เรื่องน่ารู้ของ แคลเซียม แร่ธาตุ และวิตามินต่างๆ โดย กิฟฟารีน แคล-ดี-แมก

เรื่องน่ารู้ของ แคลเซียม แร่ธาตุ และวิตามินต่างๆ เราไปเรียนรู้กัน ว่ามีอะไรกันบ้างดีกว่า

แคลเซียม (calcium) คือ อะไร?

“แคลเซียม (calcium)” เป็น “ธาตุ” ที่มีมากที่สุดของร่างกาย เป็น “โครงสร้างหลักของกระดูกและฟัน” ช่วยในการเจริญเติบโต ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ไม่บางหรือแตกหักง่าย เป็นสารอาหารจำเป็นที่คนไทยจำนวนมากขาดแคลน จึงทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา

แคลเซียมเสริมสุขภาพ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับ กระดูกและฟัน อีกทั้งป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน

ประโยชน์ของ แคลเซียม (calcium)
  1. เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันความผิดปกติของกระดูกและฟัน เช่น กระดูกหักง่าย หลักโก่งงอ กระดูกเรียงผิดรูป หรือฟันหักง่าย
  2. ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน ช่วยสร้างเนื้อกระดูกให้มีความหนาแน่นมากขึ้น
  3. ลดอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ
  4. ช่วยให้การเจริญเติบโตในด้าน ความสูงและความแข็งแรง ของเด็กในวัยเจริญเติบโต

(อ้างอิงที่1)

แคลเซียม มีประโยชน์กับ กระดูก อย่างไร?

“แคลเซียม (calcium)” เป็นธาตุที่มีมากที่สุดของร่างกาย เป็นโครงสร้างหลักของกระดูกและฟัน

“ในเด็ก” แคลเซียมจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและความสูง เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับเด็ก ในช่วง

“วัยปีทอง” (Growth spurt) ซึ่งเป็นช่วงสะสมมวลกระดูกสำหรับการเจริญเติบโต และเพิ่มมวลกระดูกให้มีปริมาณสูงสุด

“สำหรับในผู้ใหญ่” หากร่างกายไม่ได้รับ “แคลเซียม (calcium)” ในปริมาณที่พอเพียง ร่างกายจะดึงแคลเซียมที่สะสมอยู่ในกระดูกออกมาใช้ และหากไม่ได้รับอย่างพอเพียงเป็นประจำ แคลเซียมในกระดูกจะถูกดึงออกมามากจนกระทั่งกระดูกพรุน เปราะ ทำให้ความแข็งแรงของกระดูกลดลงจึงแตกหักได้ง่าย

แม้ว่าได้รับแรงกระแทกเพียงเล็กน้อย ซึ่งอาการดังกล่าวคืออาการของ “โรคกระดูกพรุน” (Osteoporosis) โดยหากเป็นรุนแรงแล้วจึงจะแสดงอาการออกมา เช่น ปวดหลังเรื้อรังหลังค่อมจากการยุบตัวลงของกระดูกสันหลัง หรือกระดูกสะโพกหักทำให้เดินไม่ได้เหมือนเดิม

“ในผู้หญิง” มีโอกาสเกิดโรคนี้ได้ “มากกว่าผู้ชายหลายเท่า (ประมาณ 4 เท่า)” และ “ผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน” นั้น ในช่วง 5 ปีแรกมวลกระดูกจะลดลงอย่างรวดเร็ว จึงมีโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุนได้ง่าย

ดังนั้น คนที่มีการสะสมมวลกระดูกมากตั้งแต่วัยเด็กถึงวัยหนุ่มสาว เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนและวัยชราจะยังมีมวลกระดูกอยู่เหลือมากกว่าคน ที่มีการสะสมมวลกระดูกน้อย และลดความเสียงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนในวัยสูงอายุ (อ้างอิงที่ 1-5)

ความต้องการแคลเซียมต่อวัน

สถานการณ์ที่เกี่ยวกับโภชนาการของแคลเซียมในประเทศไทย มีรายงานสำรวจภาวะการณ์ บริโภคอาหารของประชาชนไทย พบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว คนไทยรับประทานแคลเซียม จากอาหารประจำวันได้เพียง 301 มก.ต่อวัน ซึ่งค่อนข้างต่ำ (อ้างอิงที่ 6)

