เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ กรดไฮยาลูโรนิก และ โซเดียมไฮยาลูโรเนต โดย กิฟฟารีน ไฮยา ซีรีย์

“ไฮยาลูรอน (Hyaluron)” หรือ “กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid)” คืออะไร? “โซเดียมไฮยาลูโรเนต” (Sodium Hyaluronate) คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร? ไปเรียนรู้กันครับ

สารบัญ

ไฮยาลูรอน (Hyaluron) หรือ ไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) คืออะไร?

“ไฮยาลูรอน (Hyaluron)” หรือ “กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid)” ทั้ง 2 ชื่อนี้ คือสารตัวเดียวกัน เรียกย่อสั้นๆ ว่า “ไฮย่า (Hya)” หรือ “HA” เป็นสารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในเนื้อเยื่อร่างกาย เป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเองตามธรรมชาติ มีอยู่ในร่างกายเราตั้งแต่เกิด ซึ่งพบได้ตามเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะในดวงตา ข้อต่อ และผิวหนัง

โดยพบได้ทั่วไปกว่า 80% ในชั้นโครงสร้างผิว มีหน้าที่ช่วยให้ข้อต่อต่างๆ ในร่างกายเกิดการหล่อลื่น จึงช่วยป้องกันความเจ็บปวดและการบาดเจ็บจากกระดูกเสียดสีกัน ช่วยให้เนื้อเยื่อบริเวณข้อต่อชุ่มชื้น

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่สามารถอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่า ของน้ำหนักตัวสาร เมื่อจับกับโมเลกุลของน้ำก็จะช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิว ลดการสูญเสียของน้ำในชั้นผิว ผิวจึงดูเต่งตึง ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ และนั่น จึงเป็นเหตุผลที่ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) มักถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เป็นโมเลกุลของน้ำตาลชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “โพลีแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide)” ซึ่งมีอยู่ในเนื้อเยื่อของร่างกาย และร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ แต่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายของคนเราจะผลิตสาร กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) และเส้นใยคอลลาเจนได้น้อย และช้าลงเรื่อยๆ

โดยทั่วไปแล้วผิวหนังจะเริ่มเสื่อมเมื่ออายุเกิน 20 ปี ผิวจะเริ่มขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้ง ผิวบางลง และขาดความยืดหยุ่น ต่อมาก็จะเริ่มมีริ้วรอย ร่องลึก ผิวเหี่ยวย่น และหย่อนคล้อย

ดังนั้นทางการแพทย์จึงได้ทำการสังเคราะห์ “ไฮยาลูรอน (Hyaluron)” ขึ้นมา เพื่อทดแทน กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ที่ร่างกายสร้างขึ้น

“ไฮยาลูรอน (Hyaluron)” เป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นมา มีอยู่ในร่างกายเราตั้งแต่เกิดแล้วนะ

คุณสมบัติของ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid)

คุณสมบัติเด่นของ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) คือ สามารถกักเก็บน้ำไว้บนผิวหนังได้ดีมาก ทำให้ผิวยังคงความชุ่มชื้น เรียบเนียน ผิวไม่แห้ง ผิวมีความยืดหยุ่นและช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย นอกจากนี้สารกรดไฮยาลูโรนิกยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ดังนี้

  1. กรดไฮยาลูโรนิกจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ในชั้นผิวหนังแท้ หรือผิวหนังชั้นใน
  2. กรดไฮยาลูโรนิกช่วยกรองรังสี UV ที่เป็นต้นเหตุทำให้ผิวคล้ำแดด ผิวแห้ง และริ้วรอยก่อนวัยอันควร
  3. กรดไฮยาลูโรนิกช่วยลดการสร้างอนุมูลอิสระ
  4. สารกรดไฮยาลูโรนิกช่วยหล่อลื่นกระดูกข้อต่อไม่ให้เสียดสีกัน
กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ทำงานอย่างไร?

กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เป็น โมเลกุลที่ซับซ้อนคล้ายสายโซ่ยาว มีหน่วยเล็กๆ หลายหน่วยเชื่อมต่อกันจนกลายเป็นสารประกอบโมเลกุลขนาดใหญ่ และมีมวลโมเลกุลมากเรียกว่า “พอลิเมอร์ (Polymer)” สายโซ่จำนวนมากนี้ทำให้สารเคมีเกาะติดกันได้

ด้วยสาเหตุนี้สาร “ไฮยาลูรอน (Hyaluron)” จึงสามารถกักเก็บน้ำได้ถึงครึ่งแกลลอน ทำให้เป็นพอลิเมอร์ที่ดีที่สุดสำหรับการดูดซับน้ำ และเป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญสำหรับวงการเสริมความงาม

ประโยชน์ ของ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ทางการแพทย์

1.ช่วยลดเลือนริ้วรอย

กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย ชะลอริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน และช่วยเรื่องความยืดหยุ่นของผิวได้ดี

เนื่องจากคุณสมบัติเด่นของ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) คือ การกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว และช่วยในการพยุงโครงสร้างผิวเอาไว้ เมื่อผิวมีสาร กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เพียงพอก็จะช่วยเรื่องลดเลือนริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนร่างกายได้

2.โรคข้อเสื่อม

ตามธรรมชาติแล้วร่างกายจะผลิต กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ที่ทำหน้าที่เป็นตัวหล่อลื่นบริเวณข้อต่อของกระดูก และช่วยลดแรงกระแทกบริเวณข้อต่อ

เมื่อ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) บริเวณกระดูกข้อต่อมีปริมาณลดน้อยลงจะทำให้กระดูกเกิดการเสียดสีกันจนเป็นเหตุให้เกิดอาการปวดบริเวณข้อต่อได้ หรือเกิดโรคข้อกระดูกอักเสบ

3.โรคต้อกระจกตา

กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) สามารถเป็นเครื่องมือช่วยหนืดระหว่างการผ่าตัด “โรคต้อกระจกตา (Cataract)” และ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid)นี้ยังช่วยหล่อลื่น ปกป้องเยื่อบุกระจกตาได้

