อาหารเสริม โคลีน ไบทาร์เทรต ผสม วิตามินบีคอมเพล็กซ์ ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน โคลีน บี (30 แคปซูล)
Giffarine Choline B : Choline Bitartrate Mixed with Vitamin B Complex Capsules Dietary Supplements (30 capsules)
ตัวช่วย เสริมโคลีน และ วิตามินบีรวม ให้ร่างกาย
อาหารเสริม กิฟฟารีน โคลีน บี Choline-B อาหารสมองของทุกคน จัดเต็มสารสําคัญที่คัดสรรมาแล้วว่าดีจริง ด้วย โคลีน ไบทาร์เทรต ให้โคลีน183.34 มก. ต่อ 1 แคปซูล ผสม วิตามินบีคอมเพล็กซ์ (Vitamin B1,B2,B3 B5,B6,B12) ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อเส้นประสาทและการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย ช่วยให้คุณเตรียมความพร้อม ให้ร่างกายได้ทุกวัน ด้วยโคลีน และวิตามินบี ที่มีคุณภาพ
สัญญาณเตือนว่า คุณกําลังขาด วิตามินบี!
อาการขาดวิตามินบี ที่สังเกตได้ชัดว่า ร่างกายกําลังร้องหาวิตามินบี 1 สามารถดูได้จากสัญญาณดังต่อไปนี้
- อาการเหน็บชาปลายมือ ปลายเท้า อาจรู้สึกแปล๊บ ๆ ร่วมด้วย
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- เป็นตะคริวบ่อยขึ้น
- อารมณ์แปรปรวน
- ท้องอืด ท้องผูก
มือชา ปัญหาที่กวนใจ!
มือชา ปัญหาที่พบบ่อยในผู้ป่วยวัยกลางคน เกิดจากการใช้งานของมือในลักษณะที่ต้องมีการกระดกข้อมือหรือก่ายืดนิ้วมือตลอดวัน
วิธีแก้ปัญหามือชา
- ทานวิตามินบี
- หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมือ ที่อยู่ท่าที่ผิดปกติ
- ลองขยับข้อมือ นิ้วมือเบาๆ
ข้อดีของโคลิน และวิตามินบี
- บํารุง สมองและประสาท
- โคลีน ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ แต่มีในนมมารดา
- มีความปลอดภัยสูง และสามารถทานคู่กับยาชนิดอื่นได้
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ โคลีน และ วิตามินบี-คอมเพล็กซ์
สารอาหารต่างๆนั้นมีความจำเป็นต่อร่างกายเราทุกคนนะครับ เพราะคนเราทุกคน ต้องกินอาหาร และ อาหารเหล่านั้นก็มีสารอาหารแตกต่างกันไป และ หลังจากที่เราได้นำเสนอ เรื่องราวเกี่ยวกับ สารอาหารพื้นฐาน ไปแล้ว สามเรื่องด้วยกัน
วันนี้เราจะมาเรียนรู้กันครับ ว่า “โคลีน และ วิตามินบี-คอมเพล็กซ์” นั้นมีประโยชน์อย่างไรบ้างกันครับ
โคลีน (Choline) คืออะไร?
“โคลีน (Choline)” เป็น “สารตั้งต้นหลัก” ในการสังเคราะห์ “สารสื่อประสาท” ที่มีชื่อว่า “แอซิติลโคลีน (Acetylcholine)” ซึ่ง Acetylcholine นี้ เป็นสารสื่อประสาทสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความจำ การควบคุมกล้ามเนื้อ และหน้าที่อื่นๆ อีกหลายอย่าง (อ้างอิงที่ 1)
ดังนั้น “โคลีน (Choline)” จึงมีผลต่อขบวนการส่งกระแสประสาทที่เกี่ยวข้องกับความจำและการรับรู้ เรียกได้ว่ามีบทบาทในพัฒนาการด้านการเรียนรู้โดยเฉพาะ “ระบบความจำ” (อ้างอิงที่ 2)
รวมถึงมีการศึกษาในการใช้เพื่อป้องกันและรักษา “โรคความจำเสื่อม (Alzheimer’s disease)” ด้วย (อ้างอิงที่ 3)
“โคลีน (Choline)” เป็น “สารอาหาร” สำคัญตัวหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย มีความสำตัญต่อความสมบูรณ์ของโครงสร้างของผนังเซลล์ (Structural integrity of ceel membranes) เมตาบอลิซึมของเมธิล (Methyl metabolism)