ขณะที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำข้อมูลสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคประจำวัน สำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป (Thai Recommended Daily Intakes-Thai RDI) (อ้างอิงที่ 7)

โดยแนะนำว่า ปริมาณแคลเซียมที่ควรรับประทานต่อวันอยู่ที่ 800 มก. หรือเมื่อเทียบกับนมกล่อง(UHT) ซึ่งมีค่าปริมาณแคลเซียมอยู่ที่ 122 มก./100 มล. แล้ว (อ้างอิงที่ 8) เทียบเท่ากับการดื่มนมประมาณวันละ 650 ซีซี หรือประมาณ 3 กล่อง

อย่างไรก็ตามปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการจะเปลี่ยนแปลงตามช่วงอายุ

ปริมาณความต้องการแคลเซียมในแต่ละวัย
วัยปริมาณแคลเซียมที่ต้องการ/วันเทียบเท่ากันนมสด/วัน
เด็กก่อนวัยปีทอง800 มก.3-5 แก้ว
เด็กวัยปีทอง1,200 มก.5-6 แก้ว
ผู้ใหญ่800 มก.3-5 แก้ว
สตรีวัยหมดประจำเดือน1,200 มก.5-6 แก้ว

การได้รับแคลเซี่ยมในปริมาณน้อยกว่า 2000 มก. ถือว่า ปลอดภัย สำหรับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ทั่วไป ถ้าในปริมาณที่มากกว่า 2000 มก./วัน ถือว่า ไม่ปลอดภัย และอาจเป็นอันตรายได้ ถ้าได้รับเช่นนี้ต่อเนื่องหลายๆ วัน ติดๆ กัน โดยจะทำให้ท้องผูกและอาจทำให้เป็นนิ่วในไตหรือในระบบปัสสาวะได้

“สรุปแล้ว แคลเซียม ที่พอเพียงมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย” บำรุงกระดูก การขาดแคลนมีผลทำให้ความสูงหยุดชะงักได้ องค์ประกอบที่จะสูงไม่ได้มาจาก “แคลเเซียม” แต่เพียงอย่างเดียว

อาหารที่มีแคลเซี่ยมสูงหลากหลายให้เลือก และ “นม” เป็นอาหารที่ทานง่ายที่สุด ในกรณีที่ดื่มนมไม่ได้ ก็อาจทานอาหารชนิดอื่นหรืออาหารสุขภาพที่ปลอดภัย ซึ่งเสริมแคลเซี่ยมในบ้านเราก็มีหลายชนิดโดยทานปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป ก็จะเป็นการใส่ใจดูแลทางโภชนาการที่สมบูรณ์

“แคลเซียม (calcium)” จึงเป็น “สารอาหารที่จำเป็น” ที่คนไทยจำนวนมากขาดแคลน นอกจากการดื่มนมทุกวันแล้ว อาหารเสริม แคลเซียม เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้บริโภคเช่นกัน และโดยส่วนตัวแล้ว ผมเองก็ทาน แคลดีแมก 600 เหมือนกัน

กลับสู่สารบัญ

คำถาม ที่มักพบบ่อย ของ แคลเซียม จาก กิฟฟารีน ?

Q: แคลเซียมแต่ละชนิด ทำมาจากอะไร ?

  • Calcium carbonate (แคลเซียม คาร์บอเนต)
    เป็น แคลเซียมที่พบมากตามธรรมชาติ ซึ่งจะอยู่ในรูปของหินปูน โดยจะแตกตัวให้แคลเซียม มากที่สุดถึง 40%
  • Calcium citrate (แคลเซียม ซิเตรท)
    เป็น แคลเซียม ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ซื่งเกิดจากการรวมตัวกันระหว่าง Calcium carbonate + กรดcitrate โดยจะแตกตัวให้แคลเซียม 21%
  • Calcium lactate (แคลเซียม แลคเตท)
    เป็น แคลเซียม ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ซื่งเกิดจากการรวมตัวกันระหว่าง Calcium carbonate + กรด lactate โดยจะแตกตัวให้แคลเซียม 13%
  • Calcium gluconate (แคลเซียม กลูโคเนต)
    เป็น แคลเซียม ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ซื่งเกิดจากการรวมตัวกันระหว่าง Calcium carbonate + กรด gluconate โดยจะแตกตัวให้แคลเซียม 9%

Q: แคลเซียมแต่ละชนิด แตกต่างกันอย่างไร ?

