, , ,

อาหารเสริม เลซิติน ผสม แคโรทีนอยด์ และ วิตามินอี ชนิดแคปซูลนิ่ม กิฟฟารีน เลซิติน (15-30-60 แคปซูล)

220฿680฿

จะสายปาตี้ หรือ สายรักสุขภาพ ก็แนะนำให้ทาน

เลซิติน (Lecithin) มีสรรพคุณ ช่วยบำรุงตับ บำรุงสมอง ดูแลหลอดเลือดและหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล เลซิติน (Lecithin) ของกิฟฟารีนได้มีการพัฒนาสูตรที่มีส่วนผสมแตกต่างจาก เลซิติน (Lecithin) ทั่วไป ด้วยเลซิติน ชนิด ฟอสฟาทิดิลโคลีน (Phosphatidylcholine) สูง จากธรรมชาติ 4 ชนิด และ วิตามิน อี (Vitamin E)

มีให้เลือก 3 ขนาดบรรจุ :

  • 15 แคปซูล
  • 30 แคปซูล
  • 60 แคปซูล

อาหารเสริม เลซิติน ผสม แคโรทีนอยด์ และ วิตามินอี ชนิดแคปซูลนิ่ม กิฟฟารีน เลซิติน (15-30-60 แคปซูล)
Giffarine Lecithin : Lecithin Dietary Supplement Mixed with Carotenoids and Vitamin E Soft Capsule Type (15-30-60 capsules)

จะสายปาตี้ หรือ สายรักสุขภาพ ก็แนะนำให้ทาน

เลซิติน (Lecithin) มีสรรพคุณ ช่วยบำรุงตับ บำรุงสมอง ดูแลหลอดเลือดและหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล เลซิติน (Lecithin) ของกิฟฟารีนได้มีการพัฒนาสูตรที่มีส่วนผสมแตกต่างจาก เลซิติน (Lecithin) ทั่วไป ด้วยเลซิติน ชนิด ฟอสฟาทิดิลโคลีน (Phosphatidylcholine) สูง จากธรรมชาติ 4 ชนิด และ วิตามิน อี (Vitamin E)

  • ที่สกัดจากผลปาล์มแดงธรรมชาติ มีสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงช่วยผสานพลังส่งเสริมการทำงานของเลซิตินให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
  • คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงจากสหรัฐอเมริกา ที่ได้มาตรฐานและได้รับการยอมรับในเรื่องความปลอดภัย และประสิทธิภาพ
  • แคปซูลแบบนิ่ม ทำจากเจลาตินซึ่งสกัดจากกระดูกและชั้นไขมันใต้ผิวหนังของวัว
  • ผ่านการรับรองจาก อย. ว่ามีมาตรฐาน ปลอดภัย สามารถรับประทานได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย

มาดูแลตับวันนี้ ก่อนจะสายเกินไป

เลซิติน คือ อะไร?

“เลซิติน (Lecithin)” เป็น “ไขมัน” ในกลุ่ม “ฟอสโฟไลปิด (Phospholipid)” ซึ่งอุดมด้วยสาร “ฟอสฟาทิดล โคลีน (Phosphatidyl Choline)” ที่มีคุณสมบัติ เข้ากันได้กับน้ําและน้ํามัน ถือเป็นตัวทําละลายที่ดี ช่วยในการทําละลาย โคเลสเตอรอล (Cholesterol) ในเลือดให้แตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็กๆ จึงลดการสะสม ของไขมันที่ตับและลดการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือด

แหล่งของเลซิตินที่พบได้ตามธรรมชาติ มีอยู่ 2 แหล่งที่สําคัญ คือ
  1. ร่างกายของมนุษย์ สามารถผลิตเลซิตินได้เองที่ “ตับ” แต่หากร่างกาย ขาดสารตั้งต้นสําหรับใช้ผลิตเลซิติน เช่น กรดไขมันจําเป็น วิตามินบี และ สารอาหารสําคัญอื่นๆ ก็จะส่งผลให้ร่างกายสร้างเลซิตินได้ไม่เพียงพอ
  2. แหล่งธรรมชาติ พบได้ทั้งในพืชและสัตว์ โดยจะพบมากในไข่แดง ถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสง จมูกข้าว เป็นต้น แต่การบริโภคอาหาร เหล่านี้ในปริมาณมาก มักจะให้โคเลสเตอรอลสูงตามมาด้วย