นอกจากนี้ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ยังนำมาเป็นส่วนผสมของ “น้ำตาเทียม (Artificial tear)” เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น หล่อลื่นลูกตา และลดการระคายเคืองในลูกตา สำหรับคนที่มีปัญหาตาแห้งอีกด้วย

4.ช่วยบรรเทาอาการแผลไฟไหม้

กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) สามารถ ช่วยบรรเทาอาการของแผลไฟไหม้ และยังสามารถช่วยลดขนาดของบาดแผลได้ โดยการทา กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ไปบริเวณที่เกิดแผลไฟไหม้

นอกจากนี้ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ยังสามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และช่วยสมานแผลให้แผลหายเร็วขึ้นได้

ไฮยาลูรอน..เคล็ดลับเพื่อผิวอ่อนเยาว์ เนียนเด้ง ฉ่ำน้ำ

กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่ถูกกล่าวถึงบ่อยครั้งในวงการความงามและเป็นส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายชนิด เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและลดภาวะการขาดน้ำของผิว จึงช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ ทั้งยังช่วยในเรื่องลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย

เนื่องจากผิวที่มีความชุ่มชื้น เป็นผิวที่มีสุขภาพดี ผิวจะมีความยืดหยุ่น เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์

ประโยชน์ ของ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) กับการดูแลผิว
  1. ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับชั้นผิว ไฮยาลูรอนช่วยอุ้มและกักเก็บน้ำไว้ที่ผิวได้อย่างดีเยี่ยม จึงมีส่วนช่วยทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ เนียนนุ่ม และดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น
  2. ช่วยลดเลือนริ้วรอย กุญแจสำคัญของการรักษาผิวให้ดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ ช่วยแก้ปัญหาการเกิดริ้วรอยได้ ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน จะทำให้ผิวเด้งอิ่มน้ำ มีความชุ่มชื้น และริ้วรอยดูจางลง
  3. ช่วยลดการอักเสบของผิว ไฮยาลูรอนช่วยลดการอักเสบบนผิวหน้า ช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลาย ไม่ว่าการอักเสบของสิว หรือรอยแผลเป็นต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยเร่งการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ถูกทำลายไป อีกด้วย
  4. ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส ไฮยาลูรอนมีส่วนช่วยให้ผิวกระจ่างใส ผิวดูนุ่มลื่นเรียบเนียนและอิ่มเด้งด้วยน้ำในชั้นผิว
  5. ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าแห้ง เป็นขุย เมื่อผิวของเราขาดความสมดุล ไฮยาลูรอนจะทำให้ผิวของเราเกิดอาการแห้ง ลอกเป็นขุยได้ ดังนั้น กรดไฮยาลูรอนนี้เอง จะเข้ามาช่วยเพิ่มการกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า
  6. ช่วยกระชับรูขุมขน ไฮยาลูรอนมีส่วนในการลำเลียงสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวหน้าของเราเข้าสู่เซลล์ผิว ทำให้ผิวกระชับดูอิ่มน้ำ เด้ง เมื่อรูขุมขนเล็กลง จะช่วยให้ผิวเนียนละเอียดขึ้น
  7. ช่วยรักษาโรค ไฮยาลูรอนยังถูกนำมาใช้ในการรักษาโรค เป็นยาประเภทฉีดบำบัดรักษาโรค โดยเฉพาะโรคข้อเข่าเสื่อม ภาวะอักเสบรอบข้อไหล่ การป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก และลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดบริเวณข้อได้อีกด้วย

โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) คืออะไร ?

โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) คือ อนุพันธ์ของ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ที่ถูกพัฒนาให้สามารถละลายน้ำได้ดี และมีโมเลกุลขนาดเล็กกว่า สามารถซึมเข้าได้สู่ผิวได้ทุกสภาพผิว

ซึ่ง โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) เป็น สารเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว พร้อมทั้งช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวแข็งแรง สุขภาพดี ผิวดูอิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอย และปรับสมดุลให้แก่ผิว

ปัจจุบันนิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางหลากหลายชนิด เพราะสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก

โดย กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เป็น กรดที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นมาได้เอง สามารถพบได้ทั่วไปตามร่างกาย เป็นกรดที่ช่วยเพิ่มความต้านทาน เพิ่มความยืดหยุ่น และลดการเสียดสีของเซลล์

แต่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายผลิต กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ได้น้อยลง ทำให้ต้องใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิคแอซิดเพื่อความเยาว์วัยของผิว 

ความแตกต่างระหว่าง โซเดียมไฮยาลูโรเนต กับ กรดไฮยาลูโรนิก

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) คือ อนุพันธ์ของ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ที่ถูกพัฒนาขี้น และมีโมเลกุลขนาดเล็กกว่า

ข้อแตกต่างระหว่าง โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) และ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) คือ ขนาดโมเลกุล นอกจากขนาดของโมเลกุลที่แตกกันแล้ว คุณสมบัติขอสารทั้งสองชนิดยังแตกต่างกันอีกด้วย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

คุณสมบัติของ โซเดียมไฮยาลูโรเนต Sodium Hyaluronate

อย่างเรารู้กันว่า โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) มีขนาดโมเลกุลที่เล็กกว่า เพราะ โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) เป็นอนุพันธ์ที่พัฒนามาจาก กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งทำให้สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ดีมากกว่า โดยที่คุณสมบัติของ โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) มีดังนี้