การส่งผ่านของกระแสประสาท (Cholinergic neurotransmission) การส่งสัญญาญผ่านผนังเซลล์ (Transmembrane signaling) และเมตาบอลิซึม กับการขนส่งของไขมันและโคเลสเตอรอล (อ้างอิงที่ 1)
บทบาทสําคัญอีกประการหนึ่งของ “โคลีน (Choline)” คือ ทําให้ “ตับ” สามารถทําการขนถ่ายไขมันได้ (Fat transportation) และลดการสะสมไขมันในระดับ (Hepatic steastosis)
การศึกษาวิจัยและทดลอง สารอาหาร จากโคลีน
การทดลองในหนู พบว่า หากขาดโคลีนก็จะเกิดการสะสมไขมันที่ตับ (อ้างอิงที่ 4)
การศึกษาวิจัยในคน ก็พบว่า ผู้ที่ได้รับอาหารทางเส้นเลือดและมีการขาดโคลีนก็จะ เพิ่มไขมันสะสมในตับเช่นกัน และยังมีระดับเอนไซม์ของตับสูงขึ้น ซึ่งเป็นอาการของ ภาวะตับอักเสบอีกด้วย และเมื่อได้รับโคลีนก็จะลดการสะสมไขมันและลดการ อักเสบของตับได้จริง (อ้างอิงที่ 5)
สําหรับสัตว์ทดลอง เช่น หนู สภาวะที่ดับ มีไขมันสะสมนี้ ยังร่วมไปกับเพิ่มอัตราการเป็นมะเร็งที่ดับได้ (อ้างอิงที่ 7) ในทาง กลับกันเมื่อ หนู ทดลองเหล่านี้ได้รับโคลีนเสริม ก็ลดการเกิดมะเร็งในตับได้เช่นกัน (อ้างอิงที่ 8) นอกจากประโยชน์ดังกล่าวข้างต้นแล้ว โคลีนยังมีประโยชน์ในด้านช่วยป้องกัน ไขมันอุดตันในเส้นเลือดและหลอดเลียดหัวใจด้วย (อ้างอิงที่ 1)
ปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกายใน 1 วัน (Adequate Inlove) สําหรับผู้ใหญ่ เพศชายและหญิงคือ 550 มก. และ 425 มก. ตามลําดับ (อ้างอิงที่ 1 )
มีรายงาน การวิจัยถึงผลกระทบของการขาด “โคลีน” ในมนุษย์ว่า จะมีผลทําให้ปริมาณโคลีน ลดลง และเกิดความเสียหายต่อตับได้ (อ้างอิงที่ 8,9)
พอจะเข้าใจการทำงานของเจ้า โคลีน กันไหมครับ มาลองอธิบาย เอาแบบง่ายๆเลยคือ “โคลีน” จัดอยู่ในกลุ่ม “สารอาหาร” กลุ่มเดียวกับ “วิตามิน” (วิตามินบีรวม) นั่นเองครับ และ “สารอาหาร” ตัวนี้ มีความจำเป็นมากกับเราทุกคนจริงๆ
ประโยชน์ของ โคลิน (Choline)
- เป็นสารอาหารที่จําเป็น และช่วยในการทํางานของระบบประสาท เช่น ความจํา และการทํางานของกล้ามเนื้อ
- ช่วยในการขนส่งไขมันและโคเลสเตอรอล ช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือดและหลอดเลือดหัวใจ
- ช่วยในการทํางานของตับให้เป็นปกติ การขาดโคลีนในสัตว์ทดลอง ทําให้เกิดไขมันสะสมในตับ และนําไปสู่การเป็นมะเร็งตับ
วิตามินบี-คอมเพล็กซ์ (Vitamin B Complex) คืออะไร
“วิตามินบี-คอมเพล็กซ์ (Vitamin B Complex) หรือ วิตามินบีรวม” เป็นกลุ่มของวิตามินที่มีความจําเป็นต่อ เส้นประสาทและความสมบูรณ์ของอวัยวะต่างๆ ช่วยบํารุงร่างกาย ผิวหนัง และ ระบบประสาท
“วิตามินบี-คอมเพล็กซ์ (Vitamin B Complex)” ประกอบด้วย วิตามินบี 1 (Thiamine) วิตามินบี 2 (Riboflavin) วิตามินบี 3 (Niacin) วิตามินบี 5 (Pantothenic acial วิตามินบี 6 (Pyridoxine) วิตามินบี 12 (Cyanocobalamin) นอกจากนี้ยังมี กรดโฟลิค (Folle acid) โคลีน (Choline) อิโนซิทอล (Inositol) และ ไบโอติน (Biotin) อีกด้วย (อ้างอิง 10)
สรุป ประโยชน์ของ วิตามินบี-คอมเพล็กซ์ (Vitamin B Complex) มีอะไรบ้าง?
