อาหารเสริม อี จี ซี จี สารสกัดจากชาเขียว ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน อี จี ซี จี และ กิฟฟารีน อี จี ซี จี แมกซ์ (30 แคปซูล)

อาหารเสริม อี จี ซี จี สารสกัดจากชาเขียว ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน อี จี ซี จี และ กิฟฟารีน อี จี ซี จี แมกซ์ (30 แคปซูล)

Giffarine EGCG And Giffarine EGCG Max : Dietary Supplement EGCG Green Tea Extract Capsule Type (30 capsules)

อี จี ซี จี เร่งการเผาผลาญ ต้านการอักเสบ และ ช่วยลดน้ำหนัก

กิฟฟารีน อี จี ซี จี และ กิฟฟารีน อี จี ซี จี แมกซ์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารสกัดจากชาเขียว ชนิดแคปซูล มีสาร Epigallocatechin-3-gallate หรือ EGCG ที่มีคุณสมบัติช่วยเร่งการเผาผลาญ ต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย

ชาเขียว คือ อะไร?

“ชาเขียว (Green tea)” คือ ชาที่ได้มาจากต้นชา ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า “Camellia sinensis” เช่นเดียวกับ “ชาขาว” “ชาแดง” และ “ชาอูหลง” (อ้างอิงที่ 1) เป็น “ชา” ที่ไม่ผ่านการหมัก ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีคุณสมบัติในการต้านทานโรคได้นานาชนิดจึงเป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่ น้ำชา จะเป็นสีเขียวหรือเหลืองอมเขียว กลิ่นหอมอ่อนกว่าอูหลง

ประวัติ ของ ชาเขียว

“ชา” มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนกว่า 4,000 ปีมาแล้ว กล่าวคือเมื่อ 2,737 ปีก่อนคริสต์ศักราช ชาเขียวได้ถูกค้นพบโดยจักรพรรดินามว่า “เสินหนง” ซึ่งเป็นบัณฑิตและนักสมุนไพร ผู้รักความสะอาดเป็นอย่างมาก ดื่มเฉพาะน้ำต้มสุกเท่านั้น

วันหนึ่งขณะที่ “เสินหนง” กำลังพักผ่อนอยู่ใต้ต้นชาในป่า และกำลังต้มน้ำอยู่นั้น ปรากฏว่าลมได้โบกกิ่งไม้ เป็นเหตุให้ “ใบชา” ร่วงหล่นลงในน้ำซึ่งใกล้เดือดพอดี เมื่อเขาลองดื่มก็เกิดความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก

สมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618 – 906) ถือเป็นยุคทองของชา ชาไม่ได้ดื่มเพื่อเป็นยาบำรุงกำลังอย่างเดียว แต่มีการดื่มเป็นประจำทุกวัน เป็นเครื่องมือเพื่อสุขภาพ (อ้างอิงที่ 2)

สารสำคัญที่พบได้ใน ชาเขียว มีอะไรบ้าง?

สารสำคัญที่พบได้ใน “ชาเขียว” จะประกอบไปด้วย “กรดอะมิโน” “วิตามินบี” “วิตามินซี” “วิตามินอี” สารในกลุ่ม xanthine alkaloids คือ “กาเฟอีน (caffeine)” และ “ธิโอฟิลลีน (theophylline)” ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ที่เรียกว่า “คาเทชิน (catechins)”

โดยเราสามารถแยก สารคาเทชิน ออกได้เป็น 5 ชนิด คือ

1. Gallocatechin (GC)
2. Epicatechin (EC)
3. Epigallocatechin (EGC)
4. Epicatechin gallate (ECG)
5. Epigallocatechin gallate (EGCG)

โดยคาเทชินที่พบได้มากและมีฤทธิ์ทรงพลังที่สุดในชาเขียว คือ สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต (Epigallocatechin-3-gallate หรือ EGCG) ซึ่งมีความสำคัญในการออกฤทธิ์ ต้านอนุมูลอิสระ

ประโยชน์ ของ สารสกัดจากชาเขียว (Green Tea Extract)

1. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชาเขียวมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ หรือ Antioxidants ที่ช่วยป้องกันผิวของเราจากการทำลายของอนุมูลอิสระ หรือ Free Radicals อนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่ไม่อยู่นิ่งผสานกับอิเล็คตรอนเชิงเดี่ยว เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ชัด อนุมูลอิสระก็เหมือนผู้คนที่เดินกันพลุกพล่าน ขวักไขว่กันอยู่บนท้องถนน แต่ไม่รู้จุดหมายปลายทางว่าจะเดินไปทางใด เมื่ออนุมูลอิสระเกิดขึ้นกับผิว มันก็จะทำลายชั้นผิวหนังส่งผลให้ก่อเกิดริ้วรอยแห่งวัย และรอยตีนกา เป็นต้น
2. ช่วยลดการเกิดสิว ชาเขียวมีโพลิฟีนอล (Polyphenols) หรือสารพฤกษเคมีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูงที่ช่วยปลอบประโลมผิว พร้อมยังช่วยลดการเกิดสิว รวมทั้งอาการคัน และการอักเสบของผิวอีกด้วย นอกจากนั้น ชาเขียวยังมีส่วนผสมของสารอีพิกัลโลคาเทชิน กัลเลต หรือ EGCG ซึ่งจากการศึกษาในปี ค.ศ. 2017 พบว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของชาเขียวสามารถลดการอักเสบของสิวสำหรับคนที่มีใบหน้าเกรอะกรังไปด้วยสิวได้ถึง 89% จากการใช้งานอย่างต่อเนื่องภายใน 2 เดือน ดังนั้น ชาเขียวเป็นตัวช่วยชั้นดีในการลดปัญหาสิวได้อย่างแน่นอน
3. ช่วยลดรอยแดงบนใบหน้า ชาเขียวมีส่วนประกอบของสารโพลิฟีนอลที่ช่วยในการระงับอาการระคายเคืองของผิว รวมทั้งรอยแดงด้วย
4. ช่วยลดปัญหาขอบตาดำ วิตามินเค (Vitamin K) เป็น วิตามินที่ช่วยเสริมสร้างการไหลเวียนของเลือด ช่วยลดอาการบวม และรอยคล้ำใต้ตา วิตามินเคมีมากในชาเขียวมัทฉะ นอกจากช่วยแก้ปัญหาขอบตาดำแล้ว ยังช่วยรักษาแผลและรอยถลอกต่างๆ อีกทั้งยังเป็นปราการด่านสำคัญในการปกป้องผิวอีกด้วย
5. ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิว เมื่อเรามีอายุมากขึ้น คอลลาเจนในผิวยิ่งลดลง คอลลาเจนเปรียบเสมือนนั่งร้านให้กับผิว ทำให้ผิวดูนุ่ม เปล่งปลั่ง และเรียบเนียน คนเราจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนในผิวเมื่อมีอายุ 30 ปีขึ้นไป และคอลลาเจนจะลดลง 1% ในทุกปี ชาเขียวมีสารอาหารที่ช่วยสร้างคอลลาเจน เช่น วิตามินซี ที่ทำให้ผิวคุณดูอ่อนนุ่ม และอ่อนกว่าวัย
6. ช่วยสนับสนุนในการผลัดเซลล์ผิว อีกหนึ่งในปัญหาผิวพรรณคือ อัตราการผลัดเซลล์ผิว หรือ Cell Turnover Rate ในคนปกติ การผลัดเซลล์ผิวจะอยู่ระหว่าง 28-40 วัน ในช่วงเวลาดังกล่าว เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วจะหลุดลอกออกมาก เซลล์ผิวใหม่จะถูกสร้างในส่วนลึกที่สุดของชั้นผิวและจะค่อยๆ เลื่อนขึ้นมาสู่ชั้นบนสุดของผิวหนัง แต่ความเร็วของวงจรในการผลัดเซลล์ผิวนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ หรือสภาพผิว ซึ้งคนเรามสภาพผิวที่แตกต่างกัน คนที่มีปัญหาเรื่องสิวอาจมีแผลตกสะเก็ดของสิว หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วมากกว่าคนปกติ ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียนเท่าคนที่มีผิวปกติโดยทั่วไป

อี จี ซี จี (EGCG) คืออะไร?

สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต (Epigallocatechin-3-gallate หรือ EGCG) ใน ชาเขียว (Green tea)

“ชาเขียว (Green tea)”  ให้ประโยชน์แก่ร่างกายมากมายหลายประการ สารสําคัญ ที่ทําให้เกิดประโยชน์ (Active Health Component) ของชาเขียว คือ “คาเทชิน (Catechins)” ซึ่งจะมีปริมาณ 30-40% ของส่วนที่เป็น ของแข็ง ที่สามารถสกัดได้จากใบชาเขียวแห้ง (อ้างอิงที่ 3)

“คาเทชิน (Catechins)” ที่อยู่ในชาเขียว ประกอบไปด้วย Epigalocatechin-3-galate(EGCG), Epicatechin-3-gallate, Epicatechin, Epigallocatechin.Gallocatechin galate and Catechin

ในทั้งหมดนี้ สารที่มีมาก ทีสุดคือ Epigallocatechin-3-gallate หรือ “อี จี ซี จี (EGCG)” ขนาด ใบชาเขียวแห้ง 1 ซอง (1.5 กรัมต่อซอง) จะให้ EGCG ประมาณ 35-110 mg (อ้างอิงที่ 4)

