งปอดในผู้ที่สูบบุหรี่ เซลล์มะเร็งผิวหนัง (Melanoma) เซลล์มะเร็งต่อมน้ําเหลือง Non-Hodgkin’s lymphoma เซลล์มะเร็งลําไส้ใหญ่ (Human colon adenocarcinoma) เซลล์มะเร็ง ต่อมลูกหมาก เซลล์มะเร็งรังไข่ เซลล์มะเร็งเต้านม

และเนื่องจาก “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ยับยั้ง ไวรัสหูด HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักและปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก ทําให้ อาจจะมีที่ใช้ในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก (อ้างอิงที่ 10-20)

ประโยชน์ในด้านช่วยบำรุงสมอง และอาจช่วยเรื่องอัลไซเมอร์

ปัจจุบันมีการค้นพบว่า โรคอัลไซเมอร์หรือสมองเสื่อม มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างมาก ในกลุ่มที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ และกลไกของการต้านอนุมูลอิสระ อาจมีบทบาทในการป้องกันการเกิดโรคนี้ได้ ซึ่งตอนนี้ได้มีงานวิจัยที่บอกว่า “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ก็เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่น่าจะมีบทบาทในการป้องกันโรคนี้ (อ้างอิงที่ 21)

ขมิ้นหรือขมิ้นชันช่วยฆ่าเชื้อมาเลเรีย

“สารเคอร์คูมิน (Curcumin)” ใน “ขมิ้นชัน (Curcumin)” มีประสิทธิภาพที่ค้นพบทางการแพทย์เพิ่มเติม อีกหลายอย่าง เช่น พบคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อมาลาเรีย P. Falciparum

ทําให้ปัจจุบันมีการพัฒนาเพิ่มเติมที่จะนํามาใช้เป็นยารักษา หรือป้องกัน มาลาเรีย (อ้างอิงที่ 22)

การทดลองในหนูพบว่าหนูที่ได้กินเคอร์คิวมิน สารสกัด จาก “ขมิ้นชัน (Curcumin)” สามารถลดปริมาณเชื้อมาลาเรีย (P. Falciparum) ได้ 80 – 90% (อ้างอิงที่ 23)

โดยสรุป “ขมิ้นชัน (Curcumin)” จึงจัดเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์กว้างขวาง ปลอดภัย เพราะเป็นพืชผักสวนครัว และมีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับมาก เนื่องจาก ขมิ้นช่วยขับน้ําดี จึงมีข้อแนะนําไม่รับประทานในผู้ป่วยที่เป็นนิ่วในท่อน้ําดี

ปัจจุบันนี้งานวิจัยของ “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ยังมีตลอดเวลา โดยมีแนวโน้มที่จะนํา สารสกัดมาศึกษาเพิ่มเติม จึงเป็นสมุนไพรไทยที่น่าภูมิใจและน่าใช้สําหรับ คนไทย

อย่างไรก็ตามการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพจาก “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ควรเลือก จากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (Good Manu facturing Practice หรือ GMP) เป็นอย่างน้อย

รวมถึงมีการควบคุม คุณภาพของ “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ให้มั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ขมิ้นชันนั้นมีค่าสารสําคัญคือ “สารเคอร์คูมิน (Curcumin)” ตามมาตรฐานกําหนดและมีความปลอดภัย

กลับสู่สารบัญ

CURCUMA C-E MAXX

ประโยชน์ของ “ขมิ้น” ที่ใช้รับประทาน ก็จบกันไปแล้วนะครับ ต่อไป เราจะไปเรียนรู้เกี่วกับเจ้า เทคโนโลยี PNS และ สารเคอร์คูมินอยด์ มันคืออะไร? กันดีกว่า

เคอร์คูมินอยด์ สารสกัดจากชมิ้นชัน เทคโนโลยี PNS คืออะไร?

ขมิ้นชัน (Curcumin) มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Curcuma longaLinn. มีสารสําคัญใน 2 กลุ่ม คือ

“กลุ่มน้ํามันหอมระเหย (Volatile Oil)” และ “กลุ่มโพลีฟีนอล (Polyphenol) (คือ กลุ่มของสารที่ให้สีที่พบในพืชผักผลไม้ทั่วไป)” ที่เรียกว่า เคอร์คูมินอยด์Linn. (Curcuminoids)

โดยที่ “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)” ประกอบไปด้วยสารหลัก 3 ชนิด คือ

  1. เคอร์คูมิน (Curcumin) (77%)
  2. เดเมทอกซีเคอร์คูมิน (Demethoxycurcumin) (17%)
  3. บิสเดเมททอกซีเคอร์คูมิน (Bisdemethoxycurcumin) (6%) โดยประมาณ (อ้างอิงที่ 24, 25)

ซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง และต้านจุลินทรีย์ มีงานศึกษาวิจัยพบว่า “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)” สารสกัดจากชมิ้นชัน เทคโนโลยี PNS มีประโยชน์ในด้านต่างๆ ดังนี้

ประโยชน์ของ เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)

ประโยชน์ เกี่ยวกับ ข้อเข่า

ข้ออักเสบ “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)” มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงมีประโยชน์ในผู้ป่วย ที่มีอาการข้อเข่าเสื่อม

โดยพบว่าการศึกษาแบบ Randomized double -blind placebo-controlled trail ในผู้ป่วยที่มีอาการข้อเข่าเสื่อม ระดับอ่อน-ปานกลาง “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)” สามารถบรรเทาอาการปวด และปรับปรุงสมรรถภาพทางกายของผู้ป่วยได้อย่างมีนัยสําคัญ และไม่พบ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้เคอร์คูมินอยด์ (อ้างอิงที่ 26,27)

ประโยชน์ เกี่ยวกับ หลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง

ระบบหัวใจ หลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองหัวใจ หลอดเลือดหัวใจและสมอง (อ้างอิงที่ 3) โดยมีการศึกษาแบบ Randomized double-blind placebo-controlled trial ในผู้ป่วย เบาหวานชนิดที่ 2

พบว่า การได้รับ “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)” ร่วมกับการรักษา เบาหวานตามปกติ ส่งผลให้ระดับไขมันในเลือดได้แก่ โคเลสเตอรอลรวม Non-HDL-cholesterol และ Lipoprotein (a) ลดลงอย่างมีนัยสําคัญ

เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนการรับประทาน และมีระดับ HDL เพิ่มขึ้นจึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองลงได้ (อ้างอิงที่ 28)

อีกงานวิจัยที่น่าสนใจคือ งานวิจัยในหนูทดลอง โดยได้ ทดลองผูกเส้นเลือดหัวใจเพื่อให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย พบว่ากลุ่มที่ได้รับ สาร “เคอร์คูมิน (Curcumin)” จะมีปริมาณกล้ามเนื้อหัวใจตายน้อยกว่าอย่างมีนัยสําคัญ (อ้างอิงที่ 29)

ประโยชน์ เกี่ยวกับ เซลล์มะเร็ง

การช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งหลายชนิด มีงานวิจัยพบว่า สามารถให้ขมิ้นชันเสริมกับยาต้านมะเร็งได้ เพราะช่วยเพิ่มการดูดซึม หรือเพิ่มความคงตัวของยาต้านมะเร็ง (อ้างอิง ที่ 30)

และขมิ้นชันยังได้รับคําแนะนําว่า น่าจะมีบทบาทในการป้องกัน มะเร็งได้มาก เพราะมีกลไกป้องกันมะเร็ง โดยออกฤทธิ์ที่เอนไซม์ กระตุ้นการก่อมะเร็ง (Phase I and Il carcinogen-metabolizing enzymes) ของสารเหนี่ยวนํามะเร็งอีกด้วย (อ้างอิงที่ 31)

“เคอร์คูมิน (Curcumin)” ใน “ขมิ้นชัน (Curcumin)” มีฤทธิ์ยับยั้งและทําลายเซลล์มะเร็ง ของมนุษย์ได้หลายชนิด เช่น เซลล์มะเร็งตับ, มะเร็งตับอ่อน, เซลล์มะเร็ง เม็ดโลหิตขาว T cell Leukemia, เซลล์มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ Bladder Cancer cell, เซลล์มะเร็งปอดชนิด Non Small Cell Carcinoma

ทําให้มีการเสนอแนะว่า “ขมิ้นชัน (Curcumin)” น่าจะมีบทบาทในการป้องกันมะเร็งปอดในผู้ที่สูบบุหรี่ เซลล์มะเร็งผิวหนัง (Melanoma ), เซลล์มะเร็ง ต่อมน้ําเหลือง Non-Hodgkin’s lymphoma. เซลล์มะเร็งลําไส้ใหญ่ (Human colon adenocarcinoma), เซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก เซลล์มะเร็งรังไข่, เซลล์มะเร็งเต้านม

และเนื่องจากขมิ้นชันยับยั้งไวรัส HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักและปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก ทําให้ อาจจะนํามาใช้ในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก (อ้างอิงที่ 32-44)

ประโยชน์ เกี่ยวกับ ระบบทางเดินอาหาร

การช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งหลายชนิด “ขมิ้นชัน (Curcumin)” มีฤทธิ์ขับลม จึงช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ และช่วยลดการเกิดแผลในกระเพาะ ด้วยกลไกการกระตุ้นเลือกมาเคลือบ กระเพาะอาหาร และช่วยสมานแผลที่เกิดขึ้นในกระเพาะอาหาร (อ้างอิง ที่ 45) ช่วยบรรเทาอาการของโรคลําไส้แปรปรวน (อ้างอิงที่ 46)