  1. ช่วยเติมความชุ่มชื้น
  2. ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู
  3. ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว
  4. ช่วยลดลดเลือนริ้วรอย
  5. ช่วยปรับสมดุลให้แก่ผิว
  6. ช่วยปลอบประโลมผิวที่โดนทำร้ายจากมลภาวะ
ประโยชน์ของ Sodium Hyaluronate กับการดูแลผิว
  1. ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น Sodium Hyaluronate เป็นสารที่สามารถละลายน้ำได้ดี ตามรายงานในปี 2019 พบว่า Sodium Hyaluronate ที่มีขนาดโมเลกุลเล็กกว่าเมื่อเทียบกับ Hyaluronic Acid สามารถเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ดีกว่า นอกจากนี้ยังช่วยลดความแห้งกร้านและช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ด้วย เมื่อผิวได้รับน้ำที่เพียงพอต่อความต้องการจะช่วยรักษาสมดุลให้แก่ผิว ทำให้ผิวแลดูมีสุขภาพดี และอ่อนเยาว์
  2. ช่วยลดเลือนริ้วรอย เพราะคุณสมบัติที่สามารถละลายน้ำและซึมเข้าสู่ผิวได้ดีของ Sodium Hyaluronate ซึ่งเมื่อทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Sodium Hyaluronate จะช่วยทำให้ผิวสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ ซึ่งช่วยลดโอกาสที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Sodium Hyaluronate สามารถลดความลึกของริ้วรอยบนผิวลงได้จริง
  3. ช่วยลดการอักเสบของผิว จากการศึกษาในปี 2013 และ 2014 พบว่าสาร Sodium Hyaluronate สามารถช่วยบรรเทาการอักเสบของผิวหนังได้ โดย Sodium Hyaluronate สามารถส่งเสริมการผลิต beta-defensin 2 ซึ่งเป็นสารประกอบที่ช่วยในการรักษาเนื้อเยื่อ ยังควบคุมการทำงานของเซลล์อักเสบ ทำให้ Sodium Hyaluronate มีคุณสมบัติสามารถลดรอยแดง อาการแสบร้อน และตุ่มนูน ที่มีสาเหตุมาจากการจากอักเสบของผิวได้
  4. ช่วยรักษาบาดแผล จากการศึกษาในปี 2017 พบว่า Hyaluronic Acid สามารถช่วยรักษาแผลเป็นและแผลที่เกิดจากไฟไหม้ได้ โดย Hyaluronic Acid ส่งเสริมการเพิ่มจำนวนของเซลล์และการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อทำให้บาดแผลมีอาการที่ดีขึ้น ทั้งนี้หากแพทย์ใช้สารนี้ทาลงไปบริเวณที่เกิดแผลก็อาจช่วยลดขนาดของบาดแผล ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และช่วยเร่งให้บาดแผลหายเร็วขึ้นได้

สาเหตุของ การเกิดริ้วรอย และผิวหย่อนคล้อย

“ไฮยาลูรอน (Hyaluron)” ตามธรรมชาติ จะลดลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย และผิวหย่อนคล้อย

แต่ทั้งนี้เมื่อเราอายุเพิ่มมากขึ้น ปริมาณ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ในชั้นผิวตามธรรมชาติจะลดน้อยลง เนื่องจากร่างกายจะผลิตสาร “ไฮยาลูรอน (Hyaluron)” ได้น้อยและช้าลง โดยอายุยิ่งมากขึ้นก็จะยิ่งผลิตได้น้อยลงเรื่อยๆ

จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน เกิดริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย และร่องลึกได้ การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มี “ไฮยาลูรอน (Hyaluron)” จึงสามารถช่วยเติมปราการความชุ่มชื้นของผิวและลดสัญญาณแห่งวัย

นอกจากคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นแล้ว กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid)ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ต้านการอักเสบอีกด้วย จึงสามารถช่วยปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกต่างๆที่ทำร้ายผิว เช่น รังสียูวีและมลภาวะต่างๆ ซึ่งสามารถทำลายผิวและเร่งกระบวนการชราได้

นอกจากนี้ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ยังช่วยปลอบประโลมผิว จึงมีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือระคายเคืองง่าย

นอกจากนี้ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ยังช่วยปรับปรุงโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ช่วยปรับโทนสีผิวให้สว่างขึ้น ส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิว รวมทั้งช่วยลดเลือนเส้นริ้วและรอยเหี่ยวย่นเล็กๆ

ในปัจจุบันจึงนิยมเติม กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เพื่อทดแทนสาร “ไฮยาลูรอน (Hyaluron)” ตามธรรมชาติที่ร่างกายสร้างขึ้นได้น้อยลง และช่วยรักษาเซลล์ผิวให้ชุ่มชื้น คงสภาพความอ่อนเยาว์ ได้นานยิ่งขึ้น

ดังนั้น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสาร “ไฮยาลูรอน (Hyaluron)” เกรดพรีเมี่ยมเป็นประจำ ก็จะช่วยเติมเต็มสารไฮยาลูรอนให้ผิว ช่วยคงสภาพผิวให้สมบูรณ์ ลดภาวะการขาดน้ำให้ผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เนียนใส ฉ่ำน้ำ และช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยได้นั่นเอง (อ้างอิงที่ 1-4)

ริ้วรอย บน ผิวหนัง คืออะไร?

“ริ้วรอย (Wrinkle)” เป็น ปรากฏการณ์การเสื่อมสภาพ ของ “ผิว” ที่เกิดขี้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะคุณสุภาพสตรี ก็ให้ความสําคัญเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจาก มีผลต่อความสวยงามบนใบหน้าโดยตรง อีกทั้งเป็นสิ่งที่ชี้บ่งถึงความล่วงเลยของวัย

ปัจจัยที่ทําให้เกิด ริ้วรอย มีอะไรบ้าง?
  1. “ปัจจัยภายใน” อาทิเช่น อายุที่เพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดการ เสื่อมไปตามธรรมชาติของ “เนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ผิวหนัง” ประเภท “คอลลาเจนและอีลาสติน” นําไปสู่การเกิด “ริ้วรอย” ชนิดถาวรขึ้น รวมไปถึงการทํางานของกล้ามเนื้อบริเวณ ใบหน้าที่ควบคุมการแสดงออกของสีหน้า เช่น การยิ้ม การขมวดคิ้ว ความเครียด เป็นต้นเหตุของริ้วรอยอันเกิดจากการแสดงอารมณ์
  2. “ปัจจัยภายนอก” คือ มลภาวะต่างๆ ได้แก่ รังสียูวี มลพิษ ทางอากาศ ฝุ่นควัน การสูบบุหรี่ ซึ่งก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ภายในผิวจนเซลล์ผิวเกิดการเสื่อมสภาพ ส่งผลให้เกิดริ้วรอย จุดด่างดํา และความหมองคล้ําของผิว
ประเภทของ ริ้วรอย มีอะไรบ้าง?
ริ้วรอยตื้น (Fine wrinkles)

