เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ แอสตาแซนธิน และสารที่มีประโยชน์ กับ ริ้วรอยบนผิวหนัง

แอสตาแซนธิน มันคืออะไร? และสารที่มีประโยชน์กับ ริ้วรอยบนผิวหนัง มีอะไรบ้าง? เราลองมาทำความรู้จักกับ แอสตาแซนธิน กันดีกว่าครับ ว่ามันมีประโยชน์ กับ สุขภาพผิวเรายังไง?

สารบัญ

ริ้วรอย บน ผิวหนัง คืออะไร?

“ริ้วรอย (Wrinkle)” เป็น ปรากฏการณ์การเสื่อมสภาพ ของ “ผิว” ที่เกิดขี้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะคุณสุภาพสตรี ก็ให้ความสําคัญเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจาก มีผลต่อความสวยงามบนใบหน้าโดยตรง อีกทั้งเป็นสิ่งที่ชี้บ่งถึงความล่วงเลยของวัย

ปัจจัยที่ทําให้เกิด ริ้วรอย มีอะไรบ้าง?
  1. “ปัจจัยภายใน” อาทิเช่น อายุที่เพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดการ เสื่อมไปตามธรรมชาติของ “เนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ผิวหนัง” ประเภท “คอลลาเจนและอีลาสติน” นําไปสู่การเกิด “ริ้วรอย” ชนิดถาวรขึ้น รวมไปถึงการทํางานของกล้ามเนื้อบริเวณ ใบหน้าที่ควบคุมการแสดงออกของสีหน้า เช่น การยิ้ม การขมวดคิ้ว ความเครียด เป็นต้นเหตุของริ้วรอยอันเกิดจากการแสดงอารมณ์
  2. “ปัจจัยภายนอก” คือ มลภาวะต่างๆ ได้แก่ รังสียูวี มลพิษ ทางอากาศ ฝุ่นควัน การสูบบุหรี่ ซึ่งก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ภายในผิวจนเซลล์ผิวเกิดการเสื่อมสภาพ ส่งผลให้เกิดริ้วรอย จุดด่างดํา และความหมองคล้ําของผิว
ประเภทของ ริ้วรอย มีอะไรบ้าง?
ริ้วรอยตื้น (Fine wrinkles)

มีลักษณะเป็น “เส้นบางๆ” ที่ “ผิว” มักเกิดบริเวณ “แก้ม” เป็นผลมาจากการที่ผิวแห้งและขาดความชุ่มชื้น เนื่องจากผิวถูกทําร้าย จากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแก่ผิว การชะล้างทําความสะอาดผิวที่รุนแรงเกินไป โดยเฉพาะการใช้ “น้ําอุ่นหรือน้ําร้อน” ล้างหน้า นอกจากนี้ มลภาวะจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ก็เป็น อีกปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดริ้วรอยได้เช่นกัน

ริ้วรอยร่องลึก (Deep wrinkles or skin folds)

“ริ้วรอยร่องลึก” มักเกิดจากความหย่อนคล้อยของโครงสร้าง “ผิว” ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นร่องลึกบริเวณมุมปีก “จมูก” โค้งมาที่ “มุมปาก” และอาจโค้งยาวลงมาถึงคางคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ “รอบปาก” นําไปสู่ความหย่อนคล้อยที่ปรากฏขึ้นที่ “แก้ม” ทั้ง 2 ข้าง

“ริ้วรอย” ประเภทนี้เป็นผลมาจากการลดลงของ “คอลลาเจน” ในผิว และการเปลี่ยนแปลงของ “อิลาสติน” ตามธรรมชาติจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น และยิ่งเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นจากปัจจัยกระตุ้น ต่างๆ เช่น รังสียูวีจากแสงแดด การสูบบุหรี่ และมลภาวะ ต่างๆ ก็ส่งผล ให้เกิดริ้วรอยได้มากยิ่งขึ้นเช่นกัน

“คอลลาเจน( Collagen)” มีหน้าที่เสมือน “โครงสร้างผิว” เจ้า “อีลาสติน (Elastin)” ก็ทํา หน้าที่ “ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิว” (อ้างอิงที่ 1)

เหตุใดอนุมูลอิสระจึงทําให้เกิดริ้วรอย

“อนุมูลอิสระ (free radical หรือ oxidant) (เป็นของเสีย หรือ สนิมของเซลล์)” คือ “โมเลกุล” ที่มี “อิเลคตรอนอิสระ” อยู่รอบนอกจัดเป็น “โมเลกุล” ที่ไม่มีความเสถียรและมีความว่องไวต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีในลักษณะที่เป็น “ปฏิกิริยาลูกโซ่” สามารถเข้าทําปฏิกิริยากับ “สารชีวโมเลกุล” ต่างๆ ที่อยู่รอบข้างได้ทันทีที่ถูกสร้างขึ้น

ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่องค์ประกอบ ต่างๆ ของ “เซลล์ภายในร่างกาย” เช่น การเปลี่ยนสภาพโปรตีน และไขมันของเยื่อหุ้มเซลล์ การทําลายโครงสร้างดีเอ็นเอ (DNA) ทําให้การทํางานของโปรตีนหรือเอนไซม์เหล่านั้นผิดปกติไป (อ้างอิงที่ 2)

ดังนั้นเมื่ออนุมูลอิสระไปทําลายโครงสร้างเซลล์ผิวที่มี โปรตีนและไขมันเป็นองค์ประกอบ (อ้างอิงที่ 3) จึงทําให้เป็นสาเหตุ บองการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร

“สารต้านอนุมูลอิสระ” คือ สารที่สามารถป้องกันหรือชะลอการ เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของอนุมูลอิสระได้ (อ้างอิงที่ 4) สารเหล่านี้ มีกลไกในการต้านอนุมูลอิสระหลายแบบ เช่น ดักจับอนุมูลอิสระ โดยตรง ยับยั้งการสร้างอนุมูลอิสระ หรือเข้าจับกับโลหะเพื่อป้องกัน การสร้างอนุมูลอิสระ

โดยทั่วไปสารต้านอนุมูลอิสระสามารถพบได้ ในธรรมชาติจากสาร หลายชนิด เช่น ผัก ผลไม้ สาหร่าย เป็นต้น

แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) คือ อะไร?

“แอสตาแซนธิน (Astaxanthin)” เป็นสารกลุ่ม “แคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ชนิดหนึ่งในกลุ่ม “แซนโทฟิลล์” สามารถพบได้ในแหล่งธรรมชาติ ใน สภาพแวดล้อมทะเลไปจนถึงแอ่งหินทั่วไป รวมทั้งพบในเปลือกกุ้ง เปลือกปู และปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ (อ้างอิงที่ 5)

ซึ่งมีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยป้องกันการเกิด “ออกซิเดชั่น” ป้องกันการเสื่อมสภาพผิวจากแสงแดด และช่วยลด การอักเสบ (อ้างอิงที่ 6)

นอกจากนี้สามารถพบ แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ได้ ในสาหร่ายพันธุ์ ฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส (Haematococcus pluvialis) ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่ง ที่มี แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) มากที่สุดในธรรมชาติ (อ้างอิงที่ 7) และไม่ต่างกับ แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ที่อยู่ในปลาแซลมอนและสัตว์ทะเลอื่นๆ (อ้างอิงที่ 5)

สาหร่ายพันธุ์ ฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส (Haematococcus pluvialis) สาหร่ายขนาดเล็กที่เป็น เซลล์ต้นกําเนิดของห่วงโซ่อาหาร ที่สามารถพบได้ในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย เช่น ประเทศสวีเดน เป็นหนึ่งในกลุ่มของสารอาหารที่กําลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ในต่างประเทศ มีงานวิจัยจากหลายประเทศในโลกระบุตรงกันว่า มีส่วนช่วย ปกป้องร่างกายและผิวพรรณให้คงความอ่อนเยาว์ได้นานยิ่งขึ้น

คําอธิบายจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ สาหร่ายพันธุ์ ฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส (Haematococcus pluvialis) ระบุว่า เมื่อ สาหร่ายชนิดนี้ อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ขาดอาหารและน้ํา เผชิญกับแสงแดด ความร้อนหรือความหนาวเย็นที่มากเกินปกติ มันจะปรับกลไกการทํางานของเซลล์ให้ผลิตสารสีแดงซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่มีชื่อว่า

แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ขึ้นมาเก็บสะสมไว้ใช้เป็นเสมือนเกราะที่ทําหน้าที่ปกป้องนิวเคลียสของเซลล์จากภาวะขาดน้ําและอาหารที่เกิดขึ้น ทําให้มันสามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ แม้จะอยู่ในสภาวะขาดน้ําและอาหารนานถึงกว่า 20 ปี

“แอสตาแซนธิน (Astaxanthin)” มีความสามารถในการ “ต้านอนุมูลอิสระ” สูงที่สุดใน สารกลุ่มแคโรทีนอยด์ด้วยกัน มีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถปรับตัวเองอยู่ได้ทั้งส่วนที่เป็น “ไฮโดรฟิลิก (ชั้นน้ํา)” และ “ไฮโดรโฟบิก (ชั้นไขมัน)” ได้ทั้ง 2 ส่วน

ต่างกับ “เบต้าแคโรทีน (Beta Carotene)” ที่จะอยู่ได้เฉพาะส่วนที่เป็น ชั้นไขมัน และ “วิตามินซี (Vitamin C)” จะอยู่ได้เฉพาะส่วนที่เป็นชั้นน้ํา (อ้างอิงที่ 8) จึงมี คุณสมบัติที่เหนือกว่าในการป้องกันผนังเซลล์ซึ่งมีทั้งชั้นน้ําและไขมัน (Lipid bilayer) จากปฏิกิริยาเปอร์ออกซิเดชั่น

การศึกษาวิจัยและทดลอง แอสตาแซนธิน (Astaxanthin)

งานวิจัยทางคลีนิคศีกษาผลด้านสุขภาพผิวของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบของ “แอสตาแซนธิน (Astaxanthin)” ในกลุ่ม “อาสาสมัครผู้หญิงชาวอเมริกันวัยกลางคน” ที่สุขภาพดี พบว่า หลังจาก สัปดาห์ที่ 6 อาสาสมัครกลุ่มที่ได้รับแอสตาแซนธินวันละ 4 มก. (2 x 2 มก.) มีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ ริ้วรอยลด เลื่อนลง ความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น เมื่อเทียบ กับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (placebo) (อ้างอิงที่ 9)

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยกับกลุ่ม “อาสาสมัครผู้หญิง” จํานวน 30 คน อายุเฉลี่ย 20-55 ปี โดยให้อาสาสมัครรับแอสตาแซนธินจาก tococcus pluvialis 6 มก. ต่อวันควบคู่กับการใช้ครีมจากแอสตา- แซนธิน 2 มก. (สารละลาย 78.9 ไมโครโมล) หลังจากสัปดาห์ที่ 8 พบว่าริ้วรอยเหี่ยวย่นลดลง จุดด่างดําจากแสงแดดลดลง ความยืดหยุ่น ของผิวดีขึ้น มีความชุ่มชื้นดีขึ้นทั้งในผิวชั้นหนังกําพร้าและหนังแท้ เมื่อ มีการรับประทานร่วมกับการใช้ครีมบํารุงที่มีแอสตาแซนธิน (อ้างอิงที่ 5)

อีกงานวิจัยเชิงทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (Randomized double-blind placebo controlled study) ทดลองในกลุ่มผู้ขายใน ประเทศญี่ปุ่นจํานวน 36 คน อายุระหว่าง 20 – 55 ปี แบ่งอาสามัคร เป็น 2 กลุ่มเท่าๆ กัน

คือกลุ่มที่ได้รับแอสตาแซนจาก Haemato- coccus pluvialis 6 มก. จํานวน 18 คน และกลุ่มหนึ่งที่ได้รับยา หลอก (placebo) จํานวน 18 คน หลังจากสัปดาห์ที่ 6 พบว่า กลุ่มที่รับประทานแอสตาแซนธินมีสุขภาพผิวโดยรวมดีขึ้น ดังนั้น การ รับประทานแอสตาแซนธินจึงช่วยทําให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย (อ้างอิงที่ 5)

นอกจากนี้ เนื่องจากแอสตาแซนขึ้นเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มี คุณภาพสูง ยังมีงานวิจัยของแอสตาแซนธินที่มีคุณประโยชน์ในด้าน อื่นๆ อีก เช่น เรื่องสายตา และการลดระดับไขมันในเลือดในผู้ที่มี นํ้าหนักเกิน เป็นต้น

การศึกษาวิจัยและทดลอง ทางด้านผลต่อสายตาและการมองเห็น

มีงานวิจัยของประเทศอิตาลี เป็นการทดลองแบบมีกลุ่มควบคุม โดยวัดความสามารถในการมองเห็น (visual acuity (VA), contrastsensitivity (CS) and National Eye Institute visual function ques-tionnaire (NEI VFQ-25) scores)

ของอาสาสมัครกลุ่มทดลองที่ รับประทานแอสตาแซนธิน 4 มก. ร่วมกับลูทีน 10 มก. ซีแซนทีน 1 มก.ต่อวัน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่รับประทาน ติดตามผลเป็นเวลา สองปี พบว่า อาสาสมัครมีความสามารถในการมองเห็นดีขึ้นกว่ากลุ่ม ที่ไม่รับประทานอย่างมีนัยสําคัญ (อ้างอิงที่ 10)

การศึกษาวิจัยและทดลอง ทางด้านไขมันในเลือด

งานวิจัยของประเทศเกาหลี ท่าการทดลองแบบมีกลุ่มควบคุมในผู้ที่น้ําหนักเกิน โดยผู้รับการวิจัยและผู้รับการรักษาไม่ทราบว่ารับประทานแอสตาแซนธินหรือยาหลอก (Randomized, double-blind, placebocontrolled study) พบว่า การรับประทานแอสตาแซนธิน มีผลดีต่อระดับไขมันในเลือด โดยลดแอล ดี แอล โคเลสเตอรอล(LDL Cholesterol) ได้อย่างมีนัยสําคัญ และมีฤทธิ์ในการต้าน อนุมูลอิสระได้จริงในผู้ที่มี น้ําหนักเกิน (อ้างอิงที่ 11)

กําจัดออกซิเจนเดี่ยว (Singlet Oxygen) ยับยั้งการออกซิเดชั่น ของไขมัน (Lipid Peroxidation)

มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงมาก
  • สูงกว่าวิตามินซี 6,000 เท่า
  • สูงกว่าวิตามินอี 1,000 เท่า
  • สูงกว่าโคเอนไซม์คิวเทน 800 เท่า
  • สูงกว่าสารสกัดจากชาเขียว 560 เท่า
  • สูงกว่าอัลฟาไลโปอิก 75 เท่า

(อ้างอิงที่ 12)

ช่วยลดน้ําหนัก

ช่วยลดน้ําหนัก โดยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน สามารถลดไขมันได้ถึง 34% ใน 60 วัน (อ้างอิงที่ 13)

บํารุงผิวพรรณ

ช่วยบํารุงผิวพรรณ ให้ สวย สดใส อ่อนวัยจากภายใน เพิ่มความ ชุ่มชื้น เพิ่มความเนียนนุ่ม เพิ่มความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย จากงานวิจัยพบว่าอาสาสมัครที่รับประทานแอสตาแซนธินมีผิวพรรณที่ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นความชุ่มชื้น ความเนียนนุ่ม ความยืด หยุ่นดีขึ้น และริ้วรอยจางลง หลังรับประทาน 6 สัปดาห์ งานวิจัย อีกฉบับยังพบว่าแอสตาแซนธิน มีประสิทธิภาพในการลดเลือน ริ้วรอยให้แคบลงและตื้นขึ้น ในเวลา 8 สัปดาห์อีกด้วย (อ้างอิงที่ 14)