ประโยชน์ เกี่ยวกับ ตับ

ช่วยปกป้องตับ “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)” มีฤทธิ์ป้องกันตับอักเสบจากสารพิษ (อ้างอิงที่47) และมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ (Non-Alcoholic Fatty Liver Disease; NAFLD) โดยมีผลการศึกษาว่า การรับประทาน “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ทําให้ค่าเอนไซม์ที่บ่งชี้ถึงความเสียหายของ ตับลดลง (อ้างอิงที่ 48, 49)

ประโยชน์ เกี่ยวกับ การต้านเชื้อโรค

ต้านเชื้อจุลชีพ (Antimicrobial) มีรายงานการศึกษาถึงฤทธิ์ของ “เคอร์คูมิน (Curcumin)” ในการต้านเชื้อจุลชีพต่างๆ ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา เช่น ต้านเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pyroli (เป็นเชื้อที่ทําให้แผลในกระเพาะอาหาร) ต้านเชื้อ ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอ (อ้างอิงที่ 50, 51)

ประโยชน์ เกี่ยวกับ ระบบภูมิคุ้มกัน

กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน “เคอร์คูมิน (Curcumin)” ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (อ้างอิงที่52) มีการทดลองแบบสุ่ม Randomized double-blind study ในผู้ป่วย 241 รายที่เป็นโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis; AR)

พบว่า “เคอร์คูมิน (Curcumin)” ออกฤทธิ์ต่อระบบภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการจาม น้ํามูกไหล และคัดจมูก ทําให้หายใจได้สะดวกขึ้น (อ้างอิงที่ 53)

ประโยชน์ เกี่ยวกับ สมอง

ช่วยป้องกันอัลไซเมอร์ ปกป้องเซลล์สมอง ปัจจุบันมีการค้นพบว่า โรคอัลไซเมอร์หรือสมองเสื่อมมีแนวโน้ม เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในกลุ่มที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ และกลไกของต้านอนุมูลอิสระ อาจมีบทบาทในการป้องกันการเกิดโรคนี้ได้

มีงานวิจัยที่ระบุว่า “ขมิ้นชัน (Curcumin)” เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่มีบทบาทในการป้องกันโรคนี้ (อ้างอิงที่ 54- 56)

ประโยชน์ เกี่ยวกับ น้ําตาลในเลือด

ช่วยลดระดับน้ําตาลในเลือด “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)” มีฤทธิ์ลดระดับน้ําตาลในเลือด มีการศึกษาแบบRandomized double-blind placebo-controlled trial ในผู้ป่วย เบาหวานชนิดที่ 2

พบว่า สามารถช่วยลดระดับน้ําตาลในเลือดหลังการ อดอาหารมาอย่างน้อย 8 ชั่วโมง (Fasting Blood Sugar; FBS) และ ระดับน้ําตาลสะสมเฉลี่ยสามเดือนในเม็ดเลือดแดง (Hemoglobin A1C HbA1C) ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ (อ้างอิงที่ 57-59)

อย่างไรก็ตาม ร่างกายมนุษย์ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์ ดังกล่าวข้างต้นจาก “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)” ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เนื่องจาก “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)” ละลายน้ําได้น้อย จึงไม่ค่อยละลายใน “ลําไส้” และมี “โมเลกุล” ที่ใหญ่ จึงถูกดูดซึมผ่านผนังลําไส้ได้ยาก และถูกกําจัดออกจาก ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว

จึงมีการพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้มี ชีวปริมาณออกฤทธิ์ (Bioavailability) สูงขึ้น เช่น การทําให้อยู่ในรูป ฟอสโฟลิปิด (Phospholipids) หรือ ไฟโตโซม (Phytosome) เป็นต้น

เทคโนโลยี PNS คืออะไร?

เพื่อช่วยเพิ่มการดูดซึม สาร “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)” เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมของสารเคอร์คูมินคือเทคโนโลยี Polar and Non-polar Sandwich (PNS) ซึ่งมีหลักการ พื้นฐานเรื่อง

  1. “โมเลกุลที่มีขั้ว” จะรวมตัวกับ “โมเลกุลที่มีขั้วด้วยกัน”
  2. และ “โมเลกุลที่ไม่มีขั้ว” จะรวมตัวกับ “โมเลกุลที่ไม่มีขั้ว” เข้าด้วยกัน
  3. โดยที่ “โมเลกุลที่มีขั้ว” จะไม่รวมตัวกับ “โมเลกุลที่ไม่มีขั้ว”