มีลักษณะเป็น “เส้นบางๆ” ที่ “ผิว” มักเกิดบริเวณ “แก้ม” เป็นผลมาจากการที่ผิวแห้งและขาดความชุ่มชื้น เนื่องจากผิวถูกทําร้าย จากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแก่ผิว การชะล้างทําความสะอาดผิวที่รุนแรงเกินไป โดยเฉพาะการใช้ “น้ําอุ่นหรือน้ําร้อน” ล้างหน้า นอกจากนี้ มลภาวะจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ก็เป็น อีกปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดริ้วรอยได้เช่นกัน

ริ้วรอยร่องลึก (Deep wrinkles or skin folds)

“ริ้วรอยร่องลึก” มักเกิดจากความหย่อนคล้อยของโครงสร้าง “ผิว” ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นร่องลึกบริเวณมุมปีก “จมูก” โค้งมาที่ “มุมปาก” และอาจโค้งยาวลงมาถึงคางคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ “รอบปาก” นําไปสู่ความหย่อนคล้อยที่ปรากฏขึ้นที่ “แก้ม” ทั้ง 2 ข้าง

“ริ้วรอย” ประเภทนี้เป็นผลมาจากการลดลงของ “คอลลาเจน” ในผิว และการเปลี่ยนแปลงของ “อิลาสติน” ตามธรรมชาติจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น และยิ่งเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นจากปัจจัยกระตุ้น ต่างๆ เช่น รังสียูวีจากแสงแดด การสูบบุหรี่ และมลภาวะ ต่างๆ ก็ส่งผล ให้เกิดริ้วรอยได้มากยิ่งขึ้นเช่นกัน

“คอลลาเจน( Collagen)” มีหน้าที่เสมือน “โครงสร้างผิว” เจ้า “อีลาสติน (Elastin)” ก็ทํา หน้าที่ “ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิว” (อ้างอิงที่ 5)

เหตุใด อนุมูลอิสระ จึงทําให้เกิด ริ้วรอย

“อนุมูลอิสระ (free radical หรือ oxidant) (เป็นของเสีย หรือ สนิมของเซลล์)” คือ “โมเลกุล” ที่มี “อิเลคตรอนอิสระ” อยู่รอบนอกจัดเป็น “โมเลกุล” ที่ไม่มีความเสถียรและมีความว่องไวต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีในลักษณะที่เป็น “ปฏิกิริยาลูกโซ่” สามารถเข้าทําปฏิกิริยากับ “สารชีวโมเลกุล” ต่างๆ ที่อยู่รอบข้างได้ทันทีที่ถูกสร้างขึ้น

ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่องค์ประกอบ ต่างๆ ของ “เซลล์ภายในร่างกาย” เช่น การเปลี่ยนสภาพโปรตีน และไขมันของเยื่อหุ้มเซลล์ การทําลายโครงสร้างดีเอ็นเอ (DNA) ทําให้การทํางานของโปรตีนหรือเอนไซม์เหล่านั้นผิดปกติไป (อ้างอิงที่ 6)

ดังนั้นเมื่ออนุมูลอิสระไปทําลายโครงสร้างเซลล์ผิวที่มี โปรตีนและไขมันเป็นองค์ประกอบ (อ้างอิงที่ 7) จึงทําให้เป็นสาเหตุ บองการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร

“สารต้านอนุมูลอิสระ” คือ สารที่สามารถป้องกันหรือชะลอการ เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของอนุมูลอิสระได้ (อ้างอิงที่ 8) สารเหล่านี้ มีกลไกในการต้านอนุมูลอิสระหลายแบบ เช่น ดักจับอนุมูลอิสระ โดยตรง ยับยั้งการสร้างอนุมูลอิสระ หรือเข้าจับกับโลหะเพื่อป้องกัน การสร้างอนุมูลอิสระ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ แอสตาแซนธิน และ ริ้วรอย บน ผิวหนัง

ก็จบกันไปเกี่ยวกับ เรื่องของ ไฮยาลูรอน หรือ กรดไฮยาลูโรนิก โซเดียมไฮยาลูโรเนต และ ริ้วรอย บน ผิวหนัง ก็ได้เวลาแนะนำผลิตภัณฑ์ จาก กิฟฟารีน กันอีกเช่นเคย นั่นก็คือ กิฟฟารีน ไฮยา เพอร์เฟค สกิล ซีรี่ย์ และ ไฮยา ซีรีย์

กลับสู่สารบัญ

ผลิตภัณฑ์ HYA Perfect Skin Series และ ไฮยา ซีรีย์

วัตถุดิบได้รับการรับรอง สารธรรมชาติ 100% Natural ที่ออกโดยสถาบัน Ecocert Cosmetic

ECOCERT คือ ตรารับรองผลิตภัณฑ์ หรือตรารับรองสารธรรมชาติออร์แกนิกที่ออกโดยสถาบัน ECOCERT ประเทศฝรั่งเศส มีมาตรฐานเทียบเท่าและเป็นที่ยอมรับของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้นำของตรารับรองมาตรฐานการใส่ใจธรรมชาติที่มีชื่อเสียงในระดับสากล

โดยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง ECOCERT นั้น ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบที่เข้มงวดมาก เริ่มตั้งแต่ การเพาะปลูก กระบวนการผลิต บรรจุภัณฑ์ รวมทั้งการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ และจะต้องผ่านการตรวจสอบเป็นประจำทุกปี วัตถุดิบที่ได้รับรองมาตรฐาน ECOCERT นั้นจะต้องมีถิ่นกำเนิดมาจากธรรมชาติและต้องมาจากฟาร์มออร์แกนิคเท่านั้น

ขั้นตอนการใช้ตอนเช้า:

