ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ว่า “น้ำมันปลา” คือหนึ่งในอาหารเสริมสุขภาพที่ให้ประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค ให้ผลดีมากในการลดไขมันในเลือด และลดระดับไตรกลี-เซอไรด์ในเลือด “ป้องกันโรคหัวใจ โรคความดันสูง และโรคเบาหวาน” เรามาเรียนรู้กันครับว่า เจ้าน้ำมันปลาเนี่ย! มีประโยชน์อะไรบ้าง? ครับ
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ น้ำมันปลา (Fish Oil)

น้ํามันปลา แหล่งสําคัญของกรดไขมัน โอเมก้า 3 โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันจําเป็นที่ร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ และต้องได้รับจากอาหารในปริมาณที่เพียงพอ
น้ำมันปลา ประกอบด้วยอะไรบ้าง ?
ประกอบด้วย “กรดไขมันจำเป็น” ประเภท “โอเมก้า 3” อยู่มาก ซี่งในกลุ่มของโอเมก้า 3 นั้นเรายังสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด ที่สำคัญคือ
- กรดโดโคซาเฮกอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid) หรือ DHA
- กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (Eicosapentaennoic Acid) หรือ EPA

กรดไขมันโอเมก้า 3 ประกอบไปด้วย DHA
- มีส่วนช่วยในการบํารุงสมอง
- ทําให้เซลล์สมองแข็งแรง
- ช่วยให้สารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้สะดวกขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพการทํางานของเซลล์สมอง

กรดไขมันโอเมก้า 3 ประกอบไปด้วย EPA
- ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์
- เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
- ช่วยลดความหนืดและทําให้เลือดไหลเวียนได้ดี
- ป้องกันหลอดเลือดตีบและอุดตัน จึงช่วยป้องกันสาเหตุหลักของการ เกิดโรคหัวใจล้มเหลวได้
- ช่วยลดอาการอักเสบที่เกิดจากโรคข้อเสื่อม และข้ออักเสบรูมาตอยด์

น้ำมันปลา แตกต่างจาก น้ำมันตับปลา อย่างไร ?
นํ้ามันปลา & นํ้ามันตับปลา ชื่อคล้ายแต่ไม่เหมือนกันนะ
นํ้ามันปลา (Fish oil) สกัดได้จาก : ส่วนหัวและเนื้อ ของปลาทะเลน้ําลึก
- ให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวกลุ่มโอเมก้า 3
- ประกอบไปด้วยดีเอชเอ (DHA) มีบทบาทในการพัฒนาสมอง
- อีพีเอ(EPA) ช่วยในการลดระดับไตรกลีเซอไรด์
น้ํามันตับปลา (Cod liver oil) สกัดได้จาก : ตับ ของปลาทะเล
- ให้วิตามินเอ และวิตามินดีสูง ซึ่งทําหน้าที่ในการบํารุงร่างกายทั่วไป
น้ำมันปลา ช่วยลดไขมันในเลือด ได้อย่างไร ?
จากการศึกษาพบว่า สามารถลดระดับของไตรกรีเซอไรด์ในเลือดได้ถึง 19 – 24 % แต่ไม่ลดโคเลสเตอรอล การที่น้ำมันปลาสามารถลดไขมันเลือดได้นี้ เชื่อว่า เกิดจากที่ DHA /EPA ลดการสร้างไตรกรีเซอไรด์ลง และไปยับยั้งการทำงานของ “เอนไซม์ในตับ” ชื่อ Acylransferases และ Phosphatidatephoshydrolase
นอกจากนี้ “น้ำมันปลา” ยังช่วยเพิ่มปริมาณของ “HDL (Hight density Lipoprotein)” ซึ่งจะทำให้มีการเก็บ “โคเลสเตอรอลในเลือด” และ “ผนังหลอดเลือด” กลับสู่ “ตับ” และเปลี่ยน “น้ำดี” เพื่อขับออกนอกร่างกาย
น้ำมันปลา ช่วยลดการบวมของ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ได้อย่างไร ?