A: มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของการแตกตัว และ การดูดซึม ดังนี้

แคลเซียม คาร์บอเนตแคลเซียม ซิเตรท
ปริมาณการรับประทานที่เท่ากัน1,000 มก.1,000 มก.
การแตกตัวให้ Calcium400 มก.211 มก.
% การดูดซึมของแคลเซียม31.2%39.2%
ปริมาณของแคลเซียมที่ร่างกายดูดซึมได้จริง124.8 มก.82.7
ราคาราคาถูกกว่าราคาแพงกว่าต้องรับประทานมากกว่า จึงจะได้แคลเซียมเท่ากับที่ได้รับจาก แคลเซียม คาร์บอเนต

Q: ชนิดของ แคลเซียม ในท้องตลาด ?

A: ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในท้องตลาด จะแตกต่างกันที่ ชนิด และ ปริมาณ ของแคลเซียม ดังนี้

ผลิตภัณฑ์ชนิดของแคลเซียมที่ใช้ปริมาณแคลเซียมที่ใส่ต่อ 1 เม็ด (มก.)ปริมาณแคลเซียมที่ได้ (มก.)
Aไตร แคลเซียม ซิเตรท1,000211
Bแคลเซียม คาร์บอเนต1,750700
Cแคลเซียม คาร์บอเนต1,500600
Dแคลเซียม คาร์บอเนต1,000400
ซึ่ง โดยปกติแล้ว ร่างกายของเรา สามารถ ดูดซึมแคลเซียม ได้ครั้งละไม่เกิน 500มก. เราจีงควรเลือก ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม ต่อการดูดซึมของร่างกายเรานั่นเอง

Q: แคลเซียมของกิฟฟารีน ทำมาจากแคลเซียมชนิดใด ?

A: แคลเซียมของกิฟฟารีน มีทั้งชนิดเม็ดและน้ำ ซื่งทั้ง 2 ชนิด ใช้แคลเซียม คาร์บอเนต ซึ่งเป็นรูปแบบที่แตกตัว ให้แคลเซียมสูงที่สุด และมีราคาไม่แพง

  • แคลเซียมในรูปแบบเม็ด แนะนำให้ทานพร้อมอาหารเพื่อให้ประสิทธิภาพในการดูดซึมดียิ่งขี้น
  • แคลเซียมในรูปแบบน้ำ แคลเซียมในรูปแบบน้ำนี้ เป็นแคลเซียมที่มาจากสาหร่ายสีแดง ประเทศไอช์แลนด์ ซี่งมีงานวิจัยว่าแตกตัวได้ดีมาก ให้แคลเซียมสูง และดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย

ดังนั้น ในการเลือกทานแคลเซียมจึงต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า ในด้านของราคา และเน้นย้ำซึ้งวิธีการทาน เช่น แนะนำให้ทานพร้อมมื้ออาหาร เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั่นเอง

Q: ในแต่ละวัน ควรทานแคลเซียม วันละเท่าไหร ?

A: ในแต่ละช่วงวัยร่างกายต้องการแคลเซียมที่แตกต่างกัน ดังนี้

ช่วงอายุปริมาณแคลเซียมที่ต้องการในแต่ละวัน (มิลลิกรัม)ปริมาณนมที่ควรดื่มเพื่อให่ได้แคลเซียมตามที่ต้องการ
4 – 8 ปี800 มก.3 – 5 แก้ว
9 – 18 ปี1200 มก.5 – 6 แก้ว
19 – 45 ปี800 มก.3 – 5 แก้ว
45 ปีขึ้นไป1200 มก.5 – 6 แก้ว
โดยร่างกายของเรา จะสามารถ ดูดซึมแคลเซียม ได้ครั้งละไม่เกิน 500มก. ดังนั้น เราจีงควรแบ่งช่วงเวลาในการทานแคลเซียมให้เหมาะสมกับความต้องการ เพื่อให้ร่างกายสามารถนำแคลเซียมไปใช้ ได้อย่างเ๖้มประสิทธิภาพนั่นเอง

Q: ถ้าทานแคลเซียม เกินความต้องการในแต่ละวัน จะทำให้เกิดโรคกระดูกงอก หรือไม่ ?

