อาหารเสริม แอล-กลูตาไธโอน ผสม แอล-ซีสเทอีน กรดอัลฟา-ไลโปอิค และ ไนอะซินาไมด์ ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน แอคทิ ไวท์ (30 แคปซูล)
Giffarine Acti White : Dietary Supplement L-Glutathione Mixed with L-Cysteine Alpha Lipoic Acid and Niacinamide Capsules (30 capsules)
ช่วยดูแลผิวพรรณ ผิวขาวอมชมพู ใสกระจ่าง อย่างเป็นธรรมชาติ
สำหรับคนรักผิว ยุคสมัยนี้สาวๆ หนุ่มๆ หันมาดูแลใส่ใจเรื่องผิวพรรณมากยิ่งขึ้น โดยสรรหาผลิตภัณฑ์ที่ว่าโฆษณาในท้องตลาดที่ว่าดี ก็หาซื้อมาทาน หรือใช้เพื่อดูแลผิว สำหรับแอล กลูตาไธโอน เป็นอีกหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมและสำหรับใครที่สนใจควรศึกษารายละเอียด ส่วนผสม ตลอดจนกรรมวิธีการผลิตให้ดีก่อน
เรื่องน่ารู้ของกลูตาไธโอน และสารอาหารที่ช่วยดูแลผิวพรรณ
กลูตาไธโอน (Glutathione) เป็นสารประกอบที่พบได้ทั่วไปในร่างกายของ มนุษย์ ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิดคือ กลูตาเมต (Glutamate) ซีสเทอีน (Cysteine) และไกลซีน (Glycine)
กลูตาไธโอน (Glutathione : GSH) คือ อะไร?
กลูตาไธโอน (Glutathione) เป็นสารที่เซลล์ในร่างกายเราสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง มีหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อของอวัยวะทุกส่วนโดยการต่อต้านอนุมูลอิสระที่ สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย เช่น ตัวยาหรือสารพิษที่ไม่ละลายน้ำ เมื่อรวมตัวกับสารกลูตาไธโอน จะช่วยให้ละลายน้ำได้และถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ในที่สุด สารพิษจำพวกโลหะหนักหรือสารกำจัดแมลง สามารถถูกขจัดออกจากร่างกายได้โดยการทำงานของกลูตาไธโอนร่วมกับตับ
โดยสรุปสารกลูต้าไธโอน จึงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายที่มีกำลังสูงเมื่อเปรียบเทียบกับ วิตามินซีหรือวิตามินอี เมื่ออายุคนเรามากขึ้นปริมาณกลูตาไธโอนในร่างกายจะลดน้อยลง มีผลทำให้เซลล์และอวัยวะทุกส่วนเสื่อมโทรมลง ในทางตรงกันข้าม นักวิจัยพบว่าผู้ที่มีอายุยืนยาวและมีสุขภาพแข็งแรง มักจะตรวจพบสารกลูตาไธโอนปริมาณสูงในกระแสเลือด
กลูต้าไธโอนทำให้เกิดอะไรกับร่างกายเรา
- ทำให้ผิวขาวขึ้น
- ลดริ้วรอยจุดด่างดำ
- ป้องกันสิวและรอยดำจากสิว
- ลดริ้วรอย จากวัย
- ทำให้ผิวเนียน ใส และเปล่งประกาย
กลูตาไธโอน มีคุณสมบัติสรุปได้ดังนี้คือ
- มีบทบาทยับยั้งการสร้างเม็ดสีดํา ในกระบวนการสร้างเม็ดสี จึงช่วยลด ความคล้าของผิว
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์
- ถ้าร่างกายขาดกลูตาไธโอนจะเกิดภาวะที่เรียกว่า Oxidative Stress
กลูตาไธโอนมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการทําให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นด้วยการ ลดการสร้างเม็ดสีที่เป็นสีดํา ในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Metabolic Pathway of Melanin) ของผิวหนัง
ในผิวหนังของเรา เซลล์ที่จะสร้างสีดํามีชื่อว่า เมลาโนไซต์ (Melanocyte) เมื่อ ผิวหนังโดนแสงแดดหรือความร้อนจะกระตุ้นเซลล์เมลาโนไซต์ให้สร้างเม็ดสี เมลานินชนิดสีดํา (Eumelanin) และเม็ดสีเมลานินชนิดสีชมพู (Phaeomelanin) แต่ที่เราเห็นจะพบว่า โดยมากสีผิวจะคล้ําขึ้นเมื่อโดนแดด เพราะมีการสร้าง สีเมลานินสีดํา และแสดงออกมาเด่นกว่า