ลดการสร้างเม็ดสี

ลดการสร้างเม็ดสี ทําให้ผิวขาวผุดผ่องขึ้น ลดเลือนรอยด่างดํา (อ้างอิงที่ 15)

ป้องกันการตีบตันของหลอดเลือด

ป้องกันการตีบตันของหลอดเลือด โดยป้องกันการทําลาย ผนังหลอดเลือดจากอนุมูลอิสระและป้องกัน LDL จากการจู่โจม
ของอนุมูลอิสระ (อ้างอิงที่ 16)

ลดความดันโลหิต

ลดความดันโลหิต โดยขยายหลอดเลือด และเพิ่มความยืดหยุ่น ให้ผนังหลอดเลือด (อ้างอิงที่ 17)

ลดระดับน้ําตาลในเลือดในคนไข้เบาหวาน

ลดระดับน้ําตาลในเลือดในคนไข้เบาหวาน และป้องกันภาวะแทรก ซ้อนของโรคเบาหวาน โดยพบว่าปริมาณโปรตีนที่สูญเสียออกมาใน ปัสสาวะของคนไข้เบาหวาน กลับเป็นปกติเมื่อได้รับแอสตาแซนธิน (อ้างอิงที่ 18)

ป้องกันมะเร็ง ยับยั้งการเติบโต

ป้องกันมะเร็ง ยับยั้งการเติบโต และแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง (อ้างอิงที่ 19)

เพิ่มความฟิตให้ร่างกาย
  • เพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อ
  • เร่งการเผาผลาญไขมัน
  • เพิ่มความรู้สึกกระฉับกระเฉง แข็งแกร่งขึ้น สดชื่น มีชีวิตชีวา
  • ลดอาการปวด เมื่อยล้าของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย
  • กล้ามเนื้อ และกล้ามเนื้อหัวใจฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังการออกกําลังกาย และการทํางานหนัก

(อ้างอิงที่ 20)

ปกป้องกล้ามเนื้อทั่วไป

ปกป้องกล้ามเนื้อทั่วไป และกล้ามเนื้อหัวใจไม่ให้อักเสบ และถูกทําลายขณะใช้งานหนักอย่างต่อเนื่อง (อ้างอิงที่ 21)

ลดอาการเมื่อย และอ่อนล้าของกล้ามเนื้อตา

ลดอาการเมื่อย และอ่อนล้าของกล้ามเนื้อตา ได้ถึง 54% ซึ่งเป็นสาเหตุของการปวดและชาที่ศีรษะ คอ หลัง ไหล่ แขน มือ ลําตัว ตาแห้ง เคืองตา ปวดตา เมื่อยตา (อ้างอิงที่ 22)

ปกป้องเยื่อบุกระเพาะอาหาร

ปกป้องเยื่อบุกระเพาะอาหาร ป้องกันการอักเสบและการเกิดแผลในกระเพาะอาหารป้องกัน และลดอาการของภาวะกรดไหลย้อน ป้องกันมะเร็ง ในกระเพาะอาหาร ควบคุมเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ (Helicobacter Pylori) โดยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกายในการกําจัดเชื้อโรคนี้ (อ้างอิงที่ 23)

ประโยชน์ของ แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  1. ลดเลือนริ้วรอย และจุดด่างดํา
  2. ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้นขึ้น
  3. ลดอาการอ่อนล้า ของดวงตา และอาการเมื่อยล้า ของกล้ามเนื้อ
  4. ต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งและทําลาย เซลล์มะเร็งลําไส้
  5. เพิ่มการไหลเวียน ของเลือด
  6. บํารุงสมอง และลดการเกิด อัลไซเมอร์
ประโยชน์ของ แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ในผลิตภัณฑ์เสริมความงาม
  1. ช่วย ความอ่อนเยาว์ และสดใส
  2. ช่วย ปกป้องเซลล์จากการทําลาย ของอนุมูลอิสระ ในรังสียูวี
  3. สารต้านอนุมูลอิสระเข้มข้น ช่วยชะลอการเสื่อม และฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ
โรค หรือ ภาวะที่จะแนะนำ ในการใช้ แอสตาแซนธิน
  • โรคภูมิแพ้ หอบหืด ผิวหนัง คันจมูกจาม แพ้อาหาร โรครูมาตอยด์
  • มะเร็งปอด
  • มะเร็งรังไข่
  • มะเร็งสมอง
  • มะเร็งลําไส้
  • มะเร็งเม็ดโลหิตขาว
  • มะเร็งต่อมน้ําเหลือง
  • โรคหวัด
  • โรคมือเท้าปากเปื่อย
  • โรคเอดส์

สารที่มีประโยชน์ กับ ริ้วรอยบนผิวหนัง มีอะไรบ้าง?

วิตามินซี (Vitamin C)

“วิตามิน ซี (Vitamin C)” เป็น “สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)” ที่ดี มีส่วนช่วยในการสร้าง เนื้อเยื่อ “คอลลาเจน (Collagen)” จึงช่วยลดการเกิดริ้วรอยและช่วยป้องกันอันตรายจากรังสียูวีจากแสงแดด นอกจากนี้ยังสามารถลดภาวะการเกิดผิวหมองคล้ําได้อย่างนัยสําคัญ จึงเป็นส่วนสําคัญที่ช่วยให้ผิวพรรณแลดูกระจ่างใส และมีสุขภาพดี (อ้างอิงที่ 24,25)

ประโยชน์ของ วิตามินซี ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

มีบทบาทในระบบ “ปฏิกิริยาไฮดร๊อกซิเลชั่น (Hydroxylation)” ของ “โพรลีน (Proline)” เพื่อสร้าง “คอลลาเจน (Collagen)” ซึ่งเป็นองค์ประกอบของกระดูก กระดูกอ่อน ฟัน และผนังเส้นเลือด ช่วยเพิ่มการดูดซึมของเหล็ก ถ้าขาดจะมีเลือดออกตามไรฟัน อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เหงือกบวม ฟันหลุดง่าย

  1. มีส่วนช่วยในการทําหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
  2. มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ
  3. มีช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง
  4. มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทํางานตามปกติของผิวหนัง
ประโยชน์ของ วิตามินซี ในผลิตภัณฑ์เสริมความงาม

นอกจาก “วิตามิน ซี (Vitamin C)” จะช่วยเรื่องสุขภาพและภูมิคุ้มกันของเราแล้ว ยังช่วยเรื่องผิวพรรณอีกด้วยไม่ว่าจะจากการรับประทานหรือจากการที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆนำไปผสมจนเป็นสารบำรุงผิวสามารถใช้ภายนอกได้

  1. ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส วิตามินซีเองเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มี่อนุภาคเป็นกรด และมีฤทธิฺในการยั้งยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน จึงสามารถช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิวและบำรุงผิวให้กระจ่างใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ และปลอดภัยเมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสมอีกด้วย
  2. ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจน วิตามินซียังช่วยในการสร้างและฟื้นฟูคอลลาเจนที่อยู่ในชั้นผิว ทำให้ผิวมีความตึงขึ้นข่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
  3. เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ตัววิตามินซีเอง เมื่อนำมาเป็นสารบำรุงหน้าแล้ว มีสรระคุณในการควบคุมความมันและเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ในผิว ทำให้หน้าไม่แห้งและมีความฉ่ำมากขึ้น
  4. กระชับรูขุมขน หน้าเรียบเนียน นอกจากจะช่วยในเรื่องฟื้นฟูคอลลาเจนแล้ว ด้วยคุณสมบัติในการควบคุมความมันของใบหน้า ทำให้ลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันในชั้นผิวหนัง ทำให้รูขุมขนที่กว้างเพราะผลิตน้ำมันมาก ดูเล็กลงจนใบหน้าดูเรียบเนียนผิวกระชับ
  5. ช่วยลดรอยดำและรอยแดง จากคุณสมบัติของวิตามินซีที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ จึงช่วยเรื่องผลัดเซลล์ผิว จึงทำให้บริเวณที่มีรอยดำ หรือรอยแดงจากสิว จางลงเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ให้สีผิวเรียบเนียนเท่ากันมากขึ้น
โรค หรือ ภาวะที่จะแนะนำ ในการใช้ วิตามินซี
  • เหมาะกับบุคคลทั่วไป
  • ผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียเป็นประจํา