สาร DHA /EPA จะลดการสร้าง โพรสตาแกลนดิน (Prosta Glandin) ชนิด ลิวโคไตรอีน (Leukotrienes) ซึ่งเป็นสารก่อการอักเสบ (Proinfammatory Mediator) ทำให้ สามารถลดการอักเสบและบวมของข้อได้


จากการทดลองของ Tulleken และคณะ ได้ให้ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) รับประทานน้ำมันปลา 12 กรัม / วัน พบว่า การบวมของข้อ (Joint Swelling) รวมทั้ง การเคลื่อนไหวลำบากของข้อ (Duration of Morning Stiffness) ลดลง ซึ่งเราสามารถใช้น้ำมันปลาเป็นอาหารเสริมร่วมกับยาที่ใช้อยู่เพื่อลดการบวมและการอักเสบของข้อได้

น้ำมันปลา จะช่วยใน โรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน ได้อย่างไร ?
“น้ำมันปลาช่วยในโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน (Coronary Heart Disease)” โดยกลไกการจับตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนคล่องขึ้น จึงลดทั้งอุบัติการณ์การเป็นโรคนี้ และลดอัตราการตีบซ้ำในผู้ที่เป็นโรคนี้แล้ว
สาร DHA ใน น้ำมันปลา ช่วยบำรุงสมอง ได้อย่างไร ?
ในประเทศ ญี่ปุ่น ช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผลงานวิจัยแสดงผลอย่างชัดเจนว่า สาร DHA ในน้ำมันปลามีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมอง โดยสาร DHA จะช่วยบำรุงสมองให้ทำงานดีขึ้น DHA ผ่านเข้าไปในสมองและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาทที่เรียกว่า Dendrite บริเวณของ Dendrite นี้จะทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณและผ่านข้อมูลระหว่า เซลล์สมองด้วยกัน ดังนั้นจึงมีการแนะนำให้รับประทานเนื้อปลา
(อ้างอิงที่ 1-7)
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ดีเอชเอ และการทำงานของสมอง

“น้ำมันปลา” ประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็นประเภท “โอเมก้า 3” อยู่ในปริมาณสูง ซึ่งในกลุ่มของโอเมก้า 3 นั้น มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว 2 ชนิดที่สำคัญได้แก่
- กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid) หรือ DHA
- กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (Eicosapentaenoic Acid) หรือ EPA
แหล่งของ ดีเอชเอ ( DHA ) และ อีพีเอ (EPA) ในธรรมชาติพบมากในปลาทะเล และสาหร่าย โดย EPA จะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจ ช่วยลดระดับของไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด (อ้างอิงที่ 8) ขณะที่ DHA มีความสำคัญต่อการทำงานของสมอง เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์สมอง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผลงานวิจัยแสดงอย่างชัดเจนว่า “สาร ดีเอชเอ DHA ใน น้ำมันปลา” มีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในช่วงตั้งแต่ “แรกเกิด” ที่ต้องการ ดีเอชเอ DHA ในปริมาณมากและเพียงพอ เพื่อใช้ในการพัฒนาสมองได้อย่างเต็มที่ (อ้างอิงที่ 9)
ใน “วัยผู้ใหญ่” DHA จะผ่านเข้าไปในสมอง และ เสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาท ที่เรียกว่า เดนไดรต์ (dendrite) ซึ่งจะทำหน้าที่ ถ่ายทอดสัญญาณ และ ส่งผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองด้วยกัน ทำให้เกิด การเรียนรู้และการจดจำ (อ้างอิงที่ 10)
นอกจากนี้ ดีเอชเอ DHA ยังมีความสำคัญต่อระบบประสาทตาและระบบการทำงานของสายตาอีกด้วย (อ้างอิงที่ 9)
สาร DHA ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความจำเสื่อม ได้อย่างไร?