แต่ถ้ามีกลูตาไธโอนเข้าร่วมใน กระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานินแล้ว สารกลูตาไธโอนจะไปยับยั้งการทํางานของ เอนไซม์ Tyrosinase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีบทบาทในการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน ชนิดสีดํา ทําให้ร่างกายจะสังเคราะห์เม็ดสีเมลานินชนิดสีชมพูแทน
นอกจากนี้ กลูตาไธโอนมีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วย ระงับอนุมูลอิสระและเปอร์ออกไซด์ที่จะทําให้เกิดการกระตุ้นการทํางานของ เอนไซม์ Tyrosinase อีกกลไกหนึ่ง วงจรจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องตราบเท่าที่ยังมีกลูตาไธโอนในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน ในที่สุดสีผิวจะค่อยๆ กระจ่างใสขึ้น (อ้างอิงที่ 1,2)
กลูตาไธโอน ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิดคือ กลูตาเมต (Glutamate) ซีสเทอีน (Cysteine) และไกลซีน (Glycine) และพบว่าการมีชีสเทอีนนั้นจะช่วย ส่งเสริมการสร้างกลูตาไธโอนในร่างกายได้ นอกจากนี้กลูตาไธโอนยังมีคุณสมบัติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และมีผลต่อกระบวนการเผาผลาญสารอาหารต่างๆ รวมถึงการกําหนดการทํางานต่างๆ ของเซลล์
การขาดกลูตาไธโอนจะทําให้เกิดภาวะที่มีอนุมูลอิสระมากจนสารต้านอนุมูล อิสระมีไม่เพียงพอที่เรียกกันว่า ออกซิเดทีฟ สเตรส (Oxidative Stress) ซึ่งเป็น ภาวะที่มีส่วนสําคัญทําให้เซลล์แก่ และก่อให้เกิดโรคได้หลายชนิด เช่น โรค มะเร็ง โรคตับ อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน เป็นต้น (อ้างอิงที่ 3)
ภาวะออกซิเดทีฟ สเตรสนี้ ส่งผลให้เกิดการทําลายดีเอ็นเอ โปรตีน ไขมัน และโมเลกุลขนาดเล็กอื่นๆ โดยการทําลายดังกล่าวจะแตกต่างกันไปขึ้นกับ ลักษณะของเซลล์ ชนิด และความรุนแรงของสภาวะออกซิเดทีฟ สเตรสที่เกิดขึ้น (อ้างอิงที่ 4)
ประโยชน์ของ กลูตาไธโอน (Glutathione)
- เป็น สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidation) จะถูกเปลี่ยนไปเป็นเอนไซม์ Glutathione Peroxidase มีคุณสมบัติเป็นสาร Antioxidant ที่สำคัญของร่างกาย ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย
- ช่วยในการกำจัดสารพิษ (Detoxitication) ช่วยสร้างเอนไซม์ชนิดต่างๆในร่างกาย โดยเฉพาะ Glutathione-S-transferase ที่ตับ ช่วยในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษ ชนิดไม่ละลายน้ำ(ละลายในน้ำมัน)
- ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน (Immune Enhancer) จะส่งผลในการเพิ่มความสามารถในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาว ชนิด Neutrophils และยังเพิ่มความสามารถในการทำงานของ เซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทานของร่างกายด้วยทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันเพิ่มมากขึ้น
- ช่วยบำรุงผิวและทำให้ผิวขาวขี้น (Beauty and Whitening) รังสี UV-A และ UV-B ในแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินและอนุมูลอิสระ ทำลายเซลล์ผิว ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดจุดด่างดำและเกิดฝ้า L-Glutathione (แอล กลูต้าไธโอน) มีคุณสมบัติช่วยในการต่อต้านกลไกของอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เกิด Lipid peroxide ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดฝ้า นอกจากนี้ Glutathione (กลูต้าไทโอน) ยังไปยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ Tyrosenase ส่งผลให้เม็ดสีเมลานินไม่ถูกสร้างขึ้น ทำให้ผิวค่อยๆขาวขึ้น