วิตามินบี 1 (Vitamin B1) หรือ ไทอะมีน (Thiamine)
“มีความสําคัญต่อเมตาบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต” หากขาดจะทําให้เกิดโรคเหน็บชา และจะแสดงอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด ทางระบบประสาท จะมีอาการชาตามมือตามเท้า
ตากระตุก แขนขาอ่อนแรง
ส่วนอาการทางสมองพบว่า เนื้อสมองจะถูกทําลาย ผู้ป่วยจะมีอาการความจําเสื่อม ซึมเศร้า กระสับกระส่าย ทางระบบหัวใจและหลอดเลือดพบว่า หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น หัวใจมีขนาดโตขึ้นและมีความผิดปกติของ การบันทึกคลื่นหัวใจ (อ้างอิงที่ 10)
วิตามินบี 2 (Vitamin B2) หรือ ไรโบฟลาวิน (Riboflavin)
“มีความจําเป็นต่อการหายใจของเซลล์” เมตาบอลิซึม ของคาร์โบไฮเดรตและไขมัน เป็น Co-enzyme ในการเปลี่ยนวิตามินบี 6 และ กรดโฟลิคให้อยู่ในรูป Active ทั้งยังทําหน้าที่รักษาสภาพของเยื่อบุผิวและ Mucosa ให้เป็นปกติ
หากขาดจะมีอาการแสดงทางตา ริมฝีปากและผิวหนัง เริ่มแรกนั้นริมฝีปากจะ อักเสบ แห้งและแตก มุมปากจะขีดแตก เรียกลักษณะดังกล่าวว่าปากนกกระจอก (Angular stomatitis) และเมื่อเป็นมากขึ้นจะมีอาการทางผิวหนัง ใบหน้ามีสะเก็ด มันๆ ต่อมาจะมีอาการอักเสบของตา ตาสู้แสงไม่ได้ คันตาและแสบลูกตา (อ้างอิงที่ 10)
วิตามินบี 3 (Vitamin B3) หรือ ไนอะซิน (Niacin)
“วิตามินบี 3 (Vitamin B3) หรือ ไนอะซิน (Niacin)” มีบทบาทในกระบวนการ Glycolysis, Kreb’s cycle และการสังเคราะห์กรดไขมัน
“หากขาดจะมีผลต่อระบบประสาท” โดยมีผลต่อระบบประสาทส่วนปลายไขสันหลัง และสมอง เช่น ปลายประสาทอักเสบ ซึ่งอาจมีอาการคลุ้มคลั่ง และหมดสติก่อนตาย รวมถึงยังมีผลต่อระบบผิวหนัง ทําให้มีลักษณะผิวหนังหยาบ เป็นสีม่วงหรือเข้ม
นอกจากนี้ยังมีผลต่อระบบทางเดินอาหาร เริ่มตั้งแต่มีร่องแตก ที่บริเวณริมฝีปาก เยื่อบุลิ้นจะฝ่อ มีอาการอักเสบของลําไส้เล็กและมีเลือดออก ท้องเดิน
ประโยชน์ของ ไนอะซินาไมด์ Niacinamide หรือ วิตามินบี 3 (Vitamin B3)
ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) มีประโยชน์มากสำหรับผิว สามารถช่วยรักษาสิว รวมทั้งลดการอักเสบและรอยแดง ปรับปรุงการทำงานของเกราะป้องกันผิว และทำให้จุดด่างดำดูจางลง
ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ยังสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น การเปลี่ยนสีผิว และความแห้งกร้าน เมื่อนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ มักจะรวมเป็นส่วนผสมใน เซรั่ม ครีม และโลชั่น
นอกจากนั้น ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ยังดีต่อผิวของเราและสามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างดี ต้านมลภาวะ เพิ่มความชุ่มชื่น นุ่มเนียน รูขุมขนดูกระชับ และอ่อนโยนต่อผิวกว่า สารสกัดประเภท AHA BHA
- ช่วยลดรอยแดง รอยดำ รอยสิวได้ดี และช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
- ช่วยคุมความมัน Niacinamide เข้าไปปรับสมดุลในต่อมไขมัน และป้องกันไม่ให้ผลิตน้ำมันมากเกินไป
- ช่วยกระชับขนาดรูขุมขน เมื่อน้ำมันบนผิวลดลง ไม่มีสิ่งอุดตันรูขุมขน จึงทำให้รูขุมขนเรียบเนียนขึ้น
- ช่วยเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวไม่ขาดน้ำ โดยกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ (Ceramide) ให้ผิวชุ่มชื้น เหมาะสำหรับฟื้นฟูผิวที่แห้ง
- ปกป้องผิวจากอัลตราไวโอเลตในแสงแดด และกระตุ้นในการสร้างเกราะปกป้องผิวที่แข็งแรง Skin Barrier ทำหน้าที่คอยปกป้องผิวของเราเสมือนเป็นโล่ป้องกันที่เซลล์ผิว