การทํางานร่วมกันของ “แอสตาแซนธินและวิตามินซี” จึงให้คุณสมบัติการเป็น “สารต้านอนุมูลอิสระ” ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก จะส่งผลดีต่อสุขภาพผิวพรรณ โดยสามารถลดการเกิดริ้วรอย ลดจุด ด่างดํา เพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิว ลดการ เสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ทําให้ผิวพรรณดูมีสุขภาพดี อ่อนวัย และกระจ่างใส แม้ตัวเลขของอายุจะเพิ่มขึ้นก็ตาม

วิตามิน อี (Vitamin E)

“วิตามิน อี (Vitamin E)” เป็น “สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)” ป้องกันการแตกสลายของเยื่อหุ้มเซลล์ ทําให้เม็ดเลือดแดง ไม่แตกง่าย และจําเป็นต่อการเจริญและพัฒนาต่อเซลล์ประสาท

“วิตามิน อี (Vitamin E)” เป็น “สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)” ซึ่งจะไป “ทำให้เป็นกลาง (Neutralized)” ของการเกิด “อนุมูลอิสระ (Free radicals)” ดังนั้น “วิตามิน อี (Vitamin E)” เป็น สิ่งสำคัญในการดูแลรักษาผิว

มีการศึกษาวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า “วิตามิน อี (Vitamin E)” ช่วยลด “โรคสะเก็ดเงินเกิดผื่นแดง (Psoriasis erythema)” และช่วยลดการเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนัง ช่วยรักษาแผลเป็น และช่วยลดริ้วรอยบนผิว

และจากการศึกษาพบว่า ผิวหนังในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น ใบหน้า จะมีปริมาณของ “วิตามิน อี (Vitamin E)” มากกว่าบริเวณแขนถึง 20 เท่า เนื่องจากต่อมไขมัน เป็นช่องทางที่สำคัญ ในการหลั่ง “วิตามิน อี (Vitamin E)” ออกสู่ผิวหนัง

ประโยชน์ของ วิตามิน อี (Vitamin E)

ประโยชน์ของการใช้ ผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของ วิตามิน อี ในการป้องกันและรักษาผิวพรรณ

  1. ช่วยลดอัตราการทำลายของแสงแดด ที่ทำให้เกิดรอยแดง
  2. ลดอัตราการเกิดมะเร็งผิวหนังจากแสงแดด
  3. ช่วยชลอความชราภาพของผิว ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น แตกลาย
  4. การให้ความชุ่มชื้นและ ลดความหยาบกร้านของผิวพรรณ

จะเห็นได้ว่า “วิตามิน อี (Vitamin E)” มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันผิวและช่วยบำรุงรักษาผิวและช่วยป้องกันอันตรายที่เกิด จากรังสีอุลตร้าไวโอเล็ตได้อีกด้วย

โคเอนไซม์คิวเทน คือ อะไร?

“โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)” หรือ “CoQ10” เป็นสารชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นได้เอง โดยพบในทุกเซลล์ของร่างกาย แต่พบมากในอวัยวะที่ต้องใช้พลังงานมาก เช่น หัวใจ ปอด ไต และตับ สารตัวนี้มีหน้าที่สำคัญในการสร้างพลังงานให้แก่เซลล์ และยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอหรือป้องกันความเสียหายที่เกิดกับเซลล์ภายในร่างกาย

แม้ว่าร่างกายของคนเราจะสร้าง “โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)” ได้เอง แต่ระดับ “โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)” ในร่างกายจะลดลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงในคนที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคหัวใจหรือคนที่รับประทานยาลดไขมันกลุ่มสแตตินด้วย นอกจากนี้ “โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)” ยังพบได้จากอาหารจำพวกสัตว์เนื้อแดง ปลา และถั่ว รวมถึงอาหารเสริมด้วย

Q10 คือ อะไร?

“Q10 หรือ Coenzyme Q10 (Ubiquinone Coenzyme Q-10)” หรือที่รู้จักกันในทางการแพทย์อีกชื่อหนึ่งว่า ” CoQ10″ คือสารที่มีคุณสมบัติคล้าย “วิตามิน (vitamin)” ซึ่งร่างกายสามารถผลิตเองได้ในปริมาณหนึ่ง มีฤทธิ์ช่วยขนส่งอิเล็กตรอนและช่วยในกระบวนการผลิตพลังงานของเซลล์ในร่างกาย และกระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยสารชนิดนี้มักพบได้มากในอวัยวะที่ต้องใช้พลังงานมาก เช่น หัวใจ ไต ตับ และตับอ่อน เป็นต้น

นอกจากนี้ “Q10” อาจมีผลช่วยในการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น ปวดศีรษะไมเกรน ลดความดันโลหิต ป้องกันภาวะหัวใจขาดเลือดซ้ำ ชะลอการเกิดอาการของโรคพาร์กินสัน ช่วยในการรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจ ปัญหาระบบประสาทของโรคเบาหวาน โรคกล้ามเนื้อเสื่อม และโรคจอประสาทเสื่อม และยังนำมาใช้ช่วยเพิ่มสมรรถภาพในนักกีฬาอีกด้วย

ประโยชน์ ของ โคเอนไซม์คิวเทน
  1. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจขาด เลือดหรือภาวะหัวใจล้มเหลว จากเลือดคั่ง ช่วยในการทํา งานของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ
  2. มีบทบาทสําคัญในการท่าลาย สารอนุมูลอิสระ และป้องกัน การเสื่อมสภาพของเซลล์ ต่างๆ ในร่างกาย
  3. ลดความถี่ในการปวดหัว ไมเกรนในผู้ป่วยที่มีระดับ โคเอนไซม์ คิวเทน ในเลือดต่ํา
  4. อาจมีประโยชน์ในผู้ป่วย ธาลัสซีเมียรุนแรง
  5. อาจมีประโยชน์ในโรคทางสมอง เช่น โรคสมองเสื่อม ในผู้สูงอายุ และโรคความจําเสื่อม (อัลไซเมอร์)
โรค หรือ ภาวะที่จะแนะนำ ในการใช้ โคเอนไซม์คิวเทน
  • โรคหัวใจ
  • เบาหวาน
  • ปวดหัวไมเกรน
  • ธาลัสซีเมีย
  • โรคสมองเสื่อม และความจําเสื่อม
  • หอบหืด
ข้อห้าม ข้อควรระวัง ในการใช้ โคเอนไซม์คิวเทน

ห้ามรับประทาน ในผู้ที่รับประทานยา ต้านการแข็งตัวของเลือด ยาละลายลิ่มเลือด หรือยาต้านเกล็ดเลือด หรือผู้ที่เกล็ดเลือดต่ํา หรือมีเลือดออกง่าย ตามที่ต่างๆ หรือมีประวัติเส้นเลือดแตกในสมอง และผู้ป่วย โรคหัวใจที่ได้รับการทําบายพาส และบอลลูน หรือรับประทานยาต้านเกล็ดเลือดดังกล่าว