ซึ่ง “สารเคอร์คูมิน” ถือเป็น “โมเลกุลที่ไม่มีขั้ว” ขณะที่ “ผนังลําไส้” เป็น “กลุ่มที่มีขั้ว” จึงทําให้เคอร์คูมินถูกดูดซึมได้ยาก

เทคโนโลยี PNS นี้ เป็นการจัดเรียงโมเลกุลใหม่ (Complete Natural Turmeric Matrix; CNTM) โดยในขั้นแรก จะสกัดสารที่อยู่ใน ขมิ้นชันออกมาเป็น 3 กลุ่มใหญ่คือ

  1. เคอร์คูมิน (Curcumin)
  2. กลุ่มน้ํามันหอมระเหยที่ได้จากการ กลั่น ขมิ้น เช่น bisabolanes และ sesquiterpenes (กลุ่มไม่มีขั้ว)
  3. สารสกัดจากน้ําที่เป็นกลุ่มคาร์โบไฮเดรต ใยอาหารและโปรตีน (กลุ่มมีขั้ว)

จากนั้นใช้เทคโนโลยี PNS จัดเรียงให้ เคอร์คูมิน (Curcumin) ถูกประกบอยู่ ระหว่างส่วนที่มีขั้วและไม่มีขั้ว (จับให้อยู่ตรงกลาง) จึงถูกดูดซึมผ่านผนังลําไส้ได้ดีขึ้น และ ช่วยให้ถูกกําจัดออกได้ช้าลง ทําให้โดยรวมแล้ว ร่างกายสามารถ ดูดซึมไปใช้ (Bioavailability) ได้มากขึ้น (อ้างอิงที่ 60-62)

โดยมีงานวิจัยในผู้ชายสุขภาพดีอายุ 18-45 ปี จํานวน 12 คนพบว่า

“ขมิ้นชัน (Curcumin)” ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี PNS มีการดูดซึมของ เคอร์คูมินสูงกว่ารูปแบบสารสกัดแบบทั่วไปถึง 10 เท่า (ค่า Cmax)และ 5.5 เท่า (ค่า AUC) (อ้างอิงที่ 24)

และงานวิจัยในผู้ชายสุขภาพดีอายุ 18-45 ปี จํานวน 45 คนพบว่า

“ขมิ้นชัน (Curcumin)” ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี PNS มีการดูดซึมของเคอร์คูมิน สูงกว่ารูปแบบ Curcumin Volatile Oils ถึง 3.5 เท่า (ค่า Cmax) และ 7.3 เท่า (ค่า AUC) (อ้างอิงที่ 61)

“ขมิ้นชัน (Curcumin)” ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี PNS มีการดูดซึมของเคอร์คูมิน สูงกว่ารูปแบบ Curcumin Phospholipids หรือ Phytosome ถึง 2.4 เท่า (ค่า Cmax) และ 5.6 เท่า (ค่า AUC) (อ้างอิงที่ 61)

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอื่นที่ศึกษาที่ใช้สาร “Piperine (สารสกัดจากพริกไทย)” ซึ่งช่วยเพิ่มการดูดซึมและช่วยชะลอการเผาผลาญว่าการรับประทานเคอร์คูมินร่วมกับสารสกัดจากพริกไทยสามารถช่วยเพิ่มการดูดซึมสารเคอร์คูมินได้ (อ้างอิงที่ 63-65)

การศึกษาความปลอดภัยของขมิ้นชัน

การศึกษาพิษเฉียบพลันของ “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ในหนู พบว่า ไม่ทําให้เกิด อาการพิษเฉียบพลัน และไม่ทําให้หนูตาย

ส่วนการศึกษาพิษเรื้อรัง ของ “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ในหนู พบว่า ไม่ทําให้เกิดอาการพิษใดๆ รวมทั้งไม่มีผลต่อค่าทางโลหิตวิทยา หรือค่าเคมีคลินิก และไม่ทําให้เกิดอันตราย ต่ออวัยวะภายใน (อ้างอิงที่ 66)

ข้อควรระวัง

การใช้ขมิ้นชันเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารห้ามใช้ในผู้ที่มีท่อน้ําดีอุดตัน เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน (อ้างอิงที่ 67) ควรระวังหรือหลีกเลี่ยงในผู้ที่ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือดและเกล็ดเลือด (อ้างอิงที่ 26)