- ข่วยเรื่องภาวะเจริญพันธุ์ในเพศชาย (Male Fertit ทำให้ Sperm เคลื่อนที่ได้และลดอัตราการตายของ Sperm ด้วย
ซีสเทอีน (Cysteine)
ซีสเทอีน (Cysteine) เป็นกรดอะมิโนที่สามารถส่งเสริมให้มีระดับกลูตาไธโอน เพิ่มขึ้น ปกติแล้วการสร้างกลูตาไธโอนจะลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น แต่พบว่า มีงานวิจัยที่ทําในสหรัฐอเมริกาที่วิจัยในผู้สูงอายุ แสดงให้เห็นว่า การเสริม ด้วยซีสเทอีนและไกลซีน ช่วยฟื้นคืนการสร้างกลูตาไธโอนของร่างกายให้กลับ มาดังเดิมได้ (อ้างอิงที่ 5)
อีกงานวิจัยในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน ได้วิจัยกับผู้ป่วย เบาหวานที่มีปัญหาในการสังเคราะห์กลูตาไธโอนได้น้อยลง พบว่าการได้รับซีสเทอีน และไกลซีน สามารถช่วยให้ร่างกายกลับมาสร้างกลูตาไธโอนได้เพิ่มขึ้น (อ้างอิงที่ 6)
ส่วนกลูตามีน (Glutamine) นั้น จะเป็นแหล่งของกลูตาเมต (Glutamate) ที่ใช้เป็นสารตั้งต้นในการสร้างกลูตาไธโอนของร่างกาย มีงาน วิจัยที่ทําในออสเตรเลีย แสดงให้เห็นว่า ถ้ามีระดับกลูตามีนในเลือดที่สูงขึ้น จะช่วยเร่งอัตราการสังเคราะห์กลูตาไธโอนได้ และยังให้ความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่าการเพิ่มอัตราการสังเคราะห์กลูตาไธโอนให้สูงขึ้นนั้นควรได้รับซีสเทอีนร่วมกับกลูตามีนด้วย (อ้างอิงที่ 7)
ประโยชน์ของ ซีสเทอีน (Cysteine)
- ช่วยป้องกันผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยยาคีโมและการฉายรังสี ลดการสะสมของจุดด่างดำที่เกิดขึ้นตามวัย
- บำรุงผิว เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างโปรตีนเคราติน(keratin) ที่ใช้ในการสร้างผิว ผม เล็บให้มีสุขภาพดี ช่วยให้รากผมแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย
- การกำจัดพิษ (Detoxification) กลูตาไธโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะ Glutathion-S-transferase ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย
- ช่วยป้องกันตับ จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose)
- ต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) โดยส่งเสริมการสร้างกลูตาไธโอน ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดกลูตาไธโอน วิตามินซีและวิตามินอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน (Immune Enhancer) โดยซีสเทอีน จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอม รวมถึงเชื้อแบคทีเรีย และไวรัส นอกจากนี้กลูตาไธโอน ยังช่วยสร้าง และซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีนและ protaglandin
กรดอัลฟาไลโปอิค (Alpha-lipoic Acid)
กรดอัลฟาไลโปอิค (Alpha-lipoic Acid) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สําคัญ อีกชนิดหนึ่ง ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง สามารถช่วยลดภาวะออกซิเดทีฟ สเตรส รวมไปถึงมีความสามารถที่จะนํากลูตาไธโอนหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้ (อ้างอิงที่ 8)
ประโยชน์ของ กรดอัลฟาไลโปอิค (Alpha-lipoic Acid)
- ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์
- เพิ่มอัตราเผาผลาญพลังงานในร่างกาย เนื่องจากกรดอัลฟาไลโปอิกเป็นสารที่มีส่วนสำคัญในกระบวนการเผาผลาญน้ำตาลกลูโคสให้เป็นพลังงาน และยังช่วยลดอนุมูลอิสระระหว่างการออกกำลังกายได้