ปัจจุบัน จึงมีการสกัด เลซิติน (Lecithin) เข้มข้น จากไข่แดงและถั่วเหลือง ซึ่ง เลซิติน (Lecithin) ที่สกัดจากถั่วเหลืองจะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันสุขภาพได้ดีกว่าแหล่งอื่นๆ เพราะมีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวมากที่สุด และปราศจาก โคเลสเตอรอล (Cholesterol) นั่นเอง

การศึกษาวิจัย เลซิติน กับ ตับ

“ตับ” เป็น “อวัยวะ” ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย ทําหน้าที่สําคัญหลายประการ เมื่อใดก็ตามที่ตับทํางานไม่เป็นปกติ เช่น ไขมันพอกตับ ตับอักเสบ ตับแข็ง

จะเกิดอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ภูมิต้านทานต่ํา ขาดโปรตีน บวม เลือดออกง่าย แผลหายช้า น้ําตาล ในเลือดสูงหรือต่ํากว่าปกติ ไขมันในเลือดสูง ท้องมาน อาการทางสมอง ไตวาย หัวใจวาย และส่งผลต่อสุขภาพ โดยรวมของร่างกายในทุกระบบ

ปัจจุบัน มีผู้ป่วยที่ต้องเผชิญกับปัญหาโรคเกี่ยวกับ ตับเป็นจํานวนมาก โดยมีงานวิจัยรายงานว่า 30% ของคนทั่วไปมีภาวะไขมันพอกตับ (ศึกษาโดยการ ตรวจเนื้อเยื่อ)

โดยกว่า 70% ของคนอ้วน จะมีภาวะ ไขมันพอกตับ และมีความเสี่ยงต่อภาวะตับอักเสบ และตับแข็ง และ 95% ของคนอ้วนที่ดื่มสุรา จะมี ภาวะไขมันพอกตับ และมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นตับ อักเสบและตับแข็งได้

นอกจากนี้ ยังพบว่าโรคเรื้อรังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โคเลสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอไรด์สูง

จะมีส่วนเชื่อมโยง ให้เกิดโรคเกี่ยวกับตับโดยเฉพาะไขมันพอกตับได้มีรายงานว่า 80% ของผู้ป่วยเบาหวาน มีภาวะไขมัน พอกตับ และมีโอกาสเสียชีวิตจากโรคตับแข็งสูงกว่าการเสียชีวิตจากโรคหัวใจด้วยสัดส่วน 2.7 : 1.8 เลยทีเดียว

สารฟอสฟาทิดิลโคลีน ใน เลชิติน มีบทบาทในการบํารุงตับ ดังนี้
  • ช่วยในการกําจัดไขมันออกจากเซลล์ตับ
  • ยับยั้งการสะสมไขมันในเซลล์ตับ

เลซิติน ที่มีฟอสฟาติดิลโคลีนสูง จะช่วยแก้ปัญหาไขมันพอกตับได้เป็นอย่างดี

ประโยชน์ของ เลซิติน (Lecithin)
1.ช่วยดูแลตับ และ ปกป้องตับ

ดูแลตับ และ ปกป้องตับ จากการเกิดภาวะไขมันพอกตับ บํารุงตับ ป้องกันตับอักเสบ ป้องกันตับแข็ง ลดภาวะไขมันพอกตับ

มีการศึกษากับผู้ป่วยที่ต้องได้รับ อาหารทางหลอดเลือดดําโดยตรงเป็นเวลานาน (Long term parenteral nutrition) จํานวน 15 คน ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้มักพบปัญหา ระดับโคลีนในเลือดต่ํา

และพบว่าประมาณ 50% ของผู้ป่วยมี ภาวะตับอักเสบ จึงทดลองให้เลซิตินในผู้ป่วยกลุ่มนี้เป็นเวลา 6 สัปดาห์

พบว่า กลุ่มที่ได้รับเลซิตินมีระดับโคลีนในเลือดเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% และมีการสะสมของไขมันที่ตับลดลงอย่างมีนัยสําคัญ เมื่อเทียบกับ ก่อนการทดลอง ดังตารางนี้

กลุ่มที่ได้รับเลชิดิน กลุ่มที่ไม่ได้รับเลซิติน
ระดับโคลีนในเลือด เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ลดลงประมาณ 25%
การสะสมไขมันที่ตับ ลดลงอย่างมีนัยสําคัญ ไม่เปลี่ยนแปลง

เนื่องจาก เลซิติน จะลดการเกิดออกซิเดชั่นของไขมันภายในตับ ทําให้ไขมันไม่เกิดการรวมตัว จึงไม่ไปพอกที่เซลล์ตับ อีกทั้งเร่ง การเผาผลาญไขมันที่ตับ จึงทําให้ไม่เกิดการสะสม และลดการ ดูดซึมโคเลสเตอรอลที่เป็นสาเหตุสําคัญในการเกิดภาวะไขมันพอกตับนั่นเอง

2.ป้องกันโรคตับจากแอลกอฮอล์

ป้องกันโรคตับจากแอลกอฮอล์ มีการศึกษาในลิงบาบูนพบว่า

เลซิติน สามารถป้องกันการเกิด โรคตับแข็ง เนื่องจากการรับประทาน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ โดยเลซิตินจะไปกระตุ้นการทํางานของ เอนไซม์คอลลาจีเนสในตับ จึงลดการสร้างพังผืดในตับ ลดการสะสมของไขมันในตับ

ซึ่งเป็นสาเหตุของการพัฒนาไปสู่โรคตับแข็ง ป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นของไขมันบริเวณตับ จึงไม่เกิดอนุมูลอิสระไปทําลายเซลล์และป้องกันภาวะจากการอักเสบของตับ

จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า ลิงบาบูนที่ได้รับเหล้าจะพัฒนาไป เป็นตับแข็งเกือบทุกตัวภายใน 6 ปี แต่หากได้รับเหล้าร่วมกับ ฟอสฟาติดิลโคลีน จะไม่เป็นตับแข็งแม้แต่ตัวเดียว

3.ป้องกันตับจากสารพิษต่าง ๆ
  1. ป้องกันตับจากพิษของยาบางประเภท ได้แก่ แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ยาแก้อักเสบเตตร้าไซคลิน
  2. ป้องกันตับจากสารเคมีหรือพิษของยากําจัดศัตรูพืชต่างๆ
  3. ป้องกันตับจากพิษของเห็ดบางชนิด
  4. ป้องกันตับจากรังสี
4.ช่วยบํารุงสมอง

บํารุงสมอง ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ เสริมสร้างความจํา และลดอาการอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มต้น ปัจจุบันการรักษา ทางการแพทย์ได้ใช้ เลซิติน ในการบําบัดโรคทางสมองต่างๆ เช่น โรคพาร์คินสัน (Parkinson’s Disease) โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease)

ซึ่งเป็น โรคทางสมอง ที่เกิดจากเซลล์ประสาทขาดสาร อะซิทิลโคลีน (Acetylcholine) หรือคนชราที่ป่วยเป็นโรคความจํา เสื่อม

โดยพบว่าผู้สูงอายุที่มีภาวะความจําเสื่อมบางรายจะมีอาการ ดีขึ้น เมื่อได้รับประทานเลซิตินวันละ 25 กรัม ติดต่อกันเป็นเวลา หลายเดือน

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ระยะ เริ่มแรกพบว่า เมื่อได้รับโคลีนเป็นระยะเวลา 6 เดือน จะช่วยให้ ความจําดีขึ้นได้ หรือการให้โคลีนร่วมกับยาที่ใช้รักษา (Cholinesterase Inhibitors) ทําให้มีการพัฒนาความสามารถที่ต้องใช้ความจํา เพิ่มขึ้นได้

5.ลดการดูดซึมโคเลสเตอรอล ดูแลหลอดเลือดและหัวใจ

ลดการดูดซึมโคเลสเตอรอล ดูแลหลอดเลือดและหัวใจ ช่วยละลายไขมัน ป้องกันการตกตะกอนของไขมันในผนังหลอด เลือด ซึ่งเป็นสาเหตุทําให้หลอดเลือดแข็งและตีบตัน ป้องกัน การเกิด อัมพฤกษ์ อัมพาต

โดยมีการศึกษา ทั้งในสัตว์ทดลองและผู้มีภาวะระดับโคเลส เตอรอลสูงพบว่า เลซิตินจะลดการดูดซึมโคเลสเตอรอล สามารถ ลดระดับไขมันชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ได้ อีกทั้งช่วย เพิ่มระดับไขมันชนิดดี (HDL) ได้อีกด้วย

จากคุณสมบัติดังกล่าว จึงทําให้ลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันป้องกันภาวะหัวใจขาดเลือด อันนําไปสู่ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายหรือหัวใจวายเฉียบพลัน

กราฟแสดงระดับโคเลสเตอรอลของผู้ป่วยที่มีระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูง เปรียบเทียบระหว่าง ก่อนรับประทานเสชิดิน รับประทาน 1 เดือน และรับประทาน 2 เดือน

จากข้อมูลดังกล่าว สรุปได้ว่า เลซิตินสามารถลดระดับไขมันชนิดเลว (LDL) ได้ถึง 56.11% ภายใน 2 เดือน

6.ลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี

ลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในถุงน้ําดี เลซิตินจะเพิ่มความสามารถในการทําละลายของน้ําดี ทําให้สารแขวนลอยใน น้ําดีไม่จับตัวเป็นก้อนจนกลายเป็นนิ่ว เพิ่มการหลั่งและการไหลเวียน ของน้ําดี และลดค่าดัชนีไขมันอิ่มตัว (Cholesterol saturation index)

7.ช่วยลดน้ำหนัก

ช่วยลดนำ้หนัก ลดไขมันสะสม โดยช่วยละลายไขมัน จึงเผาผลาญไขมันได้ดี

อย่างไรก็ตาม การได้รับ เลซิตินเพียงอย่างเดียว อาจแก้ปัญหา ทางสุขภาพได้ไม่เพียงพอ เนื่องจากถึงแม้ว่าเลซิตินจะช่วยลด การสะสมไขมันที่ตับและผนังหลอดเลือดได้ แต่ยังคงหลงเหลือ ไขมันบางส่วนที่ยังสะสมอยู่ในเซลล์ดังกล่าว และยังมีไขมันบางส่วน ในกระแสเลือดที่มีโอกาสเกิดการสะสมพอกพูนได้เพิ่มเติม

ดังนั้น ร่างกายจึงต้องการสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงเพิ่มเติมเพื่อปกป้องไขมันเหล่านี้ไม่ให้เกิดการออกซิเดชั่น และลดการอักเสบของเซลล์ จึงลดโอกาสการเกิดไขมันพอกตับและผนัง หลอดเลือดได้อีกทางนั่นเอง

เสริมประสิทธิภาพการทํางานของเลซิตินได้อย่างเต็มที่ ด้วยแคโรทีนอยด์ จากธรรมชาติ 4 ชนิด และวิตามิน อี

กล่าวกันว่า…เลซิตินเพียงอย่างเดียว แก้ปัญหา สุขภาพ สมอง หัวใจ หลอดเลือด มะเร็ง และ ผิวพรรณ ได้เพียง 30% แต่หากได้รับเลซิตินชนิด ฟอสฟาทิดิลโคลีนสูง เสริมด้วยแคโรทีนอยด์จาก ธรรมชาติ 4 ชนิด และวิตามิน อี จะแก้ปัญหา ดังกล่าวได้ถึง 100%

ประโยชน์ของ แคโรทีนอยด์ จากธรรมชาติ 4 ชนิด มีอะไรบ้าง?

แคโรทีนอยด์จากธรรมชาติ 4 ชนิด ได้แก่

  1. อัลฟาแคโรทีน
  2. เบต้าแคโรทีน
  3. แกมมาแคโรทีน
  4. และ ไลโคปีน

เป็น สารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยชะลอความแก่ และความเสื่อมของเซลส์ ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม

  • ดูแลปกป้องตับ โดยยับยั้งการเข้าจู่โจมของอนุมูลอิสระ ต่อเซลล์ตับ จึงลดการสะสมของไขมันในตับ ป้องกันตับ อักเสบ ป้องกันการเกิดมะเร็งตับจากพิษ Aflatoxin Bl (พิษจากเชื้อรา) และปกป้องตับจากเหล้า รวมทั้งภาวะน้ําตาล ในเลือดสูงในคนไข้เบาหวาน
  • ลดการทําลายผนังหลอดเลือดจากอนุมูลอิสระ ป้องกัน หลอดเลือดอักเสบและลดการออกซิเดชันของไขมันใน หลอดเลือด จึงลดการเกิดไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือด ป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ลดโอกาสการเกิดหลอดเลือด ตีบตันของทุกอวัยวะ
  • ปกป้องสารพันธุกรรมจากการจู่โจมของอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งทุกชนิด
  • ปกป้องเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวพรรณสดใส อ่อนวัย
ประโยชน์ของ วิตามินอี มีอะไรบ้าง?

วิตามินอี มีชื่อเรียกว่า Tocopherol ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลาย ในไขมัน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สําคัญในร่างกาย
แต่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากอาหาร

  • ช่วยต้านไม่ให้หลอดเลือดแข็งตัว ขยายหลอดเลือดฝอย
  • ป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือดที่ผนังหลอดเลือด
  • ลดโคเลสเตอรอล
  • มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

ซึ่งการใช้แคโรทีนอยด์และวิตามิน อี ร่วมกัน จะส่งเสริม ประสิทธิภาพการต้านออกซิเดชั่นได้ดียิ่งขึ้น

โดยมีงานวิจัย รายงานว่า การเสริมแคโรทีนอยด์รวม ร่วมกับวิตามิน อี จะเสริมฤทธิ์กันในการปกป้องเซลล์ตับจากอนุมูลอิสระ และ สามารถลดการเกิดมะเร็งตับในคนไข้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบได้ถึง 50% (อ้างอิงที่ 1-14)

สรรพคุณของ เลซิติน จาก กิฟฟารีน
  • บำรุงตับ มีส่วนช่วยในการปกป้องตับจากภาวะการเกิดไขมันพอกตับ ป้องกันตับอักเสบ ป้องกันตับแข็ง
  • บำรุงสมอง ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ เสริมสร้างความจำ และลดอาการอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มต้น
  • ดูแลหลอดเลือดและหัวใจ ละลายไขมัน ป้องกันการตกตะกอนของไขมันในผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หลอดเลือดแข็งและตีบตัน ป้องกันการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต
  • ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล ลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ได้ถึง 50%
  • ลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี เลซิตินมีคุณสมบัติเป็นตัวทำละลายของน้ำดี ช่วยให้น้ำดีไม่จับตัวจนเป็นก้อนนิ่ว
  • เลซิตินกับการลดน้ำหนัก ช่วยละลายไขมันและช่วยให้ลำไส้ลดการดูดซึมไขมัน ลดไขมันสะสม ร่างกายจึงเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น
คําถาม ที่มักพบบ่อยของ เลซิติน (Lecithin)
Q: เลซิตินของกิฟฟารีนสกัดและนําเข้าจากประเทศอะไร?

A: เลซิติน พบมากในถั่วเหลือง, ถั่วลิสง, ไข่และต้บ แต่จะพบมากที่สุดในถั่วเหลือง “โดยเลซิตินที่กิฟฟารีนเลือกใช้นั้น นําเข้าจาก อเมริกา และ สกัดจากถั่วเหลือง” ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพได้ดีกว่าแหล่งอื่นๆ เนื่องจากมีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

Q: ผู้ที่แพ้ถั่วเหลือง สามารถ รับประทานได้หรือไม่?

A: เนื่องจากเลซิตินของกิฟฟารีน “จะสกัดเฉพาะเลซิตินออกมาจากถั่วเหลือง จึงมีโปรตีนอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดการแพ้น้อยมาก” เช่นเดียวกันกับ สารกลุ่มไอโซฟลาโวน หรือสารคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนจากถั่วเหลือง ทั้งนี้ ในผู้ที่มีความกังวลใจ หากลองทานแล้วมีอาการแพ้ เช่น มีอาการบวม ผื่น หายใจไม่ออก ให้หยุดทาน หรือในผู้ที่ไวต่อสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้มากๆ หรือแพ้รุนแรง แนะนําให้หลีกเลี่ยง

Q: เปลือกแคปซูลของ เลซิตินทํามาจากอะไร?

A: “แคปซูลแบบนิ่ม” ทํามาจากเจลาตินชิ่งสกัดจากกระดูกและชั้นไขมัน ใต้ผิวหนังของวัว ที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย และผ่านการรับรองจากอย. ว่ามีมาตรฐาน ปลอดภัย สามารถรับประทานได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ

Q: ในการรับประทาน เลซิติน มีข้อห้ามข้อควรระวังหรือไม่?

A: เนื่องจากเลซิตินที่สกัดจากถั่วเหลืองมีความเป็นสมุนไพรน้อยมาก “จึงสามารถทานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย” และไม่มีผลกระทบต่อยาหรือโรคใดๆ ทั้งนี้ ไม่แนะนําในสตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร เนื่องจากเป็นข้อห้ามตามหลักการทั่วไป ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแต่สามารถแนะนําในเด็กอายุ 15 ปีขึ้นไปได้

Q: แนะนําให้ทาน เลซิติน วันละกี่แคปซูล?

A: ตามปกติแนะนําให้ “ทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหารเวลาใดก็ได้” แต่ในบางรายสามารถเพิ่มปริมาณการทาน เป็นวันละ 2 เม็ดได้ ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

Q: ตะกอนเลซิติน เกิดจากอะไร และเป็นอันตรายหรือไม่?

A: ตะกอนที่พบในเลซิติน คือส่วนผสมของแคโรทีนอยด์ ซึ่งไม่ละลายในเลซิติน และแขวนลอยอยู่ในแคปซูล เมื่อตั้งทิ้งไว้จึงเกิดการรวมตัวกันและตกตะกอน ซึ่งเป็นสภาพปกติของส่วนผสมที่ไม่ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน “การตกตะกอนของแคโรทีนอยด์ ไม่ส่งผล ต่อคุณภาพของเลซิติน และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ”

Q: เลซิตินมีวิธีการเก็บรักษา อย่างไรบ้าง?

A: แนะนําให้จัดเก็บ “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ชนิดแคปซูลนิ่ม (โดยเฉพาะเลซิติน) ไว้ในตู้เย็น (ช่องธรรมดา)” เพื่อรักษาสภาพผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุด

Q: เลซิตินรับประทานตอนไหนและใช้ปริมาณเท่าไหร่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด?

A: รับประทานพร้อมอาหาร ขนาดรับประทานดังนี้ :

  • เพื่อเสริมความจำ ป้องกันสมองเสื่อม รับประทานวันละ 1,200 – 3,600 มิลลิกรัม
  • เพื่อบำรุงตับ ลดการทำลายเซลล์ตับ รับประทานวันละ 1,200 – 3,600 มิลลิกรัม
  • เพื่อลดไขมันโคเลสเตอรอล ป้องกันโรคสมองและหัวใจขาดเลือด รับประทานวันละ 3,600 – 7,200 มิลลิกรัม
9 ข้อดี ที่ใครๆ ก็ เลือก กิฟฟารีน เลซิติน
  1. ใช้เลซิตินคุณภาพดีนำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา
  2. ใช้เลซิตินสกิัดจากถั่วเหลือง เพราะมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์ต่สุขภาพมากที่สุด
  3. ใช้ฟอสฟาติดิลโคลีน มากถึง  192 มก./แคปซูล ซึ่งการเลือ เลซิติน จะ พิจารณาจากสารนี้เป็นหลัก
  4. กิฟฟารีน เป็น เจ้าเดียวที่ใส่ “มิกซ์แคโรทีนอยด์” นำเข้าจากประเทศมาเลเซีย
  5. ใช้  “มิกซ์แคโรทีนอยด์” ที่สกัดจากผลปาล์ม, Non-GMO ซึ่งมีอัตราส่วนของ แอลฟา-แคโรทีนมากที่สุดใยท้องตลาด
  6. เป็นการรวมสาร กลุ่ม แคโรทีนอยด์ถึง 4 ชนิด ได้แก่ แอฟา-แคโรทีน,เบต้า-แคโรทีน ,แกมม่า-แคโรทีน และไลโคปีน ซึ่งเป็นสารสี แดง ส้ม และ เหลือง ตามธรรมชาติ
  7. “มิกซ์แคโรทีนอยด์” เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิธิภาพสูง ช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระได้หลากหลายระบบในร่างกาย
  8. การได้รับ เลซิติน ร่วมกับ มิกซ์แคโรทีนอยด์ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของเลซิติน และ ช่วยดูแลสุขถาพได้อย่างเต็มที่กว่าการได้รับเลซิตินเพียงอย่างเดียว
  9. ผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรับรอง GHP และ Halal มั่นใจได้ถีงคุณภาพ มาตรฐาน และ ความปลอดภัย
อาหารเสริม เลซิติน ผสม แคโรทีนอยด์ และ วิตามิน อี เหมาะกับ
  • ผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับการทำงานของตับไม่ปกติ เช่น การย่อยอาหารไม่ดี มีอาการแน่นท้อง จุกเสียดเป็นประจำ อ่อนเพลียง่าย นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท
  • ผู้ที่เป็นไวรัสตับอักเสบ บี และไวรัสตับอักเสบ ซี
  • ผู้ที่มักดื่มสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  • ผู้ที่ต้องการบำรุงตับ
  • ผู้ที่ต้องการบำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์
  • ผู้ที่ต้องการบำรุงและปกป้องระบบหลอดเลือดและหัวใจ
  • ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวพรรณ
  • ผู้สูงอายุ (50 ปีขึ้นไป)
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีประวัติคนในครอบครัวที่มีความเสี่ยงต่อการเป็น
    • โรคเกี่ยวกับตับ ไขมันพอกตับ
    • โรคเบาหวาน
    • โรคอ้วน
    • โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต
    • มะเร็ง
    • ความดันโลหิตสูง
    • ไขมันในเลือดสูง โคเรสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอร์ไรด์สูง

เอกสารอ้างอิง

  1. Carcinogenesis, 1998 Mar; 19(3): 403-411
  2. Cholesterol. Vol. 2010, Article ID 824813, 4 pages
  3. Current Therapeutic Research, 2004 May-June; 65(3): 266-277
  4. E Encyclopedia of Natural Medicine. Revised 2nd ed. 1998, USA: Prima Publishing. pp 299, 283, 481
  5. Gastroenterology 1992; 102(4Pt1):1363-1370, PMID: 1551541
  6. Gastroenterology 1994; 106:152-159
  7. Gastroenterology and Hepatology, 2007; 22: 794-800
  8. Hepatology, 2003; 37(5): 1202-1219
  9. International Symposium on Human Health: Favhealth 2007
  10. National Cancer Center Kyoto Perfetural University of Medicine, Kyoto, Japan
  11. The Am. J. of Clinical Nutrition 43: January 1986: 101
  12. The natural pharmacy. 1998, USA: Prima Publishing. pp 176-177.
  13. Toxical and Health, 2009 May-June: 25(4-5): 311-320
  14. Sources of choline and lecithin in the Diet Choline and Lecithin in Brain Disorders Raven Press, New York 1979

เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop

เลซิติน (15 แคปซูล) รหัสสินค้า : 82037

เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-03337-1-0171

เลซิติน (30 แคปซูล) รหัสสินค้า : 82035

เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-03337-1-0171

ขนาด กxยxส : 5.5×5.5×10

น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.10

เลซิติน (60 แคปซูล) รหัสสินค้า : 82023

เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-03337-1-0171

ขนาด กxยxส : 6.5×6.5×11.5

น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.19

กิฟฟารีน เลซิติน (15-30-60 แคปซูล)

ส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 แคปซูล (1,900 มก.) ประกอบด้วย:
เลซิติน
(ประกอบไปด้วยฟอสฟาติดิลโคลีน 192 มก.)
1,200 มก.
มีเดียมเชนไตรกลีเซอร์ไรด์ 266.4 มก.
มิกซ์แคโรทีนอยด์ 20.0 มก.
ดีแอลฟาโทโคฟริลอะซีเตต
(ให้วิตามิน อี 14.96 IU)
13.6 มก.
วิธีรับประทาน:
วันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร

 

ข้อแนะนำในการจัดเก็บผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลนิ่ม:
ไม่ควรเก็บไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิร้อนจัด และควรจัดเก็บไว้ในตู้เย็น (ช่องธรรมดา) เพื่อคงสภาพผลิตภัณฑ์ไว้ให้ดีที่สุด

*ตะกอนที่พบในเลซิติน คือส่วนผสมของแคโรทีนอยด์ซึ่งไม่ละลายในเลซิติน และแขวนลอยอยู่ในแคปซูล เมื่อตั้งทิ้งไว้จึงเกิดการรวมตัวกันและตกตะกอน ซึ่งเป็นปกติของส่วนผสมที่ไม่ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ส่งผลต่อคุณภาพของเลซิตินและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ขนาด

15 แคปซูล, 30 แคปซูล, 60 แคปซูล

รีวิว

ยังไม่มีบทวิจารณ์

มาเป็นคนแรกที่วิจารณ์ “อาหารเสริม เลซิติน ผสม แคโรทีนอยด์ และ วิตามินอี ชนิดแคปซูลนิ่ม กิฟฟารีน เลซิติน (15-30-60 แคปซูล)”

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Shopping Cart
Scroll to Top