ประโยชน์ของ ขมิ้นชัน กับผิว

  1. ช่วยให้ผิวพรรณนุ่มนวล ขาวผ่องใส แลดูเนียนขึ้น
  2. ช่วยรักษาสิวเสี้ยน สิวอุดตัน และสิวผด ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง
  3. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
  4. ช่วยสมานแผลตามร่างกายให้หายเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการนำผงขมิ้นมาผสมกับน้ำแล้วทาลงบนบาดแผล
  5. มีฤทธิ์ในการต่อต้านและฆ่าเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง
โรค หรือ ภาวะที่จะแนะนำ ในการใช้ ขมิ้นชัน
  • ผู้ที่มีพาหะไวรัสตับอักเสบบี ที่ตับไม่อักเสบมาก คือ มีระดับเอนไซม์ การทํางานของตับปกติ
  • ผู้ที่ดื่มสุรา
  • ผู้มีประวัติครอบครัว เป็นมะเร็ง
  • บําารุงผิวพรรณ
  • โรคธาลัสซีเมีย
  • โรครูมาตอยด์
  • โรคสะเก็ดเงิน
  • โรคข้อเข่าเสื่อม
  • โรคมะเร็งตับ, มะเร็งตับอ่อน, มะเร็งเม็ดโลหิตขาว, มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, มะเร็งปอด, มะเร็งเต้านม, มะเร็งรังไข่, มะเร็งมดลูก, มะเร็งปากมดลูก,มะเร็งต่อมลูกหมาก, มะเร็งหลอดอาหาร, มะเร็งลําไส้ใหญ่, มะเร็งผิวหนัง,มะเร็งสมอง,มะเร็งต่อมน้ําเหลือง, และมะเร็งหู คอ จมูก
  • โรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ เอ
  • โรคกระเพาะอาหาร
  • โรคจมูกอักเสบ ภูมิแพ้
  • ผู้ป่วยเบาหวาน
  • ผู้ป่วยโรคไขมัน พอกตับที่ไม่ได้เกิดจาก แอลกอฮอล์
ข้อห้าม ข้อควรระวัง ในการใช้ ขมิ้นชัน
  • โรคนิ่วในถุงน้ําดี
  • เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน
  • เป็นสมุนไพร จึงห้าม รับประทานในผู้ที่ตับอักเสบมาก คือมีค่า การทํางานของตับ เอนไซม์ SGOT SGPT มากกว่า 40 เบ X
  • ควรระวังหรือหลีกเลี่ยงในผู้ได้รับยาต้านการ แข็งตัวของเลือด และ เกล็ดเลือด

กลับสู่สารบัญ

ผลิตภัณฑ์ที่มี สารสกัดขมิ้นชัน จาก กิฟฟารีน มีอะไีบ้าง?

หลังจากที่ได้เรียนรู้กันไปกับเรื่องราวของ ขมิ้นชัน กันไปแล้ว ก็ได้เวลา ขายของ! กันอีก เช่นเคย ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจาก ขมิ้นชัน มีอะไรกันบ้าง? ไปดูกัน

ยาแคปซูล สารสกัดจาก ขมิ้นชัน กิฟฟารีน ขมิ้นชัน (50 แคปซูล)

บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง

สรรพคุณของขมิ้นชัน: ช่วยย่อยอาหาร ขับลม บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง รักษาโรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน โรคลำไส้อักเสบ (IBD) ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ บำรุงตับ ลดการปวดมดลูก ลดการเจ็บปวดจากโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง

อาหารเสริม ขมิ้นชัน ผสมวิตามินซี และ วิตามินอี กิฟฟารีน เคอร์คิวมา ซี-อี (60 แคปซูล)

ดูแลสุขภาพด้วยขมิ้นชัน คุณค่าจากสมุนไพรไทย

ขมิ้นชัน กิฟฟารีน ผลิตภัณฑ์คุณภาพได้มาตรฐานสมุนไพรไทย สรรพคุณช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง ประกอบด้วยสารเคอร์คิวมินจากขมิ้นชัน วิตามินซี และวิตามินอี มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

ขมิ้นชัน กิฟฟารีน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากขมิ้นชัน ผสมวิตามินซีและวิตามินอี ผลิตภัณฑ์คุณภาพ การันตีด้วยถ้วยรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีเด่นระดับชาติประจำปี 2561 และได้รับเกียรติบัตรสมุนไพรคุณภาพ Premium Product ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ กรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ จึงมั่นใจได้ในมาตรฐานและความปลอดภัยจากกิฟฟารีน

สรรพคุณของขมิ้นชัน

  • ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด
  • ช่วยย่อยอาหาร
  • บำรุงผิวพรรณ
  • ลดอาการเจ็บป่วยจากโรคลำไส้
  • ยับยั้งโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน
  • ป้องกันเซลล์มะเร็ง
  • บำรุง ตับ สมอง และหัวใจ
  • กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
  • ลดระดับน้ำตาลในเลือด
  • ต้านการอักเสบ

กิฟฟารีน เคอร์คิวมา ซี-อี (60 แคปซูล)