A: หากเราทานแคลเซียมเกินความต้องการ “แคลเซียมที่เหลือ จะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แต่จะถูกขับออกจากร่างกายโดยธรรมชาติ และไม่เป็นสาเหตูของ โรคกระดูกงอก”

เพราะ โรคกระดูกงอก เกิดจากการสร้างหรือผสานกระดูกที่ผิดปกติ มักเกิดกับผู้ที่กระดูกบางเปราะแตกง่าย หากเกิดรอยร้าวจีงผสานได้ไม่ดี ทำให้เกิดกระดูกงอกขึ้น

Q: การทานแคลเซียม ช่วยทำให้สูงขึ้น ได้จริงหรือไม่ ?

A: ในช่วง ปีทอง ของ วัยรุ่น หรือ Growth Spurt (วัยรุ่นชาย อายุ 10-16 ปี และ วัยรุ่นหญิง อายุ 9-13 ปี)

ร่างกายจะพัฒนาอย่างเต็มที่ และจะมีส่วนสูงขึ้น เฉลี่ย 6-11 ซม./ปี ดังนั้น อาหารที่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง จึงจำเป็นอย่างมากในการเสริมสร้างความยาวของกระดูก โดยเด็กในช่วงนี้ ควรได้รับแคลเซียม วันละ 1200 มก. หรือ ดื่มนม วันละ 4-5 แก้ว แต่เด็กไทยส่วนใหญ่มักจะดื่มนมได้น้อย จึงควรได้รับแคลเซียมเสริมเพื่อให้เหมาะสมต่อความต้องการในแต่ละวัยนั่นเอง

Q: การทานแคลเซียม มีข้อห้าม หรือ ข้อควรระวัง หรือไม่ ?

  1. เด็กเล็กสามารถสามมารถทานแคลเซียมได้ แต่ต้องเป็รในรูปแบบที่เด็กเล็กสามารถทานได้เท่านั้น
  2. ผู้ที่เป็นโรคไต หรือ นิ่วในไต ควรได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสมจีงยังไม่แนะนำ หรือต้องปรีกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
  3. แคลเซียมจำเป็นสำหรับสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร แต่ต้องอยู่ในตวามดูแลของแพทย์เท่านั้น

(อ้างอิงที่ 9-13)

ใครบ้าง ที่ต้องการแคลเซียม
  1. ผู้ที่ต้องการบํารุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันกระดูกพรุน
  2. เด็กวัยเจริญเติบโต (Growth Spurt)
  3. หญิงตั้งครรภ์ เพื่อให้เพียงพอ ต่อการสร้างกระดูกของลูกในครรภ์
  4. หญิงวัยหมดประจําเดือน
  5. ผู้สูงอายุ ที่พบกระดูกพรุน และข้อเสื่อม

อาหารเสริมแคลเซียม จาก กิฟฟารีน มีอะไรบ้าง?

อาหารเสริม แคลเซียม กิฟฟารีน แคล-ดี-แมก (60 เม็ด)

มาเสริมแคลเซียม ด้วย แคล-ดี-แมก ตัวช่วยที่ดี สำหรับ กระดูกและฟัน

อาหารเสริม แคลเซียม กิฟฟารีน แคล-ดี-แมก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แคลเซียม ช่วย บำรุงกระดูกและฟัน เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟัน ผสม แมกนีเซียม (Magnesium), สังกะสี (Zinc), ทองแดง (Copper), วิตามินซี (Vitamin C), วิตามินอี (Vitamin E) และ วิตามิน ดี 3 (Vitamin D 3) ช่วย เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมของแคลเซียมให้ดียิ่งขึ้น