“อี จี ซี จี (EGCG)” นับได้ว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจาก ธรรมชาติ ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในชาเขียว และมีปริมาณมาก ที่สุด (อ้างอิงที่ 5)

มีความแรงของการต้านอนุมูลอิสระมากกว่า “วิตามินซี (Vitamin C)” และ “วิตามินอี (Vitamin E)” 25-100 เท่า การรับประทานชาประมาณ 1 แก้วต่อวันจะให้สารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าการรับประทานแครอท บรอคโคลี ผักโขม และสตรอเบอร์รี่ ในขนาดที่รับประทานในแต่ละมื้อ (อ้างอิงที่ 6)

การศึกษาวิจัย อี จี ซี จี ในชาเขียว

งานวิจัยถึงคุณประโยชน์ของชาเขียวมีดังนี้

ช่วยลดความอ้วน

“ช่วยลดความอ้วน” ด้วยกลไกของการกระตุ้นปฏิกิริยาออกซิเดชัน ของไขมัน (Stimulates Fat Oxidation) มีรายงานวิจัยที่มีข้อมูลสนับสนุน ว่า “อี จี ซี จี (EGCG)” ช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญพลังงานของเนื้อเยื่อไขมัน และมีรายงานการทดลองในคนแล้วว่า ช่วยลดความอ้วนได้ (อ้างอิงที่ 7-10)

นอกจากนี้มีงานวิจัยที่ทําในคนไทย โดยแบ่งผู้ที่น้ําหนักเกินเป็นสองกลุ่ม ได้รับสารสกัดชาเขียวและยาปลอม กลุ่มที่ได้รับชาเขียวมีน้ําหนักน้อยกว่า 2.7, 5.1 และ 3.3 กก. ในสัปดาห์ที่ 4.8 และ 12 ของการวิจัย (อ้างอิงที่ 11)

ช่วยลดไขมันในเลือด

“ช่วยลดไขมันในเลือด” แม้จะลดไขมันในเลือดได้ไม่มากนัก แต่ ก็มีงานวิจัยที่ดีรองรับสองงานวิจัย ในการวิจัยแรกพบว่า เมื่อรับประทาน อาหารที่มีไขมันสูง การดื่มชาในปริมาณปานกลางหรือปริมาณมาก ร่วมด้วย จะลดปริมาณไขมันในเลือดชนิดไตรกลีเซอไรด์ลงได้อย่าง มีนัยสําคัญ ในช่วง 6 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารและดื่มชา

โดย ลดการเพิ่มระดับของไขมันชนิดไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดได้ถึง 15.1-28.7% (อ้างอิงที่ 12)

อีกงานวิจัยพบว่า ผู้ที่ดื่มชาประมาณสองถ้วยต่อวัน สามารถลดไขมันในเลือดชนิดโคเลสเตอรอลลงได้เล็กน้อย (119.9 เป็น 106.6 มก./ดล.) แต่ก็มีนัยสําคัญทางคลินิก (อ้างอิงที่ 13)

ช่วยโรคเส้นเลือดอุดตัน

“ช่วยโรคเส้นเลือดอุดตัน” มีรายงานวิจัยว่า สารสําคัญใน “ชาเขียว (Green tea)” สามารถลดการหดเกร็งของเส้นเลือดฝอย ลดการเกิดตะกอน (Paque) ในเส้นเลือดฝอย ทําให้ลดอุบัติการณ์ของโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจาก การขาดเลือด (Myocardial infarction) และอัมพฤกษ์ อัมพาตจาก เส้นเลือดตีบตัน (Stroke) (อ้างอิงที่ 14-18)

นอกจากนี้ “อี จี ซี จี (EGCG)” ยังเป็นตัว ยับยั้งการเกิดการสันดาป Oxidation ของโคเลสเตอรอล ทําให้ลดการ เกิดเส้นเลือดแข็งตัวตีบตัน (Atherosclerosis) และลดอุบัติการณ์ของ โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (Coronary Atherosclerosis) (อ้างอิงที่ 19-21)

งานวิจัยในสัตว์ทดลองยังลดการเกิดเส้นเลือดในปอดตีบตัน (Pulmonary Thrombosis) อีกด้วย (อ้างอิงที่ 17) ส่งให้เป็นผลดีต่อสุขภาพของหลอดเลือดหัวใจ