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล:
สารสกัดขมิ้นชัน 88.88 มก. (เทียบเท่าผงขมิ้นชัน 2,000 มก. ปริมาณมากที่สุดที่อย.อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร)
กรดแอสคอร์บิก 60.00 มก. (ให้วิตามินซี 60 มก.ปริมาณมากที่สุดที่อย.อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร)
ดีแอล-แอลฟา-โทโคเฟอริล แอซีเทต 50% 30.00 มก. (ให้วิตามินอี 15 หน่วยสากล ปริมาณมากที่สุดที่อย.อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร)
สารสกัดพริกไทยดำ 5.26 มก. (ให้ Piperine 5 มก.ปริมาณมากที่สุดที่อย.อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร)
วิธีรับประทาน: วันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

อาหารเสริม สารสกัดขมิ้นชัน ผสมวิตามินซี วิตามินอี และสารสกัดพริกไทยดำ กิฟฟารีน เคอร์คิวมา ซี-อี แมกซ์ (30 แคปซูล)

หนือกว่าผงขมิ้นชันทั่วไป ดูแลร่างกายได้อย่างเต็มที่ ด้วยเทคโนโลยี PNS

  • ให้สารสกัดขมิ้นชันเข้มข้นกว่าเดิม 7 เท่า (เดิมใช้ผงขมิ้นชัน 300 มก.)
  • 1 แคปซูล เทียบเท่ากับการทานผงขมิ้นชัน 2,000 มก. มากที่สุดที่ อย. อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  • เสริมคุณค่าด้วยวิตามินซี และ วิตามินอี
  • เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมด้วยสารสกัดขมิ้นชันที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี PNS ร่วมกับ Piperine (สารสกัดพริกไทยดำ)
  • ดูดซึมได้ดีกว่าสารสกัดขมิ้นชันทั่วไปถึง 10 เท่า และดีกว่าสารสกัดขมิ้นชันที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีไฟโตโซมถึง 2.4 เท่า

อาหารเสริม สารสกัดขมิ้นชัน ผสมวิตามินซี วิตามินอี และสารสกัดพริกไทยดำ กิฟฟารีน เคอร์คิวมา ซี-อี แมกซ์ เหนือกว่าสารสกัดขมิ้นชันทั่วไป ด้วยเทคโนโลยี PNS

  • ใช้เทคโนโลยีการผลิต PNS (Polar and Non-Polar Sandwiching Technology) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย โดยทำให้สารสกัดขมิ้นชันมีความคงตัว ไม่สลายตัวได้ง่าย สามารถละลายในทางเดินอาหารได้ดี และสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้มากยิ่งขึ้น
  • เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมอีกขั้นด้วยสารสกัดพริกไทยดำ (Piperine) ช่วยเพิ่มการดูดซึมและชลอการเผาผลาญสารสกัดขมิ้นชัน ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพของสารสกัดขมิ้นชันให้ออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น
  • เสริมประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระด้วยวิตามินซีและอี

9 คุณประโยชน์ ของเคอร์คูมินอยด์ ในขมิ้นชัน

  1. ลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือด หัวใจและสมอง
  2. บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
  3. ต้านอักเสบและยับยั้งเอนไซม์ที่ทำให้เกิดการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการปวดในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม
  4. ลดระดับน้ำตาลในเลือด
  5. ยับยั้งเซลล์มะเร็ง
  6. ป้องกันอัลไซเมอร์
  7. กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
  8. ปกป้องตับจากสารพิษ
  9. มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา

กิฟฟารีน เคอร์คิวมา ซี-อี แมกซ์ (30 แคปซูล)

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล:
สารสกัดขมิ้นชัน 88.88 มก. (เทียบเท่าผงขมิ้นชัน 2,000 มก. ปริมาณมากที่สุดที่อย.อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร)
กรดแอสคอร์บิก 60.00 มก. (ให้วิตามินซี 60 มก.ปริมาณมากที่สุดที่อย.อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร)
ดีแอล-แอลฟา-โทโคเฟอริล แอซีเทต 50% 30.00 มก. (ให้วิตามินอี 15 หน่วยสากล ปริมาณมากที่สุดที่อย.อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร)
สารสกัดพริกไทยดำ 5.26 มก. (ให้ Piperine 5 มก.ปริมาณมากที่สุดที่อย.อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร)
วิธีรับประทาน: วันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