- ใช้รักษาโรคปลายประสาทอักเสบ
- ช่วยปกป้องร่างกายไม่ให้ได้รับความเสียหายจากโลหะหนัก โดยทำหน้าที่เป็น Chelating agent จับกับโลหะหนักและขับออกจากร่างกาย
วิตามินบี 3 (Vitamin B3) หรือ ไนอะซิน (Niacin)
วิตามินบี 3 (Vitamin B3) หรือ ไนอะซิน (Niacin)เป็นสารที่ช่วยเสริมให้ระบบประสาท ผิว ผม และ ตา มีสุขภาพที่ดี หากขาด Niacin จะมีผลต่อระบบผิวหนัง ผิวหนังจะ มีลักษณะหยาบ เป็นสีม่วง หรือสีเข้ม เรียกว่า Pellagra (อ้างอิงที่ 9)
“วิตามินบี 3 (Vitamin B3) หรือ ไนอะซิน (Niacin)” มีบทบาทในกระบวนการ Glycolysis, Kreb’s cycle และการสังเคราะห์กรดไขมัน
“หากขาดจะมีผลต่อระบบประสาท” โดยมีผลต่อระบบประสาทส่วนปลายไขสันหลัง และสมอง เช่น ปลายประสาทอักเสบ ซึ่งอาจมีอาการคลุ้มคลั่ง และหมดสติก่อนตาย รวมถึงยังมีผลต่อระบบผิวหนัง ทําให้มีลักษณะผิวหนังหยาบ เป็นสีม่วงหรือเข้ม
นอกจากนี้ยังมีผลต่อระบบทางเดินอาหาร เริ่มตั้งแต่มีร่องแตก ที่บริเวณริมฝีปาก เยื่อบุลิ้นจะฝ่อ มีอาการอักเสบของลําไส้เล็กและมีเลือดออก ท้องเดิน
ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) หรือ วิตามินบี 3 (Vitamin B3)
วิตามินบี 3 (Vitamin B3) หรือ ไนอะซิน (Niacin) ในวงการสกินแคร์จะอยู่ในชื่อของ ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) นั้นเอง จัดเป็นวิตามินบีคอมเพล็กซ์ (B-Complex) ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีประสิทธิภาพช่วยให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ ผิวละเอียดขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดอาการอักเสบระคายเคืองผิว
ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ใต้ชั้นผิวช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและอุ้มน้ำ ช่วยลดการเกิดผิวแห้งกร้านและหย่อนคล้อย ลดความเสี่ยงของการเกิดรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยก่อนวัยได้ และยังมีประสิทธิภาพปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้นเป็นธรรมชาติ
ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ยังมีประสิทธิภาพช่วยลดความเสื่อมหรือความชราของเซลล์ผิวได้ โดยเฉพาะความเสื่อมของเซลล์ผิวที่เกิดจาก AGEs ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นระหว่างโมเลกุลของน้ำตาลกับสารชีวโมเลกุลชนิดอื่น ๆ ในชั้นผิว
ส่งผลให้สารชีวโมเลกุลในร่างกายเปลี่ยนสภาพ คอลลาเจน (Collagen) และ อีลาสติน (Elastin) ใต้ชั้นผิวเสียโครงสร้างและถูกทำลาย ทำให้ผิวแห้งกร้าน หย่อนคล้อย ไม่ยกกระชับ ปัญหาที่ตามมาก็คือริ้วรอย ความหมองคล้ำ และกระ ฝ้า จุดด่างดำ
ประโยชน์ของ ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) หรือ วิตามินบี 3 (Vitamin B3)
ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) มีประโยชน์มากสำหรับผิว สามารถช่วยรักษาสิว รวมทั้งลดการอักเสบและรอยแดง ปรับปรุงการทำงานของเกราะป้องกันผิว และทำให้จุดด่างดำดูจางลง
ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ยังสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น การเปลี่ยนสีผิว และความแห้งกร้าน เมื่อนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ มักจะรวมเป็นส่วนผสมใน เซรั่ม ครีม และโลชั่น