ไม่นานนี้มีงานวิจัยทางระบาดวิทยาในคนญี่ปุ่น พบว่า ผู้ที่ดีม “ชาเขียว (Green tea)” จะลดการเกิดโรคเส้นเลือดทางสมองทั้งโรคเส้นโลหิตในสมองแตก (Cerebral hemorrhage) และเส้นเลือดสมองทึบ (Cerebral infarction) ได้จริง (อ้างอิงที่ 22)

ต่อต้านอนุมูลอิสระ และต่อต้านมะเร็ง (Antioxidant and Anticancer)

“ต่อต้านอนุมูลอิสระ” และ “ต่อต้านมะเร็ง (Antioxidant and Anticancer)” ชาเขียวมีผลต่อการยับยั้งการเกิดมะเร็งได้หลายชนิด ทั้งในคนและสัตว์ เพราะมีฤทธิ์ทางด้านการต้านอนุมูลอิสระอย่างมาก

จากการวิเคราะห์งานวิจัยที่เชื่อถือได้ของ Cochrane Database ตีพิมพ์ล่าสุดจํานวน 51 งานวิจัยทั่วโลก แม้จะมีจํานวนงานวิจัยที่ จํากัด พบว่าการดื่ม “ชาเขียว (Green tea)” ลดอุบัติการณ์เกิดมะเร็งตับ มะเร็งต่อม ลูกหมาย มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งลําไส้ และ มะเร็งตับอ่อน (อ้างอิงที่ 23)

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยเพิ่มเติมว่า การดื่ม “ชาเขียว (Green tea)” ปริมาณมากยัง ลดการเกิดมะเร็งมดลูก (endometrial adenocarcinoma) มะเร็ง เต้านม และมะเร็งถุงน้ําดี ได้อีกด้วย (อ้างอิงที่ 24-26)

การดื่ม “ชาเขียว (Green tea)” ที่ร้อนมีงานวิจัยว่าอาจเพิ่มมะเร็งหลอดอาหารในชาวตะวันออกกลาง ยิ่งร้อนมากยิ่งเพิ่มมาก (อ้างอิงที่ 27)

แต่ก็พบว่ากลับลดการเกิดมะเร็ง หลอดอาหารในชาวเอเชียและสําหรับคนเอเชีย อาหารที่ร้อนจัดอื่น ๆ จะเพิ่มการเกิดมะเร็งหลอดอาหาร (อ้างอิงที่ 28-29) ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือ ถ้าจะดื่มชาร้อนก็ไม่ควรให้ร้อนจัดจนเกินไป

การศึกษาวิจัยในเซลล์มะเร็งของคน

สารสกัดใน “อี จี ซี จี (EGCG)” มีผลยับยั้งมะเร็งจํานวนมากด้วยกลไกที่ หลากหลาย และมีผลต่อมะเร็งของคนได้หลายชนิดมาก งานวิจัยในเซลล์มะเร็งของคนพบว่า สารสกัดจากชาเขียวสามารถยับยั้งการ เจริญการแบ่งตัว และทําลายเซลล์มะเร็งของคนเหล่านี้ ได้แก่

1. มะเร็ง กระเพาะอาหาร (อ้างอิงที่ 30-32)
2. มะเร็งปอด (อ้างอิงที่ 33,34)
3. มะเร็งต่อม นํ้าเหลือง ชนิดนอนฮอดกิน Human high-grade non-Hodgkin’s lymphoma (อ้างอิงที่ 35)
4. มะเร็งหู คอ จมูก Human head and neck squamous cell carcinoma (อ้างอิงที่ 36,37)
5. มะเร็งตับ (อ้างอิงที่ 38,39)
6. มะเร็งปากมดลูก (อ้างอิงที่ 40,41)
7. มะเร็งต่อมลูกหมาย (อ้างอิงที่ 42-45)
8. มะเร็งสมองชนิด Meduckkaloma (อ้างอิงที่46)
9. มะเร็งเต้านม (อ้างอิงที่47-49)
10. มะเร็งลําไส้ใหญ่ (อ้างอิงที่ 50-52)
11. มะเร็งรังไข่ (อ้างอิงที่ 53)
12. มะเร็งผิวหนัง ที่เกิดจากไผ่ Human melanoma (อ้างอิงที่ 54)
13. มะเร็งตับอ่อน (อ้างอิงที่ 55,56)
14. มะเร็งเม็ดเลือด ได้แก่ Lymphoblastoid B cells, Myeloidleukemic cells, B cell, Multiple myeloma และ HL 60 และ HL 62 (อ้างอิงที่ 57-61)
15. มะเร็งปาก oral carcinoma cell (อ้างอิงที่ 62)
16. มะเร็งกระดูก (อ้างอิงที่ 63)
17. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (อ้างสิ่งที่ 64)
18. มะเร็งท่อน้ําดี (อ้างอิงที่ 65)
19. มะเร็งต่อมหมวกไต (อ้างอิงที่ 66)