กลับสู่สารบัญ

เอกสารอ้างอิง

  1. An introduction to phytopharmacy. London: Pithman Medical Publishing Co. Ltd., 1977, p.158-176.
  2. Effect of indigenous remedies on the healing of woundsand ulcers. JIMA. 1953: 22(7): 273-6.
  3. Pharmacological study of Curcuma longa. Symposium of the Department of Medicinal Science, Bangkok Thailand. Dec 3-4, 1990.
  4. Antithepatotoxic activity of crude drugs. Yakugaku Zasshi 1985; 105(2): 109-18.
  5. Antithepatotoxic principles of Curcuma longa rhizomes. Planta Med 1983; 49: 185-7.
  6. Protective effect of curcumin on myocardial ischemia reperfusion injury in rats Zhong Yao Cai. 2005 Oct;28(10):920-2.
  7. Neuroprotective mechanisms of curcumin against cerebral ischemia-induced neuronal apoptosis and behavioral deficits. J Neurosci Res. 2005 Oct 1;82(1):138-48.
  8. Potential synergism of natural products in the treatment of cancer. Phytother Res.2006 Apr;20(4):239-49.
  9. Chemopreventive properties of curcumin. Future Oncol. 2005 Jun:1(3):405-14.
  10. Effects of curcumin on proliferation and apoptosis in human hepatic cells. Zhonghua Gan Zang Bing Za Zhi. 2002 Dec;10(6):449-51.
  11. Curcumin (diferuloylmethane) inhibits constitutive active NF-kappaB, leading to suppression of cell growth of human T-cell leukemia virus type Hinfected T-cell lines and primary adult T-cell leukemia cells. Int J Cancer. 2006 Feb 1:118 (3): 765-72
  12. The effect of curcumin on bladder cancer cell line EJ in vitro. Zhong Yao Cai.2004 Nov 27(11):848-50.
  13. Preventive role of curcumin in lung cancer Przegl Lek. 2005;62(10):1180-1.
  14. Apoptosis induced by curcumin and its effect on c-myc and caspase-3 expressions in human melanoma A375 cell line. Di Yi Jun YI Da Xue Xue Bao, 2005
  15. Anticancer effect of curcumin on human B cell non-Hodgkin’s lymphoma. J Huazhong Univ Sci Technolog Med Sci. 2005:25(4):404-7.
  16. Curcumin induces human HT-29 colon adenocarcinoma cell apoptosis by activating p53 and regulating apoptosis-related protein expression. Braz J Med Biol Res. 2005 Dec:38(12):1791-8. Epub 2005 Nov 9.
  17. Curcumin-induced apoptosis in androgen-dependent prostate cancer cell line LNCaP in vitro. Zhonghua Nan Ke Xue. 2006 Feb;12(2):141-4.
  18. Antiproliferation and apoptosis induced by curcumin in human ovarian cancer cells. Cell Biol Int. 2006 Mar;30(3):221-6. Epub 2005 Dec 22.
  19. Antiproliferative effect of curcumin (diferuloylmethane) against human breast tumor cell lines. Anticancer Drugs. 1997 Jun;8(5):470-81.
  20. Constitutive activation of transcription factor AP-1 in cervical cancer and suppression of human papillomavirus (HPV) transcription and AP-1 activity in HeLa cells by curcumin. Int J Cancer. 2005 Mar 1:113(6):951-60
  21. A review of antioxidants and Alzheimer’s disease. Ann Clin Psychiatry. 2005 Oct-Dec:17(4):269-86
  22. Curcumin for malaria therapy. Antimicrob Agents Chemother. 2006 May:50(5):1859-60
  23. Curcumin for malaria therapy. Biochem Biophys Res Commun. 2005 Jan 14:326(2):472-4.
  24. Gopi S. 2015. Asian Journal of Pharmaceutical Technology & Innovation.
  25. ขมิ้นชันกับฤทธิ์รักษาข้ออักเสบ, จุลสารข้อมูลสมุนไพร 23(4) : 2549
  26. Nagpal M. et al. 2013. J Nat Sol Bio Med.
  27. Panahi Y. et al. 2014. Phytother Res
  28. Panahi Y. et al. 2017. Complement Ther Med.
  29. Cheng H. et al. 2005. Zhong Yao Cal.
  30. S Hemalswarya. Et al. 2006. Phytother Res.
  31. Campbell F.C. et al. 2005. Future Oncol.
  32. LI H. et al. 2002. Zhonghua Gan Zang Bing Za Zhi.
  33. Tomita M. et al. 2006. Int J Cancer.
  34. Sun M. et al. 2004. Zhong Yao Cal.
  35. Balcerek M. et al. 2005. Przegl Lek.
  36. Qlu S. et al. 2005. DI YI Jun YI Da Xue Xue Bao.
  37. Sun C. et al. 2005. J Huazhong Univ Sci Technolog Med Sci.
  38. G. Song. et al. 2005. Braz J Med Biol Res.
  39. Guo H. et al. 2006. Zhonghua Nan Ke Xue.
  40. Shi M. et al. 2006. Cell Biol Int.
  41. K. Mehta, et al. 1997. Anticancer Drugs.
  42. Bhupesh K. et al. 2005. Int J Cancer.
  43. Zhu Y. et al. 2017. Evid Based Complement Alternat Med.
  44. Dhillon N. et al. 2008. Clin Cancer Res.
  45. ขมิ้นกับการรักษาแผลในกระเพาะอาหาร, จุลสารข้อมูลสมุนไพร 19(4): 2545
  46. Qin xlang Ng. et al. 2018. J Clin Med.
  47. Kiso Y. et al. 1983. Planta Med.
  48. Ghanael F.M. et al. 2019. Integr Med Res.
  49. Panahi Y. et al. 2019. J Cell Biochem.
  50. Moghadamtous S.Z. et al. 2014. Blomed Res Int.
  51. Phi T.T. et al. 2012. Food. Chem.
  52. Acdollahi E. et al. 2018. J Cell Physiol.
  53. Wu S. et al. 2016. Ann Allergy Asthma Immunol.
  54. Frank B. et al. 2005. Ann Clin Psychiatry.
  55. Ringman J.M. et al. 2005. Curr Alzheimer Res
  56. Mishra S. et al. 2008. Ann Indian Acad Neurol.
  57. Melo I.S.V. et al. 2018. Pharmacol Res.
  58. Zhang D. et al. 2013. Evid Based Complement Alternate Med.
  59. Panahi Y. et al. 2018. Drug Res (Stuttg).
  60. Amalraj A. et al. 2017. Mater Sci Eng C Mater Blol Appl.
  61. Gopi S. et al. 2017. Phytother Res.
  62. Boosting supplement bioavailability-naturally. Natural Products INSIDER.
  63. Cas M.D. et al. 2019. Nutrients
  64. Her C. et al. 2018. Med Aromat Plants (Los Angeles)
  65. G Shoba. et al. 1998. Planta Med.
  66. ขมิ้นชัน, มาตรฐานสมุนไพรไทย เล่มที่ 2, สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
  67. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 405) พ.ศ. 2562 ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 เรียง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร(ฉบับที่ 3)

เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop

สิทธิพิเศษเมื่อสมัครสมาชิกกิฟฟารีนกับเรา

  • ค่าสมัครเพียง 180 บาท เป็นสมาชิกตลอดชีพ ไม่มีค่าต่ออายุรายปี
  • รับแคตตาล็อกสินค้าพร้อมบัตรสมาชิก และรับส่วนลดในการซื้อสินค้าราคาสมาชิก 25% ได้ทันที
  • รับเงินปันผล 10%-15%-25% คืนกลับมาจากการใช้สินค้าทุกเดือน และรับโบนัสพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
  • รับสิทธิ์แลกซื้อสินค้าราคาโปรโมชั่นพิเศษประจำเดือน และโปรโมชั่นของแถมประจำสัปดาห์ ได้ทุกเดือน
  • ประกันคุ้มครองชีวิตฟรี ในรหัสเดียวกัน สามี/ภรรยา วงเงินตั้งแต่ 120,000-320,000 บาท
  • สามารถเลือกได้ว่าต้องการเป็นผู้ใช้สินค้าเพียงอย่างเดียว หรือ ต้องการทำเป็นธุรกิจเพื่อสร้างรายได้
  • สร้างเครือข่ายได้รับลิขสิทธิ์ 4%-10% พร้อมส่งต่อเครือข่าย และรายได้ทั้งหมด เป็นมรดกให้ทายาท
  • เมื่อขึ้นตำแหน่งแล้วจะไม่มีการปรับหรือลดตำแหน่งในภายหลัง แม้ว่าจะไม่ได้รักษายอดในเดือนถัดไป

สำหรับท่านที่สมัครสมาชิกกิฟฟารีน กับ ทางเว็บไซต์ ของเรา

  • รหัส สมาชิก ของท่าน คือ คูปองส่วนลด 25% ในการ ซื้อ สินค้า กับทาง เว็บไซต์ ของเรา
  • เราจำกัดแค่ ต้องใช้คูปองกับ เว็บไชต์ ของเรา แต่ เราไม่ได้จำกัด ผู้ใช้ คุณ จะให้ใครใช้ก็ได้ โดย เราจัดส่งให้ ฟรี !
  • สำหรับ ท่าน ที่ต้องการต่อยอด ธุรกิจ ลองปรีกษาเรา เรายินดีที่จะให้คำปรึกษา แก่คุณ
  • ช่องทางสะดวกให้คำปรึกษา Fan Page Sirikul Shop
สมัครสมาชิก กิฟฟารีน
Shopping Cart
Scroll to Top