  1. ก่อนการบำรุงผิวใช้ กิฟฟารีนไฮยา อินเทนซีฟ ไวท์เทนนิ่ง พรี-ซีรั่ม ประมาณ 1 หลอดหยด
  2. ตามด้วย กิฟฟารีน ไฮยา ซุปเปอร์ คอนเซนเทรท ซีรั่ม ประมาณ 1 หลอดหยด
  3. ตามด้วย กิฟฟารีน ไฮยา ทรีดี คอมเพล็กซ์ โลชั่น[1] หรือ กิฟฟารีน ไฮยา ทรีดี คอมเพล็กซ์ ครีม[2]
  4. ทาผลิตภัณฑ์กันแดดกิฟฟารีน เป็นประจำทุกเช้า

ขั้นตอนการใช้ก่อนเข้านอน:

  1. ก่อนการบำรุงใช้ กิฟฟารีน ไฮยา อินเทนซีฟ ไวท์เทนนิ่ง พรี-ซีรั่ม ประมาณ 1 หลอดหยด
  2. ตามด้วย กิฟฟารีน ไฮยา ซุปเปอร์ คอนเซนเทรท ซีรั่ม ประมาณ 1 หลอดหยด
  3. ตามด้วย กิฟฟารีน ไฮยา ทรีดี คอมเพล็กซ์ โลชั่น[1] หรือ กิฟฟารีน ไฮยา ทรีดี คอมเพล็กซ์ ครีม[2]
  4. ปิดท้ายการบำรุงด้วย กิฟฟารีน ไฮยา บูสเตอร์ สลีปปิ้ง มาสก์ เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนเข้านอน

[1] กิฟฟารีน ไฮยา ทรีดี คอมเพล็กซ์ โลชั่น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันและผิวผสม หรือผู้ที่เผชิญสภาวะอากาศร้อนเป็นประจำ
[2] กิฟฟารีน ไฮยา ทรีดี คอมเพล็กซ์ ครีม เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง

เซรั่ม สูตรเข้มข้น ไฮยาลูรอน สารสกัดมะนาวคาเวียร์ และ ดอกซากุระ กิฟฟารีน ไฮยา อินเทนซีฟ ไวท์เทนนิ่ง พรี-ซีรั่ม (27 มล.)

ขั้นตอนแรก ของการบำรุงผิว เด้ง เนียน ใส ได้ทุกวัน

ผิวเด้ง เนียน ใส กว่าที่เคย จำหน่ายไปแล้วกว่า 2 ล้านขวด

ทุกหยดอุดมไปด้วย

  • ไฮยาลูรอนบริสุทธิ์จากธรรมชาติ จากเยอรมนี มอบความชุ่มชื้น ช่วยลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวตึงกระชับ และเรียบเนียน
  • ผสานด้วยสารสกัดจากดอกไม้ 3 ชนิด จากประเทศฝรั่งเศส ร่วมกับ Caviar Lime Extract สารสกัดมะนาวคาเวียร์ จากประเทศออสเตรเลีย ที่จัดเป็น Natural AHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้ดูสดใสและเปล่งปลั่งมากขึ้น
  • สารสกัดจากดอกซากุระ จากประเทศเกาหลี ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ให้ผิวแลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ปราศจากแอลกอฮอล์ ซิลิโคน สี สารกันเสียที่มีส่วนผสมของฟอร์มัลดีไฮด์ พาราเบน และเมทิลไอโซไทอะโซลิโนน
  • เหมาะสําหรับทุกสภาพผิว

*เพื่อการบำรุงผิวขั้นสุด! แนะนำให้ใช้ร่วมกับ กิฟฟารีน ไฮยา ซุปเปอร์ คอนเซนเทรท ซีรั่ม

คําถาม? ที่พบบ่อย

Q : ถ้าอายุน้อยกว่า 35 ปี ใช้ 2 ตัวได้มั้ย

A : สามารถใช้ได้ เพราะทั้ง 2 สูตรมีสารสําคัญที่แตกต่างกัน และมีจุดเด่นที่ช่วยบํารุงผิวให้สมบูรณ์แบบได้ทั้งคู่

  • โดย HYA Pre-Serum สูตรเดิม ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น และกระจ่างใส
  • ส่วน HYA Super Concentrate Serum สูตรใหม่ ได้เพิ่มปริมาณ Hyaluron และสารสําคัญตัวอื่นๆ ที่ช่วยดูแลผิวแบบเข้มข้นครบสูตร มากขึ้น
  • การใช้คู่กัน จึงช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ํา แข็งแรง ริ้วรอยแลดูจางลงพร้อมความกระจ่างใสไปในตัว

Q : ถ้าอายุมากกว่า 35 ปี ใช้แค่ตัวใดตัวหนึ่งได้มั้ย ?

A : คําตอบ

  • สามารถใช้ได้ แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้นในเวลาที่รวดเร็ว ควรใช้ร่วมกับ HYA Super Concentrate Serum เพราะจะได้ปริมาณ Hyaluron สูง และมีสารสําคัญบํารุงผิวตัวอื่นๆ ที่เข้มข้น
  • ถ้าอายุที่มากกว่า 35 ปี อยากแนะนําให้ใช้คู่กัน เพราะซีรั่มเนื้อหนักและเข้มข้น ควรรองพื้นด้วยซีรั่มสูตรบางเบาก่อน เพื่อเป็นการเปิดผิว พร้อมรับการบํารุง

Q : การใช้ HYA Pre-Serum คู่กับ HYA Super Concentrate Serum ช่วยให้ผิวดีขึ้นอย่างไร

A : คําตอบ

  • เมื่อใช้ HYA Pre-Serum ที่มีเนื้อบางเบา จะเป็นการเปิดผิว เพื่อรับการบํารุง และช่วยเติม Hyaluron ให้ซึมสู่ผิวได้อย่าง รวดเร็ว พร้อมผลัดเซลล์ผิวไปในตัว เพื่อผิวเด้ง เนียน ใส
  • และเมื่อใช้คู่กับ HYA Super Concentrate Serum ซีรั่มสูตร เข้มข้นที่มีสารสําคัญมากเป็นพิเศษ ก็จะช่วยส่งเสริมให้ สารสําคัญนั้นๆ ทําหน้าที่บํารุงผิวได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มความ ยืดหยุ่น ให้ผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น ฉ่ําน้ํา ริ้วรอยแลดูจางลง
เซรั่ม สูตรเข้มข้นพิเศษ ไฮยาลูรอน เบต้ากลูแคน วิตามินอี และวิตามินบี 3 กิฟฟารีน ไฮยา ซุปเปอร์ คอนเซนเทรท ซีรั่ม (29 มล.)