ประโยชน์ ของ อี จี ซี จี (EGCG)

1. ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน
2. ช่วยยับยั้งการเพิ่มจํานวนของไวรัสในหลากหลายกลไกในร่างกาย
3. ช่วยยับยั้งไวรัสได้หลายชนิดทั้ง HIV, Herpes Simplex Virus (ไวรัสก่อโรคเริม), Adenovirus (ไวรัสก่อโรคมือเท้าปาก, Influenza Virus (ไวรัสไข้หวัดใหญ่)
4. มีสารต้านอนุมูลอิสระประเภท ฟลาโวนอยด์ ที่ทรงพลังหลายชนิด โดยเฉพาะสาร Epigallocatechin-3-gallate หรือ EGCG ซึ่งเป็น สารต้านอนุมูลอิสระจาก ธรรมชาติ ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในชาเขียว และมีปริมาณมาก ที่สุด มีฤทธิ์แรง โดยมีฤทธิ์มากกว่าวิตามินอีถึง 20 เท่า คาเทชิน (catechins) เป็น สารต้านอนุมูลอิสระ สามารถจับกับอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรค หลายชนิด เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และภาวะไขมันในเลือดสูง เป็นต้น
5. ช่วยลดน้ําหนัก ด้วยกลไกของการกระตุ้นปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมัน (Stimulates Fat Oxidation) มีรายงานวิจัยที่มีข้อมูลสนับสนุนว่า Epigallocatechin-3-gallate หรือ EGCG ช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญพลังงานของเนื้อเยื่อไขมัน จึงทําให้ช่วยลดนํ้าหนักได้
6. ช่วยลดไขมันในเลือด ชนิดไตรกลีเซอไรด์ลงได้ โดยลดการเพิ่มระดับของไขมันชนิดไตรกลีเชอรไรด์ในเลือดได้ถึง 15.1-28.7%
7. ช่วยโรคเส้นเลือดอุดตัน สารสําคัญในชาเขียวสามารถลดการหดเกร็งของ เส้นเลือดฝอย ลดการเกิดตะกอน (Plaque) ในเส้นเลือดฝอย ทําให้ลดอุบัติการณ์ของโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด (Myocardial Infarction) และอัมพฤกษ์ อัมพาตจากเส้นเลือดตีบตัน (Stroke) ลดการเกิดเส้นเลือดแข็งตัวตีบตัน (Atherosclerosis) และลดอุบัติการณ์ของ โรคเส้นเลือดในปอดตีบต้น (Pulmonary Thrombosis) อีกด้วย ส่งให้เป็นผลดีต่อสุขภาพของหลอดเลือดหัวใจ

โรค หรือ ภาวะที่จะแนะนำ ในการใช้ อี จี ซี จี

• โรคหัวใจ
• โรคมะเร็ง
• ผู้ที่ต้องการลดน้ําหนัก

ข้อห้าม ข้อควรระวัง ในการใช้ อี จี ซี จี

• ชาเขียวน้ํา มีคาเฟอีน มาก ไม่แนะนําในผู้ที่นอนไม่หลับ โรคหัวใจ และไทรอยด์เป็นพิษ ที่มีอาการใจสั่น ส่วนแบบเม็ด อีจีซีจี มิ คาเฟอีนน้อยมากจะปลอดภัยกว่า
• เป็นสมุนไพร จึงห้าม รับประทานในผู้ที่ตับอักเสบมาก คือมีค่าการทํางานของตับ เอนไซม์ SGOT SGPT มากกว่า 40 IU
• ห้ามในผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาต้านเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน

หมายเหตุ

• สารสกัด อีจีซีจี 50 ม.ก. คุณภาพเท่ากับชาเขียว คุณภาพดี 1-3 แก้ว แต่มีคาเฟอีนต่ำกว่า 900 เท่า
• สาหรับการลดน้าหนักให้ รับประทานหลังอาหารเย็น หรือก่อนนอนไม่ควรรับประทานเกิน 150 ม.ก. ต่อวัน
• สารสกัดอีจีซีจี มีอยู่ในชาเขียวมัทฉะด้วย

“ชาเขียว” มีข้อควรระวังเล็กน้อยคือ ประการแรก ชาเขียวมีสารคาเฟอีนซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทําให้ไม่ง่วงนอน จึงเป็นที่แนะนําว่าไม่ควร รับประทานชาหรือกาแฟก่อนนอน เพราะจะทําให้นอนไม่หลับ และไม่ควรบริโภคในเด็ก นอกจากนี้ไม่ควรดื่มชาที่ร้อนจัด (เพราะอาจเพิ่ม มะเร็งหลอดอาหารได้ จากงานวิจัยตะวันออกกลาง แม้ในเอเชียจะลด มะเร็งนี้ก็ตาม)