“โรคความจำเสื่อม ชนิดที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ โรคอัลไซเมอร์” ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยใน “กลุ่มโรคความจำเสื่อม” โดย “จะมีการเสื่อมของเซลล์สมอง” ในส่วนที่ควบคุมการเรียนรู้และความจำ โรคนี้ส่วนใหญ่พบในผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และอัตราความเสี่ยงของโรคจะเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น (อ้างอิงที่ 11)
โดยเฉพาะ “กลุ่มผู้ป่วยด้วยโรคความผิดปกติของหลอดเลือด” ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจ เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญที่อาจเกิดเซลล์สมองฝ่อเร็วกว่าคนทั่วไป (อ้างอิงที่ 12)
โรคอัลไซเมอร์ คืออะไร?
“โรคอัลไซเมอร์” จะส่งผลให้เกิดความจำเสื่อม การทำงานประสานของร่างกายลดลง พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง หลงลืม สับสน และไม่สามารถปฏิบัติงานที่เคยทำปกติได้ การมีเหตุผลจะลดลง ที่สำคัญคือเมื่อเกิดขึ้นแล้วไม่สามารถรักษาให้หายได้ (อ้างอิงที่ 11)
ปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยโรคนี้ทั่วโลกประมาณ 33.9 ล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 3 เท่าในอีก 40 ปีข้างหน้า สำหรับในประเทศไทยซึ่งมีผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ทั้งหมดประมาณ 8.3 ล้านคน คาดว่า จะมีผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ประมาณ 8.3 แสนคน และคาดการณ์ได้ว่าโรคอัลไซเมอร์จะเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่รุนแรงขึ้นในอนาคต
ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้เป็นโรคเท่านั้น ยังส่งผลกระทบต่อคนในครอบครัวอีกด้วย ดังนั้น โรคอัลไซเมอร์จึงเป็นโรคที่น่ากังวล ในปัจจุบันและอนาคต เป็นอย่างมาก (อ้างอิงที่ 13)
ประโยชน์ของ น้ำมันปลา และ DHA คืออะไร?
หนึ่งในสาเหตุของการเกิด “โรคอัลไซเมอร์” คือ การสะสมของ “อะไมลอยด์ เบต้า (Amyloid Beta)” จนกลายเป็น “อะไมลอยด์ พล๊าค (Amyloid Plaques)” ซึ่งมีความเป็น “พิษ” ต่อเซลล์ประสาท โดยจะทำลายสมดุลไอออน ทำให้เกิด “อนุมูลอิสระ” ทำลายโครงสร้างของ “เยื่อหุ้มเซลล์ที่มีไขมันและโปรตีน” เป็นส่วนประกอบ และทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ “Microglia” ซึ่งเมื่อ” Microglia” ถูกกระตุ้น จะทำให้เกิดการหลั่ง “สารที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ” ที่เป็น “พิษ” ต่อ ระบบประสาท ซึ่งเป็นสาเหตุให้เซลล์สมองถูกทำลาย (อ้างอิงที่ 11,14)
มีงานวิจัยสนับสนุนว่า “DHA ในน้ำมันปลาช่วยเพิ่มสารที่มีชื่อว่า LR11 โปรตีน” ซึ่งสามารถช่วยลดการเกิดอะไมลอยด์ เบต้า (Amyloid Beta) ที่จะรวมตัวเป็น อะไมลอยด์ พล๊าค (Amyloid Plaques) หนึ่งในสาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ (อ้างอิงที่ 15) อีกงานวิจัยที่ทำการทดลองกับผู้สูงอายุ พบว่า การรับประทาน DHA วันละ 900 มก. เป็นเวลา 6 เดือน สามารถเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ และการจดจำได้ดี (อ้างอิงที่ 16)
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยเพิ่มเติมสนับสนุนว่า “DHA สามารถชะลอการเกิดโรคสมองเสื่อมประเภทอัลไซเมอร์ได้” โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ และมีความปลอดภัยสูง (อ้างอิงที่ 17) รวมถึงงานวิจัยระบุว่าการที่ร่างกายได้รับ DHA ที่ไม่เพียงพอจะมีแนวโน้มทำให้มีโอกาสเกิดอนุมูลอิสระ เกิดปฏิกริยา lipid peroxidation ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ (อ้างอิงที่ 18)
ประโยชน์ของ DHA กับโรคสมาธิสั้น