ที่สุดแห่งการบํารุง และปกป้องผิว จากสัญญานแห่งวัย

  • เติมน้ําให้ผิว ด้วย Natural Hyaluron 100% จากเยอรมนี และ Hyaluron 3D Complex จากเกาหลี ช่วยให้ผิวฉ่ําน้ํา เด้ง อิ่มฟูยิ่งกว่าเดิม
  • เสริมโครงสร้างผิว ด้วย Peptide Complex จากฝรั่งเศส ช่วยให้ผิวแข็งแรง ริ้วรอยแลดูจางลง
  • ล็อคความชุ่มชื้น ด้วย Ceramide Complex จากเยอรมนี ช่วยให้ผิวอิ่มน้ํายาวนาน
  • เสริมด้วย Beta Glucan ช่วยปลอบประโลมผิวจากการเผชิญแสงแดดและความร้อน
  • Vitamin E ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และ Vitamin B3 ช่วยลดเลือนจุดด่างดํา ให้ผิวแลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคืองอย่างแอลกอฮอล์ ซิลิโคน น้ําหอม มิเนอรัล ออยล์ และสารกันเสียอย่างกลุ่มพาราเบน, ฟอร์มัลดีไฮด์ และเมทิลไอโซไทอะโซลิโนน

*เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ควรใช้ร่วมกับ กิฟฟารีน ไฮยา อินเทนซีฟ ไวท์เทนนิ่ง พรี-ซีรั่ม

ขั้นตอนการใช้ร่วมกับ กิฟฟารีน ไฮยา อินเทนซีฟ ไวท์เทนนิ่ง พรี-ซีรั่ม

Step 1: กิฟฟารีน ไฮยา อินเทนซีฟ ไวท์เทนนิ่ง พรี-ซีรั่ม
เปิดการบำรุงผิวด้วย ไฮยา อินเทนซีฟ ไวท์เทนนิ่ง พรี-ซีรั่ม โดยใช้ครั้งละประมาณ 1 หลอดเป็นประจำทุกเช้าและก่อนนอน

Step 2: กิฟฟารีน ไฮยา ซุปเปอร์ คอนเซนเทรท ซีรั่ม
ใช้ครั้งละประมาณ 1 หลอดเป็นประจำทุกเช้าและก่อนนอนตามด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ

โลชั่นบำรุงผิว สำหรับผิวมันและผิวผสม ไฮยาลูรอน เปปไทด์ คอมเพล็กซ์ และวิตามินบี 3 กิฟฟารีน ไฮยา ทรีดี คอมเพล็กซ์ โลชั่น (40 มล.)

บำรุงลึกสู่ทุกชั้นผิว เนื้อบางเบา ซึมซับเร็ว

โลชั่นบำรุงผิวเนื้อบางเบา เหมาะสำหรับผิวมันและผิวผสม ให้ความชุ่มชื้นสูง ด้วยนวัตกรรม Hyaluron 3D Complex จากไฮยาลูรอนบริสุทธิ์จากธรรมชาติ 100% บำรุงลึกในทุกชั้นผิว ช่วยบำรุงผิวหน้าให้ตึงกระชับ เนียนนุ่ม เปล่งปลั่ง แลดูอ่อนเยาว์

* เหมาะสําหรับผู้ที่มีผิวมัน และผิวผสม

  • ไฮยาลูรอน (Hyaluron) โมเลกุล 3 สาย
  • เปปไทด์ คอมเพล็กซ์ (Peptide Complex) จากฝรั่งเศส
  • วิตามินบี 3
ครีมบำรุงผิวหน้า สำหรับผิวแห้ง ไฮยาลูรอน เปปไทด์ คอมเพล็กซ์ และวิตามินบี 3 กิฟฟารีน ไฮยา ทรีดี คอมเพล็กซ์ ครีม (45 กรัม)

ให้ความชุ่มชื้นสูง บำรุงผิวหน้าให้ตึงกระชับ เนียนนุ่ม เปล่งปลั่ง

ด้วยนวัตกรรม Hyaluron 3DComplex(ไฮยาลูรอนบริสุทธิ์จากธรรมชาติ)

ครีมบำรุงผิวหน้าสูตรเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้นสูง เหมาะสำหรับผิวแห้ง ด้วยนวัตกรรม Hyaluron 3D Complex จากไฮยาลูรอนบริสุทธิ์จากธรรมชาติ 100% บำรุงลึกในทุกชั้นผิว ช่วยบำรุงผิวหน้าให้ตึงกระชับ เนียนนุ่ม เปล่งปลั่ง แลดูอ่อนเยาว์

* เหมาะสําหรับผู้ที่มีผิวแห้ง

  • ไฮยาลูรอน (Hyaluron) โมเลกุล 3 สาย
  • เปปไทด์ คอมเพล็กซ์ (Peptide Complex) จากฝรั่งเศส
  • วิตามินบี 3
เจลบำรุงผิวหน้าก่อนนอน ไฮยาลูรอน เปปไทด์ คอมเพล็กซ์ สารสกัดจากผลมะกอก และ วิตามินบี 3 กิฟฟารีน ไฮยา บูสเตอร์ สลีปปิ้ง มาสก์ (45 กรัม)

ขั้นตอนสุดท้ายก่อนเข้านอน ล็อคความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย

ผลิตภัณฑ์บํารุงผิวหน้าสําหรับตอนกลางคืน เนื้อเจลสัมผัสนุ่ม ให้ความชุ่มชื้นสูง ต่อเนื่องยาวนาน ซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า ช่วยให้ผิวเรียบเนียน และเสริมสร้างความแข็งแรง ของผิว ด้วยนวัตกรรม Hyaluron 3D Complex (ไฮยาลูรอนบริสุทธิ์จากธรรมชาติ) เต็มเปี่ยมไปด้วย