สารสกัดจากชาเขียว “อี จี ซี จี” จะมีคุณประโยชน์เทียบเท่ากับการดื่ม ชาเขียวคุณภาพดีแต่จะมีสารคาเฟอีนใน ปริมาณที่น้อยมากๆ คือใน ปริมาณเพียง 0.05 มก. ซึ่งน้อยกว่าชาเขียวที่ชงดื่มทั่วไปถึงประมาณ 900 เท่า ทําให้ไม่มีผลต่อการกระตุ้นประสาท หรือนอนไม่หลับแต่ อย่างใด และไม่มีอันตรายหรือความเสี่ยงมะเร็งเพิ่มขึ้นจากการดื่มชาที่ร้อนอีกด้วย ทําให้เราได้คุณประโยชน์อย่างเต็มที่โดยปลอดภัย

เอกสารอ้างอิง

1. https://web.archive.org/web/20080922072528/http://www.oknation.net/blog/print.php?id=201182/
2. https://th.wikipedia.org/wiki/ชาเขียว
3. The growth factor. Vol 3/03 M (P) No.214/04/2002: A Publication of Roche Vitamins Asia Pacific Pte Ltd.
4. Catechin in green tea. TEVISO TM och Vilami Udata on the
5. Antioxidant chemistry of green tea catechiaes, identification of products of the reaction of (-)-epigallocatechin gallate with percayl radicals. Chem Res Toxicol. 1999 Apr:1200:382-6
6. http://www.worldconsartium.com/med_studies.htm
7. TEAVIGO and modulation of obesity, EGCG attenuates body fat accumulation, TEVIGO TM Roche Vitamins Ltd, data on file.
8. Efficacy of green tea extract rich in catechin polyphenols and caffeine in increasing 24-h energy expenditure and fat oxidation in humans. Am J Clin Nutr. 1999 Dec;70(6):1040-5.
9. Green tea and thermogenesis: Interations between catechin-polyphenols, caffeine and sympathetic activity. Int J Obes Relat Metab Disord. 2000 Feb;24(2):252-8.
10. Anti-obesity effect of tea catechizes in humans. J oleo Sci 2001;50:599-605.
11. Effectiveness of green tea on weight reduction in obese Thais: A randomized controlled trial, Physical Behave. 2008 Feb 27:93(3):486-91. Epub 2007 Oct 18
12. Effect of tea catechin on postprandial plasma lipid responses in human subjects. Br J Nutr. 2005 APR;93(4):543-7.
13. Effectiveness of moderate green tea consumption on antioxidative status and plasma lipid profile in human. J Nutr Blochem. 2005 Mar:16(3):144-9.
14. Tea flavonolds and cardiovascular disease: a review. Crit Rev Food Sci Nuts 1997:37:771-785.
15. Inhibitory effects of purified green tea epicatechins on contraction and proliferation of arterial smooth muscle cells Act Pharmacy Sin 2000;21(9):835-840.
16. Tea catecjins prevent the development of atherosclerosis in apoprotein E-deficient mice. J Nutr 2001;131:27-32.
17. Antithrombotic activities of green tea catechizes and (-)Epigallocatechins gallate. Thromb Res 1999;96:229-237.
18. Possible contribution of green tea drink habits to the prevent of stroke. Tohuku J Exp Med 1989;157:337-343.
19. TEAVIGO and cardiovascular health, A potent antioxidant and antiatherogenic agent. TEVIGO TM Roche Vitamins Ltd,data on file.
20. Tea catechizes inhibit cholesterol oxidation accompanying oxidation of low density lipoprotein in vitro. Comp Blochem Physiol Part C 2001 Feb;128(2):153-64.
21. Relationship between green tea consumption and the severity of coronary atherosclerosis among Japanese men and women. Ann Epidemiol 200:10:401-408.
22. Consumption of green and roasted teas and the risk of stroke incidence: result from the Tokamachi-Nakasata cohort study in Japan. Int J Epidemiol. 2008 Oct;37(5):1030-40.
23. Green tea (Camellia sinensis) for the prevention of cancer. Cochrane Database Syst Rev. 2009 Jul 8:(3):CD005004.
24. Case-control study of green tea consumption and the risk of endometrial endometriosis adenocarcinoma. Cancer Causes Control 2009 Jul;20(5):617-24. Epub 2008 Dec 9.
25. Drinking green tea modestly reduces breast cancer risk. J Nutr. 2009 Feb;139(2):310-6. Epub 2008 Dec 11.
26. Tea drinking and the risk of biliary tract cancers and billary stones: a population-based case-control study in Shanghai, China, Int J Cancer. 2006 Jun 15:118(12):3089-94.
27. Tea drinking habits and oesophageal cancer in a high-risk area in northern Iran: population based case-control study. BMJ 2009,338:6929.