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยในประเทศออสเตรเลีย โดยศึกษากับ “เด็ก” อายุ 7-12 ปี ที่มี “อาการสมาธิสั้น” พบว่า การเพิ่มขึ้นของ “ดีเอชเอ” ในเม็ดเลือดแดง ส่งผลให้ “เด็ก” มีการอ่านคำที่ดีขึ้น การสะกดคำที่ดีขึ้น ความสนใจดีขึ้น พฤติกรรมที่ผิดปกติ ความกระสับกระส่าย และอาการสมาธิสั้นโดยรวมลดลง (อ้างอิงที่ 19)
และมีงานวิจัยในประเทศโอมาน ระบุว่า “เด็ก” ที่เป็นโรคออทิซึม หรือ “ผู้ป่วยออทิสติก” จะมีระดับของ DHA ในเม็ดเลือดแดงต่ำเช่นเดียวกัน (อ้างอิงที่ 20)
DHA และ EPA ในธรรมชาติ มีคุณสมบัติที่ช่วยในการดูแลสุขภาพได้ดังนี้:
แหล่งของ DHA และ EPA ในธรรมชาติพบมากในปลาทะเลและสาหร่าย โดยมีคุณสมบัติที่ช่วยในการดูแลสุขภาพได้ดังนี้:
- EPA มีช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจ ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ลดความหนืดและทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ลดอาการอักเสบที่เกิดจากโรคข้อเสื่อม และข้ออักเสบรูมาตอยด์
- DHA มีความสำคัญต่อการทำงานของสมอง เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์สมอง ช่วยให้เซลล์สมองแข็งแรง ช่วยให้สารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้สะดวกขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์สมอง
ทราบ หรือ ไม่? น้ำมันปลา มีสัดส่วนของ EPA:DHA อย่างไร?