- ลดริ้วรอย โดย Niacinamide จะเข้าไปสร้างคอลลาเจนบนชั้นผิว ทำให้ผิวเด้งอิ่มฟูขึ้น
- ช่วยลดสิวอุดตัน รอยสิว เพราะว่า Niacinamide มีส่วนในการช่วยลดการอักเสบ จึงเหมาะมากสำหรับคนที่เป็นสิวอักเสบ
(อ้างอิงที 10)
วิตามินบี 5 (Vitamin B5) หรือ กรดแพนโททีนิค (Pantothenic acid)
“วิตามินบี 5 (Vitamin B5) หรือ กรดแพนโททีนิค (Pantothenic acid)” มีความเกี่ยวข้องกับ “ปฏิกิริยาชีวเคมีในร่างกายหลายอย่าง” เช่น การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต การสังเคราะห์กรดไขมัน ถ้าขาดอาจจะมีอาการปวดท้อง อาเจียน และเป็นตะคริว อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ
ประโยชน์ของ วิตามินบี 5 (Vitamin B5) กับเส้นผมและหนังศรีษะ
วิตามินบี 5 (Vitamin B5) ในการดูแลและปกป้องเส้นผม จะออกฤทธิ์ป้องกันความแห้งกรอบของเส้นผม ช่วยซ่อมแซมผิวรอบนอกของเส้นผมที่ถูกกัดกร่อนโดยน้ำยาดัด น้ำยายืด และความร้อนจากการอบ ไดร์ผม ปกป้องเส้นผม ให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผมและหนังศรีษะไม่ให้ถูกทำลายโดนความร้อน หรือสารเคมี ช่วยเสริมสร้างเส้นผมให้นุ่มสลวยเงางาม มีน้ำหนักไม่แห้งเสียหรือชี้ฟู หรือแตกปลาย และยังป้องกันการเกิดรังแคด้วย
ประโยชน์ของ วิตามินบี 5 (Vitamin B5) กับผิว
- ช่วยให้ความชุ่มชื้น กักเก็บความชุ่มชื้น
- เป็นเกราะกำบังให้กับผิว (skin barrier)
- ช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น
- ช่วยบำรุงผิว ลดการอักเสบ ลดรอยแดง ลดอาการแพ้คัน ช่วยสมานแผล
- ช่วยบรรเทาอาการคัน จากการแพ้
- ช่วยลดรอยแดง
- ช่วยสมานแผล และเร่งการสร้างเนื้อเยื่อชั้นผิวใหม่
- ช่วยบำรุงให้สุขภาพผมดี ให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผม และให้ผมแข็งแรงเงางาม
- ช่วยกระตุ้นกระบวนการรักษาผิว
- ดูดซับความชุ่มชื้นได้อย่างรวดเร็ว
(อ้างอิงที่ 10)
วิตามินบี 6 (Vitamin B6) หรือ ไพริดอกซีน ไฮโดรคลอไรด์ (Pyridoxine Hydrochloride)
เป็น Co-enzyme ที่จําเป็นต่อ “การผลิตสารสื่อ ประสาทหลายชนิด” มีความสําคัญต่อปฏิกิริยาทั้งหมดในเมตาบอลิซึมของกรดอะมิโน มีบทบาทในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง
หากขาดจะพบอาการโลหิตจาง อ่อนเพลีย เป็นแผลที่มุมปาก ริมฝีปากอักเสบ ชาปลายมือปลายเท้า ผิวหนังเป็นๆ สีม่วง และมีอาการทางประสาท เช่น มีความคิดสับสน ซึมเศร้า และอาจจะเกิดอาการชักได้ (อ้างอิงที่ 10)
วิตามินบี 12 (Vitamin B12) หรือ ไซยาโนโคบาลามิน (Cyanocobalamin)
มีบทบาทใน “เมตาบอลิซึม (หรือ กระบวนการสร้างและสลาย)” ของคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน รวมถึงมีบทบาทในการเจริญ การแบ่งตัวของเซลล์ และการ สังเคราะห์สารที่หุ้มเส้นประสาท (Myelin) ด้วย
หากขาดจะมีผลต่อระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากมีความสําคัญต่อการสร้าง เซลล์ผิว โดยเฉพาะเยี่อบุทางเดินอาหาร เช่น ทําให้ลิ้นอักเสบ และมีการเปลี่ยนแปลง ของเยื่อบุตลอดทางเดินอาหาร และเนื่องจากมีความสาคัญต่อการสร้างสาร ที่หุ้มเส้นประสาท (Myelin)
ดังนั้น ผู้ที่ขาดจะทําให้มีอาการทางประสาท เช่น ชาตามมือและเท้า เมื่อเป็นมากขึ้นจะมีอาการสับสน ประสาทหลอนได้ รวมถึง มีความสําคัญต่อการเจริญเติบโตอย่างปกติของเม็ดเลือดแดง หากร่างกายขาด วิตามินชนิดนี้จะทําให้โลหิตจาง (อ้างอิงที่ 10)
7 พฤติกรรมเสี่ยง สมองเสื่อม
- กินของมัน หวาน เค็ม สารปรุงแต่ง
- ดื่มเหล้า เบียร์ สูบบุหรี่
- ไม่ออกกําลังกายเลย
- คิดมาก เคร่งเครียด
- ทําอะไรซ้ําซากจําเจ
- พักผ่อนน้อย
- ไม่ตรวจสุขภาพ
สารอาหาร แนะนําสําหรับผู้ที่เป็น โรคเหน็บชา
- โคลีน และวิตามิน บี
- วิตามิน และ เกลือแร่รวม ผสม ไลโคปีน สำหรับคุณผู้ชาย
- วิตามิน และ เกลือแร่รวม ผสม จมูกถั่วเหลือง สำหรับคุณผู้หญิง
- กระเทียม
- แคลเชียม
- สาหร่ายสไปรูไลน่า
เอกสารอ้างอิง
- The National Academies Press, Dietary Reference Intakes for Thiamin, Riboflavin, Niacin,Vitamin B6, Folate, Vitamin B 12, Pantothenic acid, Biotin and Choline. 12 Choline, pages 390-422. http://darwin.nap.edu/nap-cgi/skimit.cgi?recid=6015&chap=390-422
- Verbal and visual memory improve after choline supplementation in long-term total parenteral nutrition: a pilot study. JPEN J Parenter Enteral Nutr. 2001 Jan-Feb;25(1):30-5
- Cognitive improvement in mild to moderate Alheimer’s dementia after treatment with the acetylcholine precursor choline afficere: a multicenter, double-blind, randomized,placebo-controlled trial. Clin Ther. 2003 Jan;25(1):178-93
- Choline-deficiency fatty liver: impaired release of hepatic triglycerides.J Lipid Res. 1968 Jul;9(4):437-46
- Lecithin increases plasma free choline and decreases hepatic steatosis in long-term total parenteral nutrition patients. Gastroenterology. 1992 Apr;102(4 Pt 1):1363-70
- Accumulation of 1,2-sn-diradylglycerol with increased membraneassociated protein kinase C may be the mechanism for spontaneous hepatocarcinogenesis in choline-deficient rats. J Biol Chem. 1993 Jan25:268(3):2100-5
- Inhibition of hepatocarcinogenesis in mice by dietary methyl donors methionine andcholine. Nutr Cancer. 1990;14(3-4):175-81
- Choline, an essential nutrient for humans. FASEB J. 1991 Apr:5(7):2093-8
- Choline deficiency caused reversible hepatic abnormalities in patients receiving parenteral nutrition proof of a human choline requirement: a placebo-controlled triaJPEN J Parenter Enteral Nutr. 2001 Sep-Oct; 25(5):260-8
- เครือข่ายวิชาการผลิตภัณฑ์สุขภาพ เรื่อง วิตามิน วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 และวิตามินบี 12, สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา 2547
เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop
รหัสสินค้า : 41007
เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-03440-1-0070
ขนาด กxยxส : 9x2x12.5
น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.06
กิฟฟารีน โคลีน บี (30 แคปซูล)
ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล: |
โคลีน ไบทาร์เทรต 445.75 มก. (ให้โคลีน 183.34 มก.) |
วิตามินบี 1 วิตามิน บี 2 และวิตามินพรีมิกซ์รวม 19.64 มก. (ให้วิตามินบี 1 0.30 มก. วิตามินบี 2 0.34 มก. วิตามินบี 3 3.71มก. วิตามินบี 5 1.22มก. วิตามินบี 6 0.46 มก. และวิตามินบี 12 0.55 มคก.) |
วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1-3 แคปซูล พร้อมอาหาร |
คำเตือน : อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค |
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์