  • ไฮยาลูรอน (Hyaluron) โมเลกุล 3 สาย
  • เปปไทด์ คอมเพล็กซ์ (Peptide Complex) จากฝรั่งเศส
  • สารสกัดจากผลมะกอก (Olive Extract) จากอิตาลี
  • วิตามินบี 3
โฟมล้างหน้า ไฮยาลูรอน สารสกัดจากวิชฮาเซล และ วิตามินบี 3 กิฟฟารีน ไฮยา ไฮเดรทติ้ง วิป โฟม (100 กรัม)

เพื่อผิวหน้าแลดูกระจ่างใส อ่อนวัยเหนือกาลเวลา

โฟมล้างหน้าไฮยากิฟฟารีน วิปโฟมล้างหน้าเนื้อฟองละเอียด นุ่มละมุนผิว อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองต่อผิวหน้า ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก ผิวสะอาดใส ชุ่มชื้น ฉ่ำน้ำ ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังล้างหน้า พร้อมสารสกัดอันทรงคุณค่าจากธรรมชาติ:

  • สารลดแรงตึงผิวจากธรรมชาติ (Natural Amino Surfactant 100%)
  • ไฮยาลูรอนบริสุทธิ์จากธรรมชาติ 100% 
  • สารสกัดจากวิชฮาเซล (Witch Hazel Extract)
  • วิตามินบี 3 
เซรั่ม บำรุงผิวรอบดวงตา คอลลาเจน สกัดจากหอยเป๋าฮื้อ ทับทิม และ โซเดียม ไฮยาลูโรเนต กิฟฟารีน อะบาโลน คอลลาเจน-ไฮยา อาย ซีรั่ม อินเทนซ์ ฟอร์มูล่า (15 มล.)

คืนความยืดหยุ่น และ ความตึงกระชับ สู่ผิว รอบดวงตา

ซีรั่มบำรุงผิวรอบดวงตาสูตรอ่อนโยน คืนความยืดหยุ่นและความตึงกระชับสู่ผิวรอบดวงตา ด้วยคุณประโยชน์ของสารสกัดจากหอยเป๋าฮื้อ ซึ่งอุดมไปด้วยคอลลาเจนโครงสร้างโมเลกุลครบ 3 สาย (Triple Helix) เช่นเดียวกับคอลลาเจนในชั้นผิวตามธรรมชาติ พร้อมเติมเต็มผิวด้วยโซเดียม ไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) ช่วยให้ผิวรอบดวงตาชุ่มชื่น เรียบเนียน ริ้วรอย-ร่องลึกตื้นขึ้น และมอบผิวกระจ่างใส ด้วยสารสกัดจากผลทับทิม

เซรั่ม บำรุงผิวหน้า คอลลาเจน สกัดจากหอยเป๋าฮื้อ ทับทิม และ โซเดียม ไฮยาลูโรเนต กิฟฟารีน อะบาโลน คอลลาเจน-ไฮยา เฟซ ซีรั่ม อินเทนซ์ ฟอร์มูล่า (30 มล.)

ช่วยฟื้นบํารุงผิว ที่หย่อนคล้อย ให้แลดูกระชับ และเรียบเนียน

ซีรั่มบำรุงผิวหน้าสูตรบางเบาที่อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว เนื้อซีรั่มบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่หย่อนคล้อยให้แลดูกระชับ และเรียบเนียน ริ้วรอยต่างๆ แลดูลดเลือนด้วยสารสกัดจากหอยเป๋าฮื้อที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนโครงสร้างโมเลกุลครบ 3 สาย และเติมเต็มความชุ่มชื่นของน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ ด้วยโซเดียม ไฮยาลูโรเนต ให้ผิวนุ่ม เปล่งปลั่ง พร้อมทั้งสารสกัดจากผลทับทิม ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์

เจลแต้มผิว ทาฝ้า ไฮยาลูรอน พีเคเค เปปไทด์ มะนาวคาเวียร์ และวิตามินบี 3 กิฟฟารีน ไฮยา เมลา–ไวท์ สปอต คอร์เรคเตอร์ เจล (15 มล.)

ลดเลือนจุดด่างดํา และรอยหมองคล้ำ อย่างมีประสิทธิภาพ

เจลแต้มผิว ทาฝ้า ลดเลือนจุดด่างดํา และรอยหมองคล้ําอย่างมีประสิทธิภาพ เผยผิวขาวกระจ่างใส เปล่งปลั่งได้ทุกวัน เนื้อเจลซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว เบาสบายผิว ไม่รบกวนการแต่งหน้า หรือการลงผลิตภัณฑ์บํารุงผิวตัวอื่น

เพื่อผลลัพธ์ที่มีสิทธิภาพยิ่งขึ้น ขอแนะนำชุดบำรุงผิวสำหรับผิวเป็นฝ้าและกันแดดสูตรปกป้องผิวเต็มประสิทธิภาพ:
1. ไฮยา อินเทนซีฟ ไวท์เทนนิ่ง พรี-ซีรั่ม (27 มล.)
2. ไฮยา เมลา–ไวท์ สปอต คอร์เรคเตอร์ เจล (30 กรัม)
3. เรสซานอล เจล (45 กรัม)
4. มัลติ โพรเทคทีฟ ซันสกรีน เอสพีเอฟ 50+ พีเอ++++ (50 มล.)

เจลอาบน้ำ ไฮยาลูรอน มอยซ์เจอร์ แมกเนท เชีย บัตเตอร์ วิตามิน อี และ วิตามิน บี3 กิฟฟารีน ไฮยา แอนตี้-เอจจิ้ง ชาวเวอร์ เจล กลิ่นฟอร์เอฟเวอร์ ยัง (250 มล.)