28. Food intake and the occurrence of squamous cell carcinoma in different sections of the esophagus in Taiwanese men. Nutrition, 2009 Jul-Aug 25(7-8):753-61. Epub 2009 Apr 25.
29. Diet and upper-aerodigestive tract cancer in Europe: the ARCAGE study. Int J Cancer. 2009 Jun 1;124(11):2671-6.
30. Machanistic aspects of green tea as a cancer preventive: effect of components on human stomach cancer cell lines. Jon J Cancer Res. 1999 Jul.90(7):733-9.
31. Induction of apoptosis in human stomach cancer cells by green tea catechizes. Once Rep. 1998 Mar-Apr;5(2):527-9.
32. Activity-guided Fractionation of green tea extract with anti proliferative activity against human stomach cancer cells. Bill Pharm Bull. 2002 Sep;25(9):1238-40.
33. Synergistic effect of (-)-epigallocatechin gallate with (-)-epicatechin, sulindac, or tamoxifen on cancer-preventive activity in the human lung cancer cell line PC-9. Cancer Res. 1999 Jan 1;59(1):44-7.
34. Identification of epigallocatechin-3-gallate in green tea polyphenols as a potent inducer of p53-dependent apoptosis in the human lung cancer cell line A549. Toxicol In Vitro, 2009 Aug:23(5):834-9. Epub 2009 May 3
35. Inhibition of angiogenesis and induction of endothelial and tumor cell apoptosis by green tea in animal models of human high-grade non-Hodgkin’s lymphoma. Leukemia. 2000 Aug:14(8):1477-82.
36. Effects of epigallocatechin-3-gallate on growth. Epidermal growth factor receptor signaling pathways. Gene expression and chemisensitivity in human head and neck squamous cell carcinoma cell lines. Clin Cancer Res. 2001 DEC;7(12):4220-9.
37. Growth inhibition and apoptosis by (-)-epicatechin gallate are mediated by cyclin D1 Suppression in head and neck squamous carcinoma cells. Eur J Cancer. 2006 Dec;42(18):3260-6. Epub 2006 Oct 12.
38. Green tea constituent of green tea. (-)-epigallocatechin-3-gallate inhibit Hep G2 cell Proliferation and Induces apoptosis through p53-dependent and Fas-mediated pathways. J Biomed Scl. 2003 Mar-Apr;10(2):219- 27.
39. A Green tea polyphenol, epigalocatechin-3-gallate, induces apoptosis of human hepatocellular carcinoma,possibly through inhibition of Bcl-2 family protein. J Hepatol. 2006 Jun;44(6):1074-82. Epub 2005 Dec 28.
40. A major constituent of green tea. EGCG, inhibits the growth of a human cervical cancer cell line Caski cells through apoptosis G(1) arrest and regulation of gene expression. DNA Cell Bill. 2003 Mar; 22(3):217-24.
41. Regulation of cell growth through cell cycle arrest and apoptosis in HPV 16 positive human cervical cancer cells by tea polyphenols. Invest New Drugs. 2009 Mar 7.
42. Epigallocatechin-3-gallate is a potent natural inhibitor of fatty acid synthase in intact cells and selectively Induces apoptosis in prostate cancer cells. Int J Cancer. 2003 Oct 10;106(6):856-62.
43. Molecular pathway for (-)-epigallocatechin-3-gallate-induced cell cycle arrest and apoptosis of human prostate carcinoma cells. Arch Biochem Biophys 2003 Feb 1:410(1):177-85
44. Induction of apoptosis by green tea catechins in human prostate cancer DU145 cels. Life Sci. 2001 Jan 26;68(10):1207-14.
45. Growth Inhibition, cell-cycle dysregulation, and induction of apoptosis by green tea constituent(-)-epigallocatechin-3-gallate in androgen-sensitive and androgen sensitive human prostate carcinoma cells. Toxicol Appl Pharmacol. 2000 Apr 1;164(1):82-90.
46. Medulloblastoma cell invastion isinhibited by green tea (-)-epigallocatechin-3-gallate. J Cell Biochem. 2003 Nov 1;90(4):745-55.
47. EGCG down-regulates telomerase in human breast carcinoma MCF-7 cells, leading to suppression of cell viability andinduction of apoptosis Int J Oncol 2004 Mar:24(3):703-10.
48. Epigallocatechin gallate, the main ingredient of green tea induces apoptosis in brest cancer cells. Frant Biosci.2006 Sep 1:11:2428-33.
49. Green tea polyphenol and epigallocatechin gallate induce apoptosis and inhibit invasionin human breast cancer cells. CancerBiol Ther. 2007 Dec;6(12):1938-43. Epub 2004 Aug 12.