ปกติแล้ว น้ำมันปลา จะประกอบด้วยกรดไขมันหลัก 2 ชนิด คือ EPA และ DHA ซึ่งจะมีการปรับสัดส่วนของ EPA:DHA ให้เหมาะสมกับความต้องการที่แตกต่างกัน
- น้ำมันปลา ที่มีสัดส่วนของ EPA:DHA เป็น 3:2 เช่น มี EPA 180 มก. และ DHA 120 มก. เหมาะกับการดูแลสุขภาพโดยรวม ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ ลดอาการอักเสบของข้อต่างๆ และ บำรุงสมองโดยรวม
- น้ำมันปลา ที่มีสัดส่วนของ EPA:DHA เป็น 1:5 เช่น EPA 100 มก. และ DHA 500 มก. หรือ DHA มากกว่าสูตรปกติถึง 4 เท่า จะเน้นการส่งเสริม พัฒนาการทางสมอง เพิ่มการเรียนรู้และจดจำ รวมทั้งลดความเสี่ยงต่อการเกิด อัลไซเมอร์ อีกด้วย
คำถามเกี่ยวกับ น้ำมันปลา
Q: โอเมก้า 3 ในน้ำมันปลา แตกต่างจากโอเมก้า 6 อย่างไร?
A: โอเมก้า 3 และ 6 เป็นไขมันที่ไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนทั้งคู่ โดย:
- โอเมก้า 3 มักพบอยู่ในอาหารจำพวกปลาและอาหารทะเล ทำหน้าที่ช่วยยับยั้งการอักเสบ ข้ออักเสบรูมาตอยด์ ป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันมะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ สมองเสื่อม จอประสาทตาเสื่อม
- โอเมก้า 6 มักพบอยู่ในน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม หากรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดการอักเสบ และอาจเกิดโรคร้ายต่างๆตามมา
Q: เราสามารถได้รับโอเมก้า 3 จากแหล่งไหนได้บ้าง และมีวิธีการเลือกทานอย่างไร?
A: แหล่งของโอเมก้า 3 มีอยู่ 2 แหล่ง ดังนี้
- โอเมก้า 3 จากปลาทะเล ให้สารสำคัญในรูปของ EPA และ DHA
- โอเมก้า 3 จากพืช เช่น น้ำมันถั่วดาวอินา น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ เป็นต้น ที่ให้สารสำคัญในรูปของ ALA แนะนำในผู้ที่แพ้ปลา หรืออาหารทะเล
โดย ALA จะต้องถูกเปลี่ยนเป็น EPA และ DHA ก่อน จึงจะดูดซึมไปใช้ได้ ดังนั้นโอเมก้า 3 จากปลาทะเลจะถูกดูดซึมและนำไปใช้ได้ไวกว่า
Q: น้ำมันปลาช่วยลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองได้อย่างไร?
A: น้ำมันปลาช่วยลดระดับไขมันในเลือดชนิดไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglycerides) และลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น จึงลดโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองได้
Q: น้ำมันปลาช่วยลดการอักเสบได้อย่างไร เมือเทียบกับยาต้านการอักเสบ?
A: ยาต้านอักเสบ จะไปยับยั้งขั้นตอนสุดท้ายของการอักเสบ แต่น้ำมันปลาจะไปยับยั้งสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ ซึ่งเป็นการยับยั้งที่ต้นเหตุ จึงมีความปลอดภัยและได้ผลดีกว่า สามารถทานต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องหยุดเหมือนยาต้านอักเสบ
Q: ประโยชน์อื่นๆของโอเมก้า 3 ในน้ำมันปลา มีอะไรบ้าง?
A: ประโยชน์อื่นๆของโอเมก้า 3 ในน้ำมันปลา มีดังนี้
- ลดภาวะซึมเศร้าได้ โดยเข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ทำลายเซโรโทนิน (Serotonin)
- ป้องกันและรักษาโรคกล้ามเนื้อถดถอยอ่อนแรง (Sarcopenia) ในกลุ่มผู้สูงอายุได้
- ช่วยให้มีการเรียนรู้และความทรงจำที่ดีขึ้น และมีประโยชน์ในการส่งเสริมสุขภาพการทำงานของสมองในผู้สูงอายุ
Q: ประโยชน์โดยรวมของน้ำมันปลามีอะไรบ้าง?
A: ประโยชน์ด้านอื่นๆของน้ำมันปลามีดังนี้
- ช่วยให้คิดไวขึ้น ความจำดี สมองสดชื่น ไม่อ่อนล้า
- ป้องกันโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์
- ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอรไรด์ และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
- ช่วยลดความข้นหนืดของเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดี
- ป้องกันหลอดเลือดอุดตันจากการจับตัวของเกล็ดเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดและสมองได้
- ช่วยลดการสร้างสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ จึงช่วยลดการอักเสบและบวมของข้อได้
Q: ใครสามารถทานน้ำมันปลาได้บ้าง?
A: น้ำมันปลาให้โอเมก้า 3 ซึ่งร่างกายเราไม่สามารถสร้างขี้นเองได้ ดังนั้นจึงสามารถรับประทานได้ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเกิดโรคต่างๆ
Q: ในแต่ละช่วงวัยต้องทาน น้ำมันปลาเท่าไหร่ เพื่อให้เพืยงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน
A: ในแต่ละช่วงวัยต้องทาน น้ำมันปลาเท่าไหร ตามตารางดังนี้
ช่วงอายุ | EPA-DHA (mg.) | FISH OIL (mg.) | คิดเป็นแคปซูล |
2 – 4 ปี | 100 – 1500 | 300 – 500 | 500 มก. 1 แคปซูล |
4 – 6 ปี | 150 – 200 | 500 – 670 | 500 มก. 1 แคปซูล |
6 – 10 ปี | 200 – 250 | 670 – 830 | 500 มก. 1 – 2 แคปซูล |
มากกว่า 10 ปี | 250 – 2,000* | 830 – 6,670 | 1,000 มก. 1 – 7 แคปซูล |
Q: ประโยชน์ของ น้ำมันปลา ในแต่ละช่วงวัย
ทารกและสตรีมีครรภ์ | เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ และ การเจริญเติบโตของสมอง |
วัยเรียน | เสริมสร้างสมาธิ และ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง |
วัยทำงาน | เสริมสร้างสมาธิ และ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง และ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ เป็นต้น |
ผู้สูงอายุ | ป้องกันภาวะสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ และ บรรเทาอาการของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคข้อเสื่อม โรคเบาหวาน เป็นต้น |
Q: ในการรับประทานน้ำมันปลา มีข้อห้าม ข้อควรระวังหรือไม่?
A: ข้อห้าม ข้อควรระวัง ของการทานน้ำมันปลามีดังนี้:
- ควรหลีกเลี่ยงการเสริมน้ำมันปลาในผู้ป่วยที่ได้ยาต้านเกร็ดเลือด (เช่น แอสไพริน) และยาต้านการแข็งตัวของเลือด (เช่น วาร์ฟาริน)
- ผู้ที่แพ้อาหารทะเล มักแพ้โปรตีนจากอาหารจึงสามารถทานน้ำมันปลาได้ แต่หากมีความผิดปกติ เช่นผื่นผิวหนัง คลื่นไส้ ไม่สบายท้อง ก็ต้องหยุดทาน
Q: ในการเลือกซื้อน้ำมันปลา เราควรพิจารณาจุดใดบ้าง
A: เราควรพิจารณาจาก:
- น้ำมันปลาที่ดีต้องมี DHA และ EPA ในสัดส่วนที่เหมาะสม คือ DHA:EPA = 1:2 หรือ 2:3
- ใน 1,000 มก. ควรมี DHA + EPA มากกว่า 200 มก.
- น้ำมันปลาต้องนำเข้าจากประเทศที่เป็นแหล่งของปลาที่มีโอเมก้า 3 สูง
- มีคุณภาพตามมาตรฐานของเภสัชและมาตรฐาน GOED (Global Organization for EPA and DHA Omega-3)
- ต้องผลิตจากโรงงานที่เชื่อถือได้ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP, BRP, และ ISO 9001
ประโยชน์ ของ น้ำมันปลา (Fish Oil)

นํ้ามันปลา กับ การบํารุงสมอง
- ช่วยให้คิดไวขึ้น
- ความจําดี
- สมองสดชื่น ไม่อ่อนล้า
- ป้องกันโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์

น้ํามันปลา กับ การดูแลหัวใจ
- ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
- ช่วยลดความข้นหนืดของเลือด ทําให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
- ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน จากการจับตัวของเกล็ดเลือด
- ป้องกันการเกิดตะกอน (Plaque) สาเหตุของหลอดเลือดตีบและอุดตัน

น้ํามันปลา กับโรคข้อเสื่อมและโรคและข้ออักเสบรูมาตอยด์
- ช่วยลดการสร้างสาร ที่ทําให้เกิดการอักเสบ จึงช่วยลดการอักเสบ และบวมของข้อได้
ดังนั้นการรับประทานอาหาร หรือ อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของ กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก หรือ DHA จะมีส่วนสำคัญในการเสริมพัฒนาการในเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น และผู้ป่วยออทิสติก นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงในการเป็น โรคอัลไซเมอร์ และมีส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง เพิ่มการเรียนรู้ และการจดจำได้อีกด้วยนะครับ
อาหารเสริม น้ำมันปลา จาก กิฟฟารีน มีอะไรบ้าง?
น้ํามันปลา แหล่งสําคัญของกรดไขมัน โอเมก้า 3
โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันจําเป็นที่ร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ และต้องได้รับจากอาหารในปริมาณที่เพียงพอ
กรดไขมันโอเมก้า 3 ประกอบไปด้วย กิฟฟารีน น้ำมันปลา
EPA กิฟฟารีน น้ำมันปลา
- ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์
- เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
- ช่วยลดความหนืดและทําให้เลือดไหลเวียนได้ดี
- ป้องกันหลอดเลือดตีบและอุดตัน จึงช่วยป้องกันสาเหตุหลักของการ เกิดโรคหัวใจล้มเหลวได้
DHA กิฟฟารีน น้ำมันปลา
- มีส่วนช่วยในการบํารุงสมอง
- ทําให้เซลล์สมองแข็งแรง
- ช่วยให้สารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้สะดวกขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพการทํางานของเซลล์สมอง
สุดยอดคุณประโยชน์ ของนํามันปลากับการดูแลสุขภาพ
นํ้ามันปลากับการบํารุงสมอง
- ช่วยให้คิดไวขึ้น
- ความจําดี
- สมองสดชื่น ไม่อ่อนล้า
- ป้องกันโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์
น้ำมันปลา กิฟฟารีน ผสมวิตามิน อี 500 มก. (50แคปซูล)

น้ำมันปลา กิฟฟารีน ผสมวิตามิน อี 500 มก. (90แคปซูล)

น้ำมันปลา 500 มก. ผสมวิตามิน อี
ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล: |
น้ำมันปลาจากปลาทะเล 68.49% |
ดี-แอลฟา-โทโคเฟอริล แอซิเทต คอนเซนเทรต 0.28% |
ใน 1 แคปซูล มีน้ำมันปลา 500 มก. ประกอบด้วย: |
กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (อีพีเอ) 90 มก. |
กรดโดโอซาเฮกซาอีโนอิก (ดีเอชเอ) 60 มก. |
กรดไขมันอิ่มตัว 145 มก. |
น้ำมันปลา กิฟฟารีน ผสมวิตามิน อี 1000 มก. (50แคปซูล)

น้ำมันปลา กิฟฟารีน ผสมวิตามิน อี 1000 มก. (90แคปซูล)

น้ำมันปลา 1,000 มก. ผสมวิตามิน อี
ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล: |
น้ำมันปลาจากปลาทะเล 68.49% |
ดี-แอลฟา-โทโคเฟอริล แอซิเทต คอนเซนเทรต 0.28% |
ใน 1 แคปซูล มีน้ำมันปลา 1,000 มก. ประกอบด้วย: |
กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (อีพีเอ) 180 มก. |
กรดโดโอซาเฮกซาอีโนอิก (ดีเอชเอ) 120 มก. |
กรดไขมันอิ่มตัว 290 มก. |
น้ำมันปลา กิฟฟารีน 4 เอ็กซ์ 1000 มก. ผสมวิตามิน อี (30แค็ปซูล)
น้ํามันปลา คุณภาพ คูณ 3 ถ้ากิฟฟารีนเลือกแล้ว ต้องดีที่สุด
พิถีพิถันในการ เลือกวัตถุดิบที่มาจากแหล่ง ที่มีคุณภาพ…
- มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูงสุด
- สกัดจากทุกส่วนของปลา
- สกัดจากปลาหลากหลายชนิดจากทะเลแถบทวีปยุโรป อเมริกาใต้ และแอฟริกาเหนือซึ่งเป็นทะเลที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพของปลา
- นํามาสกัดเป็นน้ํามันปลาที่ประเทศไอซ์แลนด์
ผลิตจากโรงงานคุณภาพ…
ได้รับการรับรอง ระบบประกันคุณภาพ GMP ระดับสากล
วัตถุดิบมีคุณภาพตามมาตรฐาน ทางเภสัชและมาตรฐาน GOED
(Global Organization for EPA and DHA Omega-3)
มีความเข้มงวดในการควบคุมปริมาณสารสําคัญ และการควบคุมสารปนเปื้อน และสารตกค้างต่างๆจากสิ่งแวดล้อม เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้บริโภค
อาหารเสริม น้ำมันปลา 1:5 (EPA 100 มก. : DHA 500 มก.) มากกว่าสูตรปกติถึง 4 เท่า กิฟฟารีน น้ำมันปลา 4 เอ็กซ์ (30แค็ปซูล)

อาหารเสริม น้ำมันปลา 1:5 (EPA 100 มก. : DHA 500 มก.) มากกว่าสูตรปกติถึง 4 เท่า กิฟฟารีน น้ำมันปลา 4 เอ็กซ์ (60 แคปซูล)

น้ำมันปลา กิฟฟารีน 4 เอ็กซ์ 1000 มก. ผสมวิตามิน อี
ใน 1 แคปซูล มีน้ำมันปลา 1000 มก. ประกอบด้วย |
กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง |
กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (อีพีเอ) 100 มก. |
กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (ดีเอชเอ) 500 มก. |
เอกสารอ้างอิง:
- Fish consumptlon and risk of sudden cardiac death, JAMA 1998.279(1) 23-8.
- Effect of garlic and fish-oll supplementation on serum lipld and lipoprotein concentrations in hypercholesterolemic men. Am J Clin Nutr 1997 6502) 445-50.
- Effects of docosahexaenoic acid on serum lipoproteins in patients with combined hyperlipldemia: a randomized, double-blind, placebo- controlled trial. J Am Coll Nutr 1997; 16(3): 236-43.
- Fish oil fatty acid supplementation In active rheumatoid arthritis. A double-blinded, controlled, crossover study. Ann Intern Med 1987:106(4):497-503.
- Validation of a meta-analysis: the effects of fish oil In rheumatold arthritis. J Clln Epidemlol 1995:48(11): 1379-90.
- Fatty acid composition of human brain phospholipids during normal development. J Neurochem 1998:71 (6) 2528-33.
- Neonatal polyunsaturated fatty acid metabolism, LIplds 1999:34(2):139-4
- Practical Applications of Fish oil (omega-3 fatty acids) in Primary Care. J Am Board Farm Pract 2005;18:28-36
- A Diet Enriched with the Omega-3 Fatty Acid Docosahexaenoic Acid Reduces Amyloid Burden in an Aged Alzheimer Mouse Model. The Journal of Neuroscience, March 23, 2005;25(12):3032-3040
- ทางเลือกในการพัฒนาสมองด้วยสาร DHA โดย สิงหะเนติ, สรวงสุดา 2541 สาร DHA ทางเลือกในการพัฒนาสมองวิทยาศาสตร์และโทคโนโลยี 13(2)พ.ค.-สค. (ออนไลน์): http://www.school.net.th/library/snet4/anatomy/dha.htm
- Expression of Amyloid-Beta and Interleukin- 13 Recombinant Protein in Escherichia coli. National Graduate Research Conference Nakhon Ratchasima Rajabhat University.
- Risk factors: Alzheimer’s Association (Internet). 2008 (about 5 p.]. Available from: http://www.alz.org/alzheimers.disease causes risk_factors. asp
- การพัฒนาโปรแกรมตรวจคัดกรองความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ได้ด้วยสมาร์ทโฟน: สำนักงานสารนิเทศและประชาสัมพันธ์กระทรวงสาธารณสุข (ออนไลน์). กุมภาพันธ์ 2556 : 1 หน้า: http://203.157.19.14/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew. php?idHot_new=53497
- Omega-3 fatty acids and dementia. Prostaglandins Leuko Essent Fatty Acids. Aug-Sep 2009;81(2-3):213-21.
- Omega-3 Fatty Acid Docosahexaenoic Acid Increases SorLA/LR11, a Sorting Protein with Reduced Expression in Sporadic Alzheimer’s Disease (AD): Relevance to AD Prevention. J Neurosci, December 26,2007;27(52):14299-14307.
- Beneficial effects of docosahexaenoic acid on cognition in age-related cognitive decline. Alzheimer’s & Dementia: The journal of the Alzheimer’s association, November 2010, Volume 6, Issue 6, Pages 456-464.
- DHA May Prevent Age-Related Dementia. J Nutr. April 2010;140(4):869-874.
- ประโยชน์ของน้ํามันปลา (Fish Oil) สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (ออนไลน์) http://www.thalhealth.or.th/healthcontent/article/17557
- Eicosapentaenoic and docosahexaenoic acids, cognition, and behavior in children with attention- deficit/hyperactivity disorder: a randomized controlled trial. Nutrition, June 2012; 28(6):670-7.
- Impact of nutrition on serum levels of docosahexaenoic acid among Omani children with autism. Nutrition, June 2013:50899-9007(13)00196-2.
เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะครับ
สิทธิพิเศษเมื่อสมัครสมาชิกกิฟฟารีนกับเรา
- ค่าสมัครเพียง 180 บาท เป็นสมาชิกตลอดชีพ ไม่มีค่าต่ออายุรายปี
- รับแคตตาล็อกสินค้าพร้อมบัตรสมาชิก และรับส่วนลดในการซื้อสินค้าราคาสมาชิก 25% ได้ทันที
- รับเงินปันผล 10%-15%-25% คืนกลับมาจากการใช้สินค้าทุกเดือน และรับโบนัสพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
- รับสิทธิ์แลกซื้อสินค้าราคาโปรโมชั่นพิเศษประจำเดือน และโปรโมชั่นของแถมประจำสัปดาห์ ได้ทุกเดือน
- ประกันคุ้มครองชีวิตฟรี ในรหัสเดียวกัน สามี/ภรรยา วงเงินตั้งแต่ 120,000-320,000 บาท
- สามารถเลือกได้ว่าต้องการเป็นผู้ใช้สินค้าเพียงอย่างเดียว หรือ ต้องการทำเป็นธุรกิจเพื่อสร้างรายได้
- สร้างเครือข่ายได้รับลิขสิทธิ์ 4%-10% พร้อมส่งต่อเครือข่าย และรายได้ทั้งหมด เป็นมรดกให้ทายาท
- เมื่อขึ้นตำแหน่งแล้วจะไม่มีการปรับหรือลดตำแหน่งในภายหลัง แม้ว่าจะไม่ได้รักษายอดในเดือนถัดไป
สำหรับท่านที่สมัครสมาชิกกิฟฟารีน กับ ทางเว็บไซต์ ของเรา
- รหัส สมาชิก ของท่าน คือ คูปองส่วนลด 25% ในการ ซื้อ สินค้า กับทาง เว็บไซต์ ของเรา
- เราจำกัดแค่ ต้องใช้คูปองกับ เว็บไชต์ ของเรา แต่ เราไม่ได้จำกัด ผู้ใช้ คุณ จะให้ใครใช้ก็ได้ โดย เราจัดส่งให้ ฟรี !
- สำหรับ ท่าน ที่ต้องการต่อยอด ธุรกิจ ลองปรีกษาเรา เรายินดีที่จะให้คำปรึกษา แก่คุณ
- ช่องทางสะดวกให้คำปรึกษา Fan Page Sirikul Shop