หมายเหตุ

“โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)” เป็นสารที่พบในร่างกาย ตามธรรมชาติ ร่างกายต้องใช้ “โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)” ในการเจริญเติบโต ของเชลล์ รวมถึงปกป้องเซลล์จากการถูกทําลาย อันเป็นสาเหตุนําาไปสู่การ เป็นโรคมะเร็ง (อ้างอิงที่ 26)

ประโยชน์ ของ แกมมา-ออริซานอล

สารแกมมา-ออริซานอล (Gamma-Oryzanol) จาก น้ำมันจมูกข้าว เป็น สารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพจากข้าว ชะลอความเสื่อม ช่วยให้ผิวสวย สุขภาพดี ป้องกันโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ

สารแกมมา-ออริซานอล (Gamma-Oryzanol) เป็น สารในกลุ่ม วิตามิน อี (Vitamin E) ช่นกัน แต่คุณสมบัติโดดเด่นเหนือกว่า วิตามิน อี (Vitamin E) ใดๆ สารนี้มีอยู่เฉพาะใน “รำข้าว” เท่านั้น

  1. มีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
  2. มีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
  3. มีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
  4. มีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพผิวและผม
  5. มีส่วนช่วยปกป้องตับ
  6. มีส่วนช่วยลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย
  7. มีส่วนช่วยลดอาการวัยทอง
  8. มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของนักกีฬา
  9. มีส่วนช่วยลดอาการผิวหนังอักเสบ
  10. มีส่วนช่วยลดความดันโลหิต 

สารแกมมา-ออริซานอล (Gamma-Oryzanol) ได้รับการรับรองจาก อย. เรียบร้อยแล้ว

ประโยชน์ ของ วิตามินอี ธรรมชาติ 4 รูปแบบ มีอะไรบ้าง?

วิตามินอี ธรรมชาติ 4 รูปแบบ จากน้ํามันจมูกข้าวสาลี ได้แก่

  1. แอลฟา โทโคเฟอรอล
  2. เบต้า โทโคเฟอรอล
  3. แกมมา โทโคเฟอรอล
  4. เดลต้า โทโคเฟอรอล

ซึ่งวิตามินอี ทั้ง 4 รูปแบบนี้ สามารถป้องกัน โรคมะเร็ง, โรคหัวใจ, อัมพฤกษ์, อัมพาต และช่วยให้ผิวสวย ดูอ่อนกว่าวัย

ประโยชน์ ของ แอลฟา โทโคเฟอริล

วิตามินอีจากธรรมชาติ ในรูปแบบของ แอลฟา โทโคเฟอริล เป็น สารต้านอนุมูลอิสระที่มีการศึกษามากที่สุด ช่วยชะลอความเสื่อม ป้องกันโรคร้ายต่างๆ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถนํา แคโรทีนอยด์ที่หมดฤทธิ์ไปแล้ว ให้กลับมามีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระได้อีก (อ้างอิงที่ 27)

ประโยชน์ ของ แคโรทีนอยด์ จากธรรมชาติ 4 ชนิด มีอะไรบ้าง?

แคโรทีนอยด์ จากธรรมชาติ 4 ชนิด ได้แก่

  1. แอลฟาแคโรทีน
  2. เบต้าแคโรทีน
  3. แกมมาแคโรทีน
  4. ไลโคปีน

สารมหัศจรรย์จากผักผลไม้หลายสี ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยให้ผิวสุขภาพดี ป้องกันโรคมะเร็ง หัวใจ และโรคเรื้อรังต่างๆ

ก็จบกันไป กับเรื่องของ แอสตาแซนธิน ก็ได้เวลาแนะนำ อาหารเสริม แอสตาแซนธิน จาก กิฟฟารีน

ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร แอสตาแซนธิน จาก กิฟฟารีน มีอะไรบ้าง

สินค้า กิฟฟารีน แอสตาแซนธิน ทั้งหมด

อาหารเสริม น้ำมันจมูกข้าว น้ำมันจมูกข้าวสาลี โคเอนไซม์คิวเท็น แอสตาแซนทิน มิกซ์แคโรทีนอยด์ และวิตามินอี กิฟฟารีน แอสตา คิว พลัส แคโรทีนอยด์ (30 แคปซูล)

แอสตาแซนธิน ราชินีแห่งสารต้านอนุมูลอิสระ

กิฟฟารีน แอสตา คิว พลัส แคโรทีนอยด์ อาหารเสริม แอสตาแซนธิน สกัดจากสาหร่ายสีแดงฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส ราชินีแห่งสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ให้ปริมาณแอสตาแซนธิน 2 มิลลิกรัม ผสานคุณค่าจากน้ำมันจมูกข้าว, น้ำมันจมูกข้าวสาลี, แคโรทีนอยด์, โคเอนไซม์คิวเท็น และวิตามินอี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

อาหารเสริม แอสตาแซนธิน กิฟฟารีน แอสตา คิว พลัส แคโรทีนอยด์ เหมาะกับ

  • ผู้ที่ใส่ใจในสุขภาพทุกเพศทุกวัย
  • ผู้ที่ใส่ใจในความงามและสุขภาพผิว
  • ผู้ที่ต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆเป็นประจำ เช่น รังสียูวีจากแสงแดด มลพิษทางอากาศ ฝุ่นควัน การสูบบุหรี่ เป็นต้น
  • ผู้ที่ต้องทำงานใช้สายตากับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
  • นักกีฬาและผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ

แอสตาแซนธิน (Astaxanthin)

แอสตาแซนธิน เป็นสารสีแดงในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ที่ได้มาจากธรรมชาติ มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ป้องกันผิวเสื่อมสภาพจากแสงแดด ช่วยลดการอักเสบ และเป็นสารที่ร่างกายสามารถดูดซึมนำมาใช้ได้ง่าย

คุณสมบัติ มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงมาก

  • สูงกว่าวิตามินซี 6,000 เท่า
  • สูงกว่าวิตามินอี ถึง 1,000 เท่า
  • สูงกว่าโคเอนไซม์คิวเท็น 800 เท่า
  • สูงกว่าสารกัดจากชาเขียว 560 เท่า
  • สูงกว่าอัลฟาไลโปอิก 75 เท่า

สรรพคุณ ของ แอสตาแซนธิน

  • ช่วยลดน้ำหนัก โดยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน สามารถลดไขมันได้ถึง 34% ใน 60 วัน
  • บำรุงผิวพรรณ ลดเลือนริ้วรอยเพิ่มความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นให้แก่ผิว
  • ลดการสร้างเม็ดสี ทำให้ผิวขาวผุดผ่องขึ้น ลดเลือนรอยด่างดำ
  • ป้องกันการตีบตันของหลอดเลือด โดยป้องกันการทำลายผนังหลอดเลือดจากอนุมูลอิสระและป้องกัน LDL จากการจู่โจมของอนุมูลอิสระ
  • ลดความดันโลหิต โดยขยายหลอดเลือด และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผนังหลอดเลือด
  • ลดระดับน้ำตาลในเลือดในคนไข้เบาหวาน และป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน โดยพบว่าปริมาณโปรตีนที่สูญเสียออกมาในปัสสาวะของคนไข้เบาหวาน กลับเป็นปกติเมื่อได้รับแอสตาแซนธิน
  • ป้องกันมะเร็ง ยับยั้งการเติบโต และแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
  • ปกป้องกล้ามเนื้อทั่วไป และกล้ามเนื้อหัวใจไม่ให้อักเสบและถูกทำลายขณะใช้งานหนักอย่างต่อเนื่อง
  • ลดอาการเมื่อย และอ่อนล้าของกล้ามเนื้อตา ได้ถึง 54% ซึ่งเป็นสาเหตุของการปวดและชาที่ศีรษะ คอ หลัง ไหล่ แขน มือ ลำตัว ตาแห้ง เคืองตา ปวดตา เมื่อยตา
  • ปกป้องเยื่อบุกระเพาะอาหาร ป้องกันการอักเสบและการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ป้องกันและลดอาการของภาวะกรดไหลย้อน ป้องกันมะเร็งในกระเพาะอาหาร ควบคุมเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ (Helicobacter Pylori) โดยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกายในการกำจัดเชื้อโรคนี้
  • เพิ่มความฟิตให้ร่างกาย

เพิ่มความฟิตให้ร่างกาย โดยที่

  1. เพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อ
  2. เร่งการเผาผลาญไขมัน
  3. เพิ่มความรู้สึกกระฉับกระเฉง แข็งแกร่งขึ้น สดชื่น มีชีวิตชีวา
  4. ลดอาการปวด เมื่อยล้าของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย
  5. กล้ามเนื้อ และกล้ามเนื้อหัวใจฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังการออกกำลังกาย และการทำงานหนัก

โคเอนไซม์ คิวเทน (Coenzyme Q10)

พบได้ในทุกเซลล์ของร่างกาย และมีความจำเป็นต่อร่างกาย มีอยู่หนาแน่นที่สุดในเซลล์เนื้อเยื่อที่ทำงานหนักและต้องการพลังงานสูง เช่น หัวใจ สมอง ตับ ไต ทำหน้าที่ในการผลิตพลังงานพื้นฐานของเซลล์ และสามารถทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ ละลายได้ดีในไขมัน เช่น น้ำมันจมูกข้าว

แกมมา โอริซานอล จากน้ำมันจมูกข้าว (Gamma Oryzanol)

เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยให้ผิวสวยสุขภาพดี ป้องกันโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ

วิตามินอี ธรรมชาติ 4 รูปแบบ จากน้ำมันจมูกข้าวสาลี

ได้แก่ แอลฟา โทโคเฟอรอล, เบต้า โทโคเฟอรอล, แกมมา โทโคเฟอรอล และ เดลต้า โทโคเฟอรอล ซึ่งวิตามินอีทั้ง รูปแบบนี้ สามารถป้องกัน โรคมะเร็ง, โรคหัวใจ, อัมพฤกษ์, อัมพาต และช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยให้ผิวสวย ดูอ่อนกว่าวัย

แคโรทีนอยด์ จากธรรมชาติ 4 ชนิด (Carotenoid)

ได้แก่ แอลฟาแคโรทีน, เบต้าแคโรทีน, แกมมาแคโรทีน และไลโคปีน เป็นสารที่ได้จากผักและผลไม้หลากสี ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยให้ผิวสุขภาพดี ป้องกันโรคมะเร็ง หัวใจ และโรคเรื้อรังต่างๆ

กิฟฟารีน แอสตา คิว พลัส แคโรทีนอยด์ (30 แคปซูล)

ส่วนประกอบสำคัญใน 1 แคปซูล (1,754 มิลลิกรัม) ประกอบด้วย:
น้ำมันจมูกข้าว (ให้แกมมาออริซานอล 11.24 มก.) 1,000.40 มก.
น้ำมันจมูกข้าวสาลี 200 มก.
สารสกัดจากสาหร่ายฮีมาโตคอคคัส พลูวิเอลิส (ให้แอสตาแซนทิน 2 มก.) 40 มก.
โค เอนไซม์ คิวเท็น 30 มก.
มิกซ์แคโรทีนอยด์ (เบต้าแคโรทีน, แอลฟาแคโรทีน, ลูทีน, คริปโตแซนทีน และซีแซนทีน) 16 มก.
ดี-แอลฟา-โทโคเฟอริล แอซีเทต คอนเซ็นเทรท (ให้วิตามินอี 10 มก.) 13.60 มก.
วิธีรับประทาน: ครั้งละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร

หมายเหตุ: ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่สามารถใช้ในการรักษาโรคได้ แต่สามารถเพิ่มโอกาสในการดูแลสุขภาพได้

อาหารเสริม แอสตาแซนธิน ผสม วิตามินซี กิฟฟารีน แอสตาแซนธิน (30 แคปซูล)

กิฟฟารีน แอสตาแซนธิน 2 มก. ผสมวิตามินซี (30 แคปซูล)

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล:
สารสกัดสาหร่ายฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส (ให้แอสตาแซนธิน 2 มก.) 40 มก.
กรดแอสคอร์บิก (ให้วิตามินซี 30 มก.) 30 มก.
วิธีรับประทาน: วันละ 1-2 แคปซูล หลังอาหาร
อาหารเสริม แอสตาแซนธิน ผสม วิตามินซี กิฟฟารีน แอสตา-แมกซ์ (30 แคปซูล)

กิฟฟารีน แอสตา-แมกซ์ แอสตาแซนธิน 6 มก. ผสมวิตามินซี (30 แคปซูล)

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล:
สารสกัดสาหร่ายฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส (ให้แอสตาแซนธิน 6 มก.) 240 มก.
กรดแอสคอร์บิก (ให้วิตามินซี 30 มก.) 30 มก.
วิธีรับประทาน: วันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร
เครื่องดื่ม คอลลาเจน ผสม น้ำทับทิม แอสตาแซนธิน และ วิตามินซี สำหรับคุณผู้หญิง กิฟฟารีน คอลลาเจน เอส โอ พี 100+ (50 มล. X 6 ขวด)

เติมความสวยได้ทุกวัน ด้วย เครื่องดื่ม คอลลาเจนผสมทับทิม ผสมแอสตาแซนธิน และวิตามินซี

คอลลาเจนผสมน้ำทับทิมเข้มข้น เอสโอพี 100+ อัดแน่นด้วยคอลลาเจนเปปไทด์ และแซลมอนคอลลาเจนเปปไทด์ถึง 5,000 มก. พร้อมด้วยคุณค่าของน้ำทับทิมเข้มข้น แอสตาแซนธิน และวิตามินซี ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของคอลลาเจนใต้ผิวหนัง รสชาติอร่อย ทานง่าย ไม่เติมน้ำตาล ใช้ซูคราโลสเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ให้พลังงาน 30 กิโลแคลอรี่/ขวด ดูแลผิวและสุขภาพได้ทุกวันเพียงวันละ 2 ขวด ทุกเช้าและก่อนนอน

ประโยชน์ดีๆเพื่อผิวพรรณจากคอลลาเจน:

  • ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ความชุ่มชื้นให้ผิว และลดความหยาบกร้านให้ผิว
  • ช่วยให้ผิวแข็งแรง ผิวฟู เนียนใส
  • ช่วยทำให้ริ้วรอยที่เห็นได้ชัดดูจางลง
  • ลดการเปราะแตกของเล็บ

คอลลาเจนเปปไทด์ คืออะไรทำไมถึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน:

  • สกัดโดยเทคโนโลยีขั้นสูงจากประเทศญี่ปุ่น
  • เป็นคอลลาเจน ไดเปปไทด์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กพร้อมดูดซึมได้ทันทีโดยไม่ถูกทำลายโครงสร้างโดยน้ำย่อย
  • ร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เร็วและดีกว่าคอลลาเจนในรูปแบบอื่นๆ
  • เป็นคอลลาเจนเปปไทด์ที่มีการคัดเลือกเอาเฉพาะโมเลกุลที่จำเพาะ และมีความเหมาะสมต่อการนำไปสร้างคอลลาเจนและกรดไฮยาลูโรนิคในชั้นผิวได้ดีที่สุด

คอลลาเจน SOP 100+ คืออะไร

  • สกัดจากเยื่อหุ้มรังไข่ปลาแซลมอนจากประเทศญี่ปุ่น
  • เหนือกว่าคอลลาเจนทั่วไป เพราะมีส่วนกระตุ้นฮอร์โมนแห่งความอ่นอเยาว์ หรือ โกรท ฮอร์โมน
  • ให้อะมิโนแอซิดที่หลากหลายกว่า 20 ชนิด ซึ่งให้มากกว่าคอลลาเจนทั่วไปในท้องตลาด
  • อุดมด้วยคอลลาเจนที่เป็นองค์ประกอบของผิวและข้อ

สุดยอดผลิตภัณฑ์แห่งความอ่อนเยาว์ แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง ซีรี่ย์

สุดยอดผลิตภัณฑ์แห่งความอ่อนเยาว์ แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง ซีรี่ย์

จากพลังแห่งสารต้านอนุมูลอิสระอันทรงประสิทธิภาพเพื่อความเยาว์วัยของผิวพรรณ ที่ได้รับการยอมรับจากวารสาร
ทางวิชาการระดับนานาชาติ สู่การรังสรรค์เป็นชุดผลิตภัณฑ์บํารุงผิว

แอสตาแซนธิน เอจ – ดีไฟอิ้ง ซีรี่ย์ เพื่อการต่อต้านริ้วรอย และความร่วงโรย

ย้อนคืนความอ่อนวัยให้ผิว ด้วยคุณค่าจากแอสตาแซนธิน สารสีแดงจากสาหร่ายฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส (Haematococcus pluvialis) ที่ช่วยบํารุงและฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ําลึก

  1. เซรั่ม บำรุงผิวกลางวันและกลางคืน ผสม แอสตาแซนธิน คอลลาเจน และ โซเดียมไฮยาลูโรเนต กิฟฟารีน แอสตาแซนธิน อินเทนซีฟ ซีรั่ม (20 กรัม)
  2. ครีมบำรุงผิว สูตรกลางคืน ผสม แอสตาแซนธิน คอลลาเจน และ โซเดียมไฮยาลูโรเนต กิฟฟารีน แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง เฟเชียล ครีม (50 กรัม)
  3. ครีมบำรุง และ ลดริ้วรอยผิว บริเวณลำคอ แอสตาแซนธิน คอลลาเจน โซเดียมไฮยาลูโรเนต และ เชียร์บัตเตอร์ กิฟฟารีน แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง เนค ครีม (75 กรัม)
  4. โลชั่นบำรุงผิวกาย ผสม แอสตาแซนธิน น้ำมันธรรมชาติ และ มอยเจอร์ไรเซอร์จากธรรมชาติ กิฟฟารีน แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง บอดี้ โลชั่น (250 มล.)
  5. ครีม บำรุงมือและเล็บ ผสม แอสตาแซนธิน คอลลาเจน โซเดียมไฮยาลูโรเนต น้ำมันเบาบับ และ โปรตีนเคราติน กิฟฟารีน แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง แฮนด์ แอนด์ เนล (40 กรัม)
เซรั่ม บำรุงผิวกลางวันและกลางคืน ผสม แอสตาแซนธิน คอลลาเจน และ โซเดียมไฮยาลูโรเนต กิฟฟารีน แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง อินเทนซีฟ ซีรั่ม (20 กรัม)

ซีรั่มบำรุงผิวสูตรเข้มข้น ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวในทุกมิติ

ซีรั่มสูตรพิเศษ เนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว เต็มเปี่ยมด้วยส่วนผสมจาก แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ที่สกัดจากสาหร่ายสีแดงเข้มข้นถึง 1.5 เท่า จึงมีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผสานด้วยคุณค่าจาก คอลลาเจนสกัดจากปลา (Fish Collagen) และ โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) ช่วยเติมความชุ่มชื้นและกระชับผิวให้แลดูอ่อนกว่าวัย พร้อมทั้งป้องกันผิวเสื่อมสภาพจากแสงแดด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าและกังวลเรื่องริ้วรอยเป็นพิเศษ

  • ช่วยลดเลือนริ้วรอย ทั้งริ้วรอยตื้นและร่องลึก
  • ความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิวดีขึ้น
  • จุดด่างดำจากอายุและแสงแดดจางลง

เพื่อผลลัพธ์ที่ดียึ่งขี้น แนะนำควรใช้ร่วมกับ

  1. แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง อินเทนซีฟ ซีรั่ม บำรุงผิวกลางวันและกลางคืน (20 กรัม)
  2. แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง เฟเชียล ครีม บำรุงผิวกลางคืน (50 กรัม)
  3. แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง เนค ครีม บำรุงผิวคอ (75 กรัม)
ครีมบำรุงผิว สูตรกลางคืน ผสม แอสตาแซนธิน คอลลาเจน และ โซเดียมไฮยาลูโรเนต กิฟฟารีน แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง เฟเชียล ครีม (50 กรัม)

ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับกลางคืน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดแห่งการลดเลือนริ้วรอย

ครีมบำรุงผิวหน้าสูตรเข้มข้นพิเศษสำหรับกลางคืน เนื้อครีมเข้มข้น ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก เพื่อการดูแลและป้องกันริ้วรอยโดยเฉพาะ

  • มีส่วนผสมของ แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว
  • พร้อมด้วย คอลลาเจนสกัดจากปลา (Fish Collagen) และ โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ลดเลือนริ้วรอย ทั้งริ้วรอยตื้นและร่องลึก เพื่อผลลัพธ์ของผิวอ่อนเยาว์ ตึงกระชับ เนียนนุ่มกว่าที่เคย

เพื่อผลลัพธ์ที่ดียึ่งขี้น แนะนำควรใช้ร่วมกับ

  1. แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง อินเทนซีฟ ซีรั่ม บำรุงผิวกลางวันและกลางคืน (20 กรัม)
  2. แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง เฟเชียล ครีม บำรุงผิวกลางคืน (50 กรัม)
  3. แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง เนค ครีม บำรุงผิวคอ (75 กรัม)
ครีมบำรุง และ ลดริ้วรอยผิว บริเวณลำคอ แอสตาแซนธิน คอลลาเจน โซเดียมไฮยาลูโรเนต และ เชียร์บัตเตอร์ กิฟฟารีน แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง เนค ครีม (75 กรัม)

เรื่องผิวลำคอ อย่ารอ ให้เสียเวลา

ครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้นพิเศษ สำหรับบำรุงผิวบริเวณลำคอที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ มีส่วนผสมของ แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ที่ช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย คอลลาเจนสกัดจากปลา (Fish Collagen) และ โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) พร้อมด้วย เชียร์บัตเตอร์ (Shea Butter)  จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ลดเลือนริ้วรอยตื้นและริ้วรอยร่องลึก ช่วยให้ผิวบริเวณลำคอได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ เพื่อผิวคอที่กระชับ ไม่หย่อนคล้อย

เพื่อผลลัพธ์ที่ดียึ่งขี้น แนะนำควรใช้ร่วมกับ

  1. แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง อินเทนซีฟ ซีรั่ม บำรุงผิวกลางวันและกลางคืน (20 กรัม)
  2. แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง เฟเชียล ครีม บำรุงผิวกลางคืน (50 กรัม)
  3. แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง เนค ครีม บำรุงผิวคอ (75 กรัม)
โลชั่นบำรุงผิวกาย ผสม แอสตาแซนธิน น้ำมันธรรมชาติ และ มอยเจอร์ไรเซอร์จากธรรมชาติ กิฟฟารีน แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง บอดี้ โลชั่น (250 มล.)

ให้ผิวชุ่มชื่น กระชับ แลดูอ่อนกว่าวัย

โลชั่นถนอมผิวกายเพื่อลดเลือนริ้วรอย สูตรเข้มข้นพิเศษ ซึมซาบเร็ว แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีส่วนผสมของ แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ที่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ผสานคุณค่าจาก คอลลาเจนสกัดจากปลา (Fish Collagen) และ โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) จึงช่วยเติมความชุ่มชื้นและกระชับผิวให้แลดูอ่อนกว่าวัย พร้อมส่วนผสมจาก Natural Oil & Natural Moisturizer ช่วยบำรุงและถนอมผิวให้เนียนนุ่ม น่าสัมผัส

ครีม บำรุงมือและเล็บ ผสม แอสตาแซนธิน คอลลาเจน โซเดียมไฮยาลูโรเนต น้ำมันเบาบับ และ โปรตีนเคราติน กิฟฟารีน แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง แฮนด์ แอนด์ เนล (40 กรัม)

ลดเลือนริ้วรอยที่มือ และช่วยบำรุงเล็บ

ครีมถนอมมือและเล็บสูตรเข้มข้นเพื่อลดเลือนริ้วรอย ด้วยส่วนผสม Astaxanthinที่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยและช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่น ไม่แห้งแตกและหยาบกร้าน ผสานคุณค่าจาก Fish Collagenและ Sodium Hyaluronateจึงช่วยเติมความชุ่มชื้นและกระชับผิวให้แลดูอ่อนกว่าวัย พร้อม Hydrolyzed Keratinที่ช่วยบำรุงให้เล็บแข็งแรง ไม่ฉีกหักหรือเปราะง่าย

กลับสู่สารบัญ

เอกสารอ้างอิง

  1. Collagen, Glossary word, www.cermatology.co.uk/explanation.asp?Glossary WordID=334
  2. Jirum J., and Srihanam P. (2011). Oxidants and antioxidants: Sources and mechanism. Academic Journal of Kalasin Rajabhat University. 1(1): 59-70.
  3. นายแพทย์วิโรจ สินธวานนท์. (2556). ผิวหนัง อวัยวะมหัศจรรย์. (ออนไลน์), แหล่งที่มา :http://www.inderm.go.th/inderm_th/Health/health_00.html.9 wAU 2556
  4. Halliwell B. (2009). The wanderings of a free radical. Free Radical Biology and Medicine. 46: 531-542.
  5. Tominaga K., Hongo N., Karato M., and Yamashita E. (2012). Cosmetic benefits of astaxanthin on humans subjects. Acta Biochimica Polonica, 59(1): 43-47.
  6. Guerin M., Huntley M.E., and Olaizola M. (2003). Haematococcus astaxanthin:applications for human health and nutrition. Trends in Biotechnology. 21(5): 210-216
  7. Hussein G., Sankawa U., Goto H., Matsumoto., and Watanabe H. (2006). Astaxanthin, a carotenoid with potential in human health and nutrition. Journal of Natural Products. 69(3): 443-449.
  8. Nishida Y., Yamashita E., and Miki W. (2007). Quenching Activities of CommonHydrophilic and Lipophilic Antioxidants agints Singlet Oxygen Using Chemiluminescence Detection System.Carotenoid Science. 11: 16-20.
  9. Yamashita E. (2006). The Effect of a Dietary Supplement Containing Astaxanthin on Skin Condition. Carotenoid Science. 10: 91-95.
  10. Piermarocchi S., Saviano S., Parisi V., Tedeschi M., Panozzo G., Scarpa G., Boschi G., and Lo Gludice G. (2012). Carotenoids in Age-related Maculopathy Italian Study (CARMIS): two-year results of a randomized study. European Journal of Ophthalmology. 22(2): 216-225.
  11. Choi H.D., Youn Y.K., and Shin W.G. (2011). Positive effects of astaxanthin on lipid profiles and oxidative stress in overweight subjects. Plant Foods for Human Nutrition. 66(4): 363-369.
  12. Nishida et al, 2007. Carotenoids Science USFDA Database for the Oxygen Radical Absorbance Capacity (ORAC) of Selected Foods, 2010 Release 2.
  13. Ikeuchi et al., 2007 Biosci. Biotechnol. Biochem 71: 60521-7 Aoi et al. 2008 Biochem Biophys Res. Commun. 366: 892-897
  14. Yamashita E. 2006 Carotenoid Science, 10: 91-95 Tominaga et al., 2009 J.European Academy of Dermatology and Venerelogy 12: 103-114
  15. Yamashita E. 2002 Food Style 21 (6): 112-117
  16. Pashkow FJ. 2008 Am. J. Cardio 101: 580-680
  17. J. Clin. Biochem Nutr. 2009, 44(3):280-284
  18. Manabe et al. 2008 J. Cell Biochem. 103: 1925-1937
  19. Nakao et al. 2010 Anticancer Research, 30(6): 217-5
  20. Tian Y et al. 2010 J Appl Physiol, 110: 971-976 Finaud J. 2006 Lac G Sport Med. 36(4) 327-358
  21. Aoi W et al. 2003 Antioxidants and Redox Signalling. 5(1): 139-144
  22. Iwasaki and Tawara. 2006 J. of Eye. 6: 829-834 Nagaki et al. 2002
  23. Wang et al. 2000 Anti Microb Agents Chemother. 44(9): 252-7 Bennedsemetet al. 1999 Immunol Lett. 70(3): 185-9
  24. ประกาศสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาเรื่อง การแสดงข้อความกล่าวอ้างเกี่ยวกับหน้าที่ ของสารอาหาร คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข
  25. Yang B.W., Lin Y.M., Wang S.Y., Yeh D.C. (2012). The study of absorption efficiency and restoring effects of collagen and ascorbic acid on aged skin by fluorescence and reflection spectroscopy. Guang Pu Xue Yu Guang Pu Fen Xi. Dec:32(12): 3299-303.
  26. Mukai et al. 1992 J. Bio Chem. 257 (31): 22277-81
  27. Halla K. 1999 University of Helsinki 81

เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop

สิทธิพิเศษเมื่อสมัครสมาชิกกิฟฟารีนกับเรา

  • ค่าสมัครเพียง 180 บาท เป็นสมาชิกตลอดชีพ ไม่มีค่าต่ออายุรายปี
  • รับแคตตาล็อกสินค้าพร้อมบัตรสมาชิก และรับส่วนลดในการซื้อสินค้าราคาสมาชิก 25% ได้ทันที
  • รับเงินปันผล 10%-15%-25% คืนกลับมาจากการใช้สินค้าทุกเดือน และรับโบนัสพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
  • รับสิทธิ์แลกซื้อสินค้าราคาโปรโมชั่นพิเศษประจำเดือน และโปรโมชั่นของแถมประจำสัปดาห์ ได้ทุกเดือน
  • ประกันคุ้มครองชีวิตฟรี ในรหัสเดียวกัน สามี/ภรรยา วงเงินตั้งแต่ 120,000-320,000 บาท
  • สามารถเลือกได้ว่าต้องการเป็นผู้ใช้สินค้าเพียงอย่างเดียว หรือ ต้องการทำเป็นธุรกิจเพื่อสร้างรายได้
  • สร้างเครือข่ายได้รับลิขสิทธิ์ 4%-10% พร้อมส่งต่อเครือข่าย และรายได้ทั้งหมด เป็นมรดกให้ทายาท
  • เมื่อขึ้นตำแหน่งแล้วจะไม่มีการปรับหรือลดตำแหน่งในภายหลัง แม้ว่าจะไม่ได้รักษายอดในเดือนถัดไป
สำหรับท่านที่สมัครสมาชิกกิฟฟารีน กับ ทางเว็บไซต์ ของเรา
  • รหัส สมาชิก ของท่าน คือ คูปองส่วนลด 25% ในการ ซื้อ สินค้า กับทาง เว็บไซต์ ของเรา
  • เราจำกัดแค่ ต้องใช้คูปองกับ เว็บไชต์ ของเรา แต่ เราไม่ได้จำกัด ผู้ใช้ คุณ จะให้ใครใช้ก็ได้ โดย เราจัดส่งให้ ฟรี !
  • สำหรับ ท่าน ที่ต้องการต่อยอด ธุรกิจ ลองปรีกษาเรา เรายินดีที่จะให้คำปรึกษา แก่คุณ
  • ช่องทางสะดวกให้คำปรึกษา Fan Page Sirikul Shop
สมัครสมาชิก กิฟฟารีน
Shopping Cart
Scroll to Top