ช่วยบำรุงผิวเนียน นุ่ม ชุ่มชื้น น่าสัมผัส แลดูอ่อนกว่าวัย ทุกครั้งหลังอาบน้ำ

เจลอาบน้ํา สูตร Anti-Aging ทําความสะอาดผิว พร้อมมอบการบํารุงให้ผิวเนียน นุ่ม ชุ่มชื้น น่าสัมผัส

  • เข้มข้นด้วยสารบํารุงผิวสุดพิเศษ Natural Hyaluron 100% (Ecocert), Shea Butter, Vitamin E และ Moisture Magnet (Saccharide Isomerate)
  • ผสาน Vitamin B3 บํารุงผิวให้แลดูกระจ่างใส
  • เพิ่มเสน่ห์ตราตรึงชวนหลงใหล ด้วยกลิ่น Forever Young ให้ความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา ทุกครั้งหลังอาบน้ํา

ไม่มีส่วนผสมของสารที่อาจก่อการแพ้หรือระคายเคืองอย่าง สารกันเสียกลุ่มพาราเบน ฟอร์มัลดีไฮด์, เมทิลไอโซไทอะโซลิโนน, แอลกอฮอล์, เมนทอล และการบูร

โลชั่นบำรุงผิวกาย ไฮยาลูรอน เชีย บัตเตอร์ น้ำมันโจโจ้บา วิตามิน อี และ วิตามิน บี3 กิฟฟารีน ไฮยา แอนตี้-เอจจิ้ง บอดี้ โลชั่น กลิ่นฟอร์เอฟเวอร์ ยัง (250 มล.)

บํารุงผิวแห้งกร้าน ให้กลับมา เรียบเนียน นุ่มนวล น่าสัมผัส

โลชั่นบํารุงผิวกาย สูตร Anti-Aging เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างยาวนาน ถนอมผิวให้เปล่งปลั่ง ฟื้นบํารุงผิวแห้งกร้านให้กลับมาเรียบเนียน นุ่มนวล น่าสัมผัส

  • ด้วยคุณค่าสารบํารุงสุดพิเศษ Natural Hyaluron 100% (Ecocert), Natural Shea Butter 100%, Jojoba Oil, Vitamin E was Vitamin B3 ช่วยให้ผิวละเอียด แลดูผิวกระจ่างใส ให้ผลลัพธ์สุขภาพผิวดีอันน่าประทับใจ
  • เพิ่มเสน่ห์ตราตรึง ชวนหลงใหลด้วย กลิ่น Forever Young ให้ความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา

ไม่มีส่วนผสมของสารที่อาจก่อการแพ้หรือระคายเคืองอย่าง สารกันเสียกลุ่มพาราเบน, ฟอร์มัลดีไฮด์, เมทิลไอโซไทอะโซลิโนน, แอลกอฮอล์, เมนทอล และการบูร

กลับสู่สารบัญ

เอกสารอ้างอิง

  1. Brooks L. (2017, April 24). Where Does Hyaluronic Acid Come From?. Sciencing. https://sciencing.com/hyaluronic-acid-come-from-7169309.html
  2. Goa K, Benfield P. (1994). Hyaluronic acid. A review of its pharmacology and use as a surgical aid in ophthalmology, and its therapeutic potential in joint disease and wound healing. PubMed. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/7514978/#:~:text=Hyaluronic%20acid%20is%20a%20naturally,corneal%20endothelium%20is%20well%20established
  3. Hyaluronic Acid – Uses, Side Effects, And More. (n.d.) WebMD. https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-1062/hyaluronic-acid
  4. Hyaluronic Acid. (2022, May 4). Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/articles/22915-hyaluronic-acid
  5. Collagen, Glossary word, www.cermatology.co.uk/explanation.asp?Glossary WordID=334
  6. Jirum J., and Srihanam P. (2011). Oxidants and antioxidants: Sources and mechanism. Academic Journal of Kalasin Rajabhat University. 1(1): 59-70.
  7. นายแพทย์วิโรจ สินธวานนท์. (2556). ผิวหนัง อวัยวะมหัศจรรย์. (ออนไลน์), แหล่งที่มา :http://www.inderm.go.th/inderm_th/Health/health_00.html.9 wAU 2556
  8. Halliwell B. (2009). The wanderings of a free radical. Free Radical Biology and Medicine. 46: 531-542.

เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop

สิทธิพิเศษเมื่อสมัครสมาชิกกิฟฟารีนกับเรา

  • ค่าสมัครเพียง 180 บาท เป็นสมาชิกตลอดชีพ ไม่มีค่าต่ออายุรายปี
  • รับแคตตาล็อกสินค้าพร้อมบัตรสมาชิก และรับส่วนลดในการซื้อสินค้าราคาสมาชิก 25% ได้ทันที
  • รับเงินปันผล 10%-15%-25% คืนกลับมาจากการใช้สินค้าทุกเดือน และรับโบนัสพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
  • รับสิทธิ์แลกซื้อสินค้าราคาโปรโมชั่นพิเศษประจำเดือน และโปรโมชั่นของแถมประจำสัปดาห์ ได้ทุกเดือน
  • ประกันคุ้มครองชีวิตฟรี ในรหัสเดียวกัน สามี/ภรรยา วงเงินตั้งแต่ 120,000-320,000 บาท
  • สามารถเลือกได้ว่าต้องการเป็นผู้ใช้สินค้าเพียงอย่างเดียว หรือ ต้องการทำเป็นธุรกิจเพื่อสร้างรายได้
  • สร้างเครือข่ายได้รับลิขสิทธิ์ 4%-10% พร้อมส่งต่อเครือข่าย และรายได้ทั้งหมด เป็นมรดกให้ทายาท
  • เมื่อขึ้นตำแหน่งแล้วจะไม่มีการปรับหรือลดตำแหน่งในภายหลัง แม้ว่าจะไม่ได้รักษายอดในเดือนถัดไป
สำหรับท่านที่สมัครสมาชิกกิฟฟารีน กับ ทางเว็บไซต์ ของเรา
  • รหัส สมาชิก ของท่าน คือ คูปองส่วนลด 25% ในการ ซื้อ สินค้า กับทาง เว็บไซต์ ของเรา
  • เราจำกัดแค่ ต้องใช้คูปองกับ เว็บไชต์ ของเรา แต่ เราไม่ได้จำกัด ผู้ใช้ คุณ จะให้ใครใช้ก็ได้ โดย เราจัดส่งให้ ฟรี !
  • สำหรับ ท่าน ที่ต้องการต่อยอด ธุรกิจ ลองปรีกษาเรา เรายินดีที่จะให้คำปรึกษา แก่คุณ
  • ช่องทางสะดวกให้คำปรึกษา Fan Page Sirikul Shop
สมัครสมาชิก กิฟฟารีน
Shopping Cart