นอกจากนั้น ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ยังดีต่อผิวของเราและสามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างดี ต้านมลภาวะ เพิ่มความชุ่มชื่น นุ่มเนียน รูขุมขนดูกระชับ และอ่อนโยนต่อผิวกว่า สารสกัดประเภท AHA BHA
- ช่วยลดรอยแดง รอยดำ รอยสิวได้ดี และช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
- ช่วยคุมความมัน Niacinamide เข้าไปปรับสมดุลในต่อมไขมัน และป้องกันไม่ให้ผลิตน้ำมันมากเกินไป
- ช่วยกระชับขนาดรูขุมขน เมื่อน้ำมันบนผิวลดลง ไม่มีสิ่งอุดตันรูขุมขน จึงทำให้รูขุมขนเรียบเนียนขึ้น
- ช่วยเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวไม่ขาดน้ำ โดยกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ (Ceramide) ให้ผิวชุ่มชื้น เหมาะสำหรับฟื้นฟูผิวที่แห้ง
- ปกป้องผิวจากอัลตราไวโอเลตในแสงแดด และกระตุ้นในการสร้างเกราะปกป้องผิวที่แข็งแรง Skin Barrier ทำหน้าที่คอยปกป้องผิวของเราเสมือนเป็นโล่ป้องกันที่เซลล์ผิว
- ลดริ้วรอย โดย Niacinamide จะเข้าไปสร้างคอลลาเจนบนชั้นผิว ทำให้ผิวเด้งอิ่มฟูขึ้น
- ช่วยลดสิวอุดตัน รอยสิว เพราะว่า Niacinamide มีส่วนในการช่วยลดการอักเสบ จึงเหมาะมากสำหรับคนที่เป็นสิวอักเสบ
เอกสารอ้างอิง
- Glutathione as a depigmenting agent: an overview. Int J Cosmet Sci. 2005 Jun;27(3):147-53
- Glutathione Depletion Increases Tyrosinase Activity in Human Melanoma Cells, Journal of Investigative Dermatology (1993) 101, 871-874
- Glutathione metabolism and its implications for health, J Nutr. 2004 Mar;134 (3):489-92
- ภาวะ Oxidative Stress กับการเกิดโรค, กลุ่มวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถาบันวิจัยและพัฒนา องค์การเภสัชกรรม, http://www.gpo.or.th/rdi/html/oxidative_stress.html
- Deficient synthesis of glutathione underlies oxidative stress in aging and can be corrected by dietary cysteine and glycine supplementation. Am J Clin Nutr. 2011 Sep;94(3):847-53. doi: 10.3945/ajcn.110.003483. Epub 2011 Jul 27
- Glutathione synthesis is diminished in patients with uncontrolled diabetes and restored by dietary supplementation with cysteine and glycine. Diabetes Care. 2011 Jan;34(1):162-7. doi: 10.2337/dc10-1006. Epub 2010 Oct 7
- Glutamine and a-ketoglutarate as glutamate sources for glutathione synthesis in human erythrocytes. FEBS J. 2011 Sep;278(17):3152-63. doi:10.1111/j.1742-4658.2011.08241.x. Epub 2011 Aug 8
- The pharmacology of the antioxidant lipoic acid, Gen Pharmacol. 1997 Sep;29(3):315-31
- Vitamin B3 (Niacin), University of Maryland Medical Center, http://www.umm.edu/altmed/ articles/vitamin-b3-000335.htm
เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop
รหัสสินค้า : 41016
เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-03440-1-0087
ขนาด กxยxส : 9x2x12.5
น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.05
กิฟฟารีน แอคทิ ไวท์ (30 แคปซูล)
ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล: |
แอล-กลูตาไธโอน 125 มก. แอล-ซิสเทอีน 100 มก. กรดอัลฟา-ไลโปอิค 25 มก. ไนอะซีนาไมด์ 10 มก. |
วิธีรับประทาน: วันละ 1-2 แคปซูล พร้อมอาหาร |
คำเตือน : อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค

รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์