  • แมกนีเซียม (Magnesium) ในร่างกายส่วนมาก (60-70%) จะพบในกระดูก แมกนีเซียมจำเป็นสำหรับการเติบโตของกระดูก การส่งสัญญาณทางประสาท และการหดตัวของกล้ามเนื้อ การได้รับ แมกนีเซียมในขนาดที่พอเหมาะ จะช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
  • สังกะสี (Zinc) จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต การเจริญเติบโตของระบบสืบพันธุ์ สำคัญในการสร้างกระดูกตามปกติ และช่วยในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
  • ทองแดง (Copper) มีความสำคัญในระบบโครงสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพันร่วมกับวิตามินซี ในการสร้าง อีลาสติน จำเป็นสำหรับการเผาผลาญโปรตีน และการสร้างสีของ ผิวหนัง และ สีผม
  • วิตามินซี (Vitamin C) เป็น วิตามินที่มีกลไกในการต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และยังช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือด ให้แข็งแรง ช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุ เสริมสร้างเซลล์ให้แข็งแรง
  • วิตามินอี (Vitamin E) เป็น สารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้เซลล์เสื่อมสภาพ จำเป็นต่อการเจริญและพัฒนาของเซลล์ประสาท
  • วิตามิน ดี 3 (Vitamin D 3) เสริมประสิทธิภาพในการดูดซึมแคลเซี่ยมให้ดีขึ้น

กิฟฟารีน แคล-ดี-แมก (60 เม็ด)

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 เม็ด:
แคลเซียม400 มก.
แมกนีเซียม54 มก.
วิตามิน ดี390 หน่วยสากล
วิตามิน ซี32 มก.
สังกะสี4.2 มก.
วิตามิน อี3 หน่วยสากล
ทองแดง0.45 มก.
วิธีรับประทาน:
รับประทานครั้งละ 1 เม็ด พร้อมอาหารเช้า-เย็น
อาหารเสริม แคลเซียม กิฟฟารีน แคล-ดี-แมก 600 (60 เม็ด)

เสริมแคลเซียม ด้วย แคล-ดี-แมก ตัวช่วยที่ดี สำหรับ กระดูกและฟัน

อาหารเสริม แคลเซียม กิฟฟารีน แคล-ดี-แมก 600 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แคลเซียม ช่วย บำรุงกระดูกและฟัน เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟัน ผสม แมงกานีส (Manganese), แมกนีเซียม (Magnesium), สังกะสี (Zinc), ทองแดง (Copper), วิตามินซี (Vitamin C), วิตามินอี (Vitamin E) และ วิตามิน ดี 3 (Vitamin D 3) ช่วย เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมของแคลเซียมให้ดียิ่งขึ้น

  • แมงกานีส (Manganese)  เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นในการพัฒนาของกระดูกตามปกติ จำเป็นสำหรับการสร้างเสริมระบบโครงสร้างของร่างกาย
  • แมกนีเซียม (Magnesium) ในร่างกายส่วนมาก (60-70%) จะพบในกระดูก แมกนีเซียมจำเป็นสำหรับการเติบโตของกระดูก การส่งสัญญาณทางประสาท และการหดตัวของกล้ามเนื้อ การได้รับ แมกนีเซียมในขนาดที่พอเหมาะ จะช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
  • สังกะสี (Zinc) จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต การเจริญเติบโตของระบบสืบพันธุ์ สำคัญในการสร้างกระดูกตามปกติ และช่วยในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
  • ทองแดง (Copper) มีความสำคัญในระบบโครงสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพันร่วมกับวิตามินซี ในการสร้าง อีลาสติน จำเป็นสำหรับการเผาผลาญโปรตีน และการสร้างสีของ ผิวหนัง และ สีผม
  • วิตามินซี (Vitamin C) เป็น วิตามินที่มีกลไกในการต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และยังช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือด ให้แข็งแรง ช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุ เสริมสร้างเซลล์ให้แข็งแรง
  • วิตามินอี (Vitamin E) เป็น สารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้เซลล์เสื่อมสภาพ จำเป็นต่อการเจริญและพัฒนาของเซลล์ประสาท
  • วิตามิน ดี 3 (Vitamin D 3) เสริมประสิทธิภาพในการดูดซึมแคลเซี่ยมให้ดีขึ้น

กิฟฟารีน แคล-ดี-แมก (60 เม็ด)

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 เม็ด:
แคลเซียม600 มก.
แมกนีเซียม54 มก.
วิตามิน ดี390 หน่วยสากล
วิตามิน ซี32 มก.
สังกะสี4.2 มก.
วิตามิน อี3 หน่วยสากล
ทองแดง0.45 มก.
วิธีรับประทาน:
รับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมหรือหลังอาหารเย็น

กลับสู่สารบัญ

เอกสารอ้างอิง

  1. เครือข่ายวิชาการสุขภาพเรื่อง แคลเซียม, วิตามินดี, แมกนีเซียม, แมงกานีส, วิตามินซี, สังกะสี, ทองแดง และวิตามินอี. สำนักงานคระกรรมการอาหารและยา
  2. Calcium needs of adolescents. Curr Opin Pedlatr. 1994 Aug:6(4):379-82.
  3. Calcium, American Academy of Orthopaedic Surgeons.
  4. แคลเซียมกับโรคกระดูกพรุน, กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
  5. Osteoporosis-related life habits and knowledge about osteoporosis among women in El Salvador: A cross-sectional study BMC Musculoskelet Disord. 2004; 5: 29.
  6. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข “ข้อกำหนดสารอาหารที่ควรได้รับประจำวันและแนวทางการบริโภคอาหารสำหรับคนไทย” พ.ศ.2532 หน้า 85-90
  7. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 182) พ.ศ. 2541 เรื่อง ฉลากโภคชนาการ
  8. ตารางแสดงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไทย, คณะกรรมการสวัสดิการกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ISBN : 974-515-295-1 หน้า 59
  9. เครือข่ายวิชาการสุขภาพเรื่อง แคลเซียม, วิตามินดี, แมกนีเซียม, แมงกานีส, วิตามินซี, สังกะสี, ทองแดง และวิตามินอี. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
  10. Calcium needs of adolescents. Curr Opin Pediatr. 1994 Aug;6(4):379-82.
  11. Calcium, American Academy of Orthopaedic Surgeons.
  12. แคลเซียมกับโรคกระดูกพรุน, กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
  13. Osteoporosis-related life habits and knowledge about osteoporosis among women in El Salvador: A cross-sectional study BMC Musculoskeletal Disord. 2004; 5: 29.

เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop

สิทธิพิเศษเมื่อสมัครสมาชิกกิฟฟารีนกับเรา

  • ค่าสมัครเพียง 180 บาท เป็นสมาชิกตลอดชีพ ไม่มีค่าต่ออายุรายปี
  • รับแคตตาล็อกสินค้าพร้อมบัตรสมาชิก และรับส่วนลดในการซื้อสินค้าราคาสมาชิก 25% ได้ทันที
  • รับเงินปันผล 10%-15%-25% คืนกลับมาจากการใช้สินค้าทุกเดือน และรับโบนัสพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
  • รับสิทธิ์แลกซื้อสินค้าราคาโปรโมชั่นพิเศษประจำเดือน และโปรโมชั่นของแถมประจำสัปดาห์ ได้ทุกเดือน
  • ประกันคุ้มครองชีวิตฟรี ในรหัสเดียวกัน สามี/ภรรยา วงเงินตั้งแต่ 120,000-320,000 บาท
  • สามารถเลือกได้ว่าต้องการเป็นผู้ใช้สินค้าเพียงอย่างเดียว หรือ ต้องการทำเป็นธุรกิจเพื่อสร้างรายได้
  • สร้างเครือข่ายได้รับลิขสิทธิ์ 4%-10% พร้อมส่งต่อเครือข่าย และรายได้ทั้งหมด เป็นมรดกให้ทายาท
  • เมื่อขึ้นตำแหน่งแล้วจะไม่มีการปรับหรือลดตำแหน่งในภายหลัง แม้ว่าจะไม่ได้รักษายอดในเดือนถัดไป
สำหรับท่านที่สมัครสมาชิกกิฟฟารีน กับ ทางเว็บไซต์ ของเรา
  • รหัส สมาชิก ของท่าน คือ คูปองส่วนลด 25% ในการ ซื้อ สินค้า กับทาง เว็บไซต์ ของเรา
  • เราจำกัดแค่ ต้องใช้คูปองกับ เว็บไชต์ ของเรา แต่ เราไม่ได้จำกัด ผู้ใช้ คุณ จะให้ใครใช้ก็ได้ โดย เราจัดส่งให้ ฟรี !
  • สำหรับ ท่าน ที่ต้องการต่อยอด ธุรกิจ ลองปรีกษาเรา เรายินดีที่จะให้คำปรึกษา แก่คุณ
  • ช่องทางสะดวกให้คำปรึกษา Fan Page Sirikul Shop
สมัครสมาชิก กิฟฟารีน
Shopping Cart
Scroll to Top