50. Epigallocatechin gallate-induced expression of NAG-1 is associated with growth inhibition and apoptosis in colon cancer cells. Carcinogenesis. 2004 Dec,25(12):2425-32. Epub 2004 AUG 12.
51. Epigallocatechin-3-gallate-induced stress signals in HT-29 human colon adenocarcinoma cells:Carcinogenesis. 2003 Aug:24(8):1369-78. Epub 2003 Jun 19.
52. EGCG, a major component of green tea. Inhibits tumour growth by inhibiting VEGF inductionin human colon carcinoma cells. Br Cancer. 2001 Mar 23;84(6):844-50.
53. Anticancer effect of (-)-epigallocatechin-3-gallate on ovarian carcinoma cell lines. Gynecol Oncal. 2004 Sep;94(3):760-8.
54. Anti-proliferative and proapoptotic effects of (-)-epigallocatechin-3-gallate on human melanoma: possible Implications for the chemoprevention of melanoma. Int J Cancer. 2005 Apr 20:114(4):513-21.
55. Epigallocatechin-3-gallate induces mitochondrial membrane depolarization and caspase-dependent apoptosis in pancreatic cancer cells. Carcinogenesis. 2005 May:26(5):958-67. Epub 2005 Feb10.
56. EGCG inhibits growth, Invasion, angiogenesis and metastasis and of pancreatic cancer. Front Biosci. 2008 Jan 1:13:440-52.
57. A green tea component. Catechin, rapidly induces apoptosis of myeloid leukemia cels via modulation of reactive oxygen species production in vitro and inhibits tumor growth in vivo. Haematologica, 2005Mar;90(3):290.
58. Green tea component, catechin induces apoptosis of human malignant B cells via production of reactive oxygen species. Clin Cancer Res. 2005 Aug 15:11(16):6040-9
59. Induction of apoptosis in human leukemia cells by black tea and its polyphenol theaflavin. Cancer Lett. 2005 Dec 8:230(1):111-21.
60. Specific killing of multiple myeloma cells by (-)-epigallocatechin-3-gallate extract from green tea: biologic activity and therapeutic implication. Blood. 2006 Oct 15:108(8):2804-10. Epub 2006 Jun 29.
61. Induction of apoptosis by epigallocatechin-3-gallate in human lymphoblastoid B cells. Biochem Biophys Res Commun. 2007 Nov 3:362(4):951-7. Epub 2007 Aug 24.
62. Role of p21WAF1 in green tea polyphenol-induced growth arrest and apoptosis of oral carcinoma cells. Anticancer Res. 2005 Jan-Feb;25(1A):63-7.
63. Inhibition of Proliferation and induction of apoptosis by EGCG in human osteogenic sarcoma (HOS) cells. Arch Pharm Res. 2006 May;29(5):363-8.
64. A component of green tea. (-)-epigallocatechin-3-gallate, promotes apoptosis in T24 human bladder cancer cells via modulation of the PI3K/Akt pathway and Bcl-2 family proteins. Biochem Biophys Res Commun. 2007 Mar 23,254(4):852-7. Epub 2007 Jan 9.
65. Epigallocatechin-gallate modulates chemotherapy-induced apoptosis in human cholangiocarcinima cells. Liver Int. 2009 May 29(5):670-7. Epub 2007 Feb 17.
66. Epigallocatechin gallate induced apoptosis in human adrenal cancer NCI-H295 cells though caspase-dependent and caspase-independent pathway. Anti cancer Res. 2009 Apr:29(4):1435-42.

เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop

กิฟฟารีน อี จี ซี จี รหัสสินค้า : 41006

เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-03440-1-0054

ขนาด กxยxส : 5.5×5.5×10

น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.04

กิฟฟารีน อี จี ซี จี แมกซ์ รหัสสินค้า : 41017

เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-03440-1-0093

ขนาด กxยxส : 9x2x12.5

น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.05

กิฟฟารีน อี จี ซี จี (30 แคปซูล)

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล:

สารสกัดจากชาเขียว (อี จี ซี จี 94%) 50 มก.

วิธีรับประทาน: รับประทานวันละ 1-3 แคปซูล พร้อมอาหาร

 

กิฟฟารีน อี จี ซี จี แมกซ์ (30 แคปซูล)

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล:

สารสกัดจากชาเขียว (อี จี ซี จี 94%) 159.57มก. (ให้อี จี ซี จี 150มก.)

วิธีรับประทาน: รับประทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร