, ,

อาหารเสริม แคลเซียม ผสม แมกนีเซียม สังกะสี ทองแดง วิตามินซี วิตามินอี และ วิตามิน ดี 3 ชนิดเม็ด กิฟฟารีน แคล-ดี-แมก (60 เม็ด)

248฿

เสริมแคลเซียม ด้วย แคล-ดี-แมก ตัวช่วยที่ดี สำหรับ กระดูกและฟัน

อาหารเสริม แคลเซียม กิฟฟารีน แคล-ดี-แมก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แคลเซียม ช่วย บำรุงกระดูกและฟัน เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟัน ผสม แมกนีเซียม (Magnesium), สังกะสี (Zinc), ทองแดง (Copper), วิตามินซี (Vitamin C), วิตามินอี (Vitamin E) และ วิตามิน ดี 3 (Vitamin D 3) ช่วย เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมของแคลเซียมให้ดียิ่งขึ้น

  • แคล-ดี-แมก แคลเซียม 400 มก. (60 เม็ด) เพียงวันละ 1 เม็ด เทียบเท่ากับนม 2 แก้ว
  • นมสด 1 แก้ว (200 มล.) มีปริมาณแคลเซียม 236 มก.

Availability: มีสินค้าอยู่ 20

อาหารเสริม แคลเซียม ผสม แมกนีเซียม สังกะสี ทองแดง วิตามินซี วิตามินอี และ วิตามิน ดี 3 ชนิดเม็ด กิฟฟารีน แคล-ดี-แมก (60 เม็ด)

Giffarine Cal-D-Mag : Calcium Supplement Mixed with Magnesium Zinc Copper Vitamin C Vitamin E and Vitamin D 3 Tablet Types (60 tablets)

เสริมแคลเซียม ด้วย แคล-ดี-แมก ตัวช่วยที่ดี สำหรับ กระดูกและฟัน

อาหารเสริม แคลเซียม กิฟฟารีน แคล-ดี-แมก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แคลเซียม ช่วย บำรุงกระดูกและฟัน เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟัน ผสม แมกนีเซียม (Magnesium), สังกะสี (Zinc), ทองแดง (Copper), วิตามินซี (Vitamin C), วิตามินอี (Vitamin E) และ วิตามิน ดี 3 (Vitamin D 3) ช่วย เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมของแคลเซียมให้ดียิ่งขึ้น

  • แมกนีเซียม (Magnesium) ในร่างกายส่วนมาก (60-70%) จะพบในกระดูก แมกนีเซียมจำเป็นสำหรับการเติบโตของกระดูก การส่งสัญญาณทางประสาท และการหดตัวของกล้ามเนื้อ การได้รับ แมกนีเซียมในขนาดที่พอเหมาะ จะช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
  • สังกะสี (Zinc) จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต การเจริญเติบโตของระบบสืบพันธุ์ สำคัญในการสร้างกระดูกตามปกติ และช่วยในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
  • ทองแดง (Copper) มีความสำคัญในระบบโครงสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพันร่วมกับวิตามินซี ในการสร้าง อีลาสติน จำเป็นสำหรับการเผาผลาญโปรตีน และการสร้างสีของ ผิวหนัง และ สีผม
  • วิตามินซี (Vitamin C) เป็น วิตามินที่มีกลไกในการต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และยังช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือด ให้แข็งแรง ช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุ เสริมสร้างเซลล์ให้แข็งแรง
  • วิตามินอี (Vitamin E) เป็น สารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้เซลล์เสื่อมสภาพ จำเป็นต่อการเจริญและพัฒนาของเซลล์ประสาท
  • วิตามิน ดี 3 (Vitamin D 3) เสริมประสิทธิภาพในการดูดซึมแคลเซี่ยมให้ดีขึ้น

แคลเซียม (Calcium) คือ อะไร?

แคลเซียม (Calcium) เป็น “ธาตุ” ที่มีมากที่สุดของร่างกาย เป็น “โครงสร้างหลักของกระดูกและฟัน” ช่วยในการเจริญเติบโต ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ไม่บางหรือแตกหักง่าย เป็นสารอาหารจำเป็นที่คนไทยจำนวนมากขาดแคลน จึงทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา

แคลเซียมเสริมสุขภาพ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับ กระดูกและฟัน อีกทั้งป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน

ประโยชน์ของ แคลเซียม
  1. เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันความผิดปกติของกระดูกและฟัน เช่น กระดูกหักง่าย หลักโก่งงอ กระดูกเรียงผิดรูป หรือฟันหักง่าย
  2. ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน ช่วยสร้างเนื้อกระดูกให้มีความหนาแน่นมากขึ้น
  3. ลดอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ
  4. ช่วยให้การเจริญเติบโตในด้าน ความสูงและความแข็งแรง ของเด็กในวัยเจริญเติบโต

ใครบ้าง ที่ต้องการแคลเซียม

  1. ผู้ที่ต้องการบํารุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันกระดูกพรุน
  2. เด็กวัยเจริญเติบโต (Growth Spurt)
  3. หญิงตั้งครรภ์ เพื่อให้เพียงพอ ต่อการสร้างกระดูกของลูกในครรภ์
  4. หญิงวัยหมดประจําเดือน
  5. ผู้สูงอายุ ที่พบกระดูกพรุน และข้อเสื่อม

คำถาม ที่มักพบบ่อย ของ แคลเซียม จาก กิฟฟารีน ?

 

Q: แคลเซียมแต่ละชนิด ทำมาจากอะไร ?

  1. Calcium carbonate (แคลเซียม คาร์บอเนต)
    เป็น แคลเซียมที่พบมากตามธรรมชาติ ซึ่งจะอยู่ในรูปของหินปูน โดยจะแตกตัวให้แคลเซียม มากที่สุดถึง 40%
  2. Calcium citrate (แคลเซียม ซิเตรท)
    เป็น แคลเซียม ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ซื่งเกิดจากการรวมตัวกันระหว่าง Calcium carbonate + กรดcitrate โดยจะแตกตัวให้แคลเซียม 21%
  3. Calcium lactate (แคลเซียม แลคเตท)
    เป็น แคลเซียม ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ซื่งเกิดจากการรวมตัวกันระหว่าง Calcium carbonate + กรด lactate โดยจะแตกตัวให้แคลเซียม 13%
  4. Calcium gluconate (แคลเซียม กลูโคเนต)
    เป็น แคลเซียม ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ซื่งเกิดจากการรวมตัวกันระหว่าง Calcium carbonate + กรด gluconate โดยจะแตกตัวให้แคลเซียม 9%

 

Q: แคลเซียมแต่ละชนิด แตกต่างกันอย่างไร ?

A: มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของการแตกตัว และ การดูดซึม ดังนี้

แคลเซียม คาร์บอเนต แคลเซียม ซิเตรท
ปริมาณการรับประทานที่เท่ากัน 1,000 มก. 1,000 มก.
การแตกตัวให้ Calcium 400 มก. 211 มก.
% การดูดซึมของแคลเซียม 31.2% 39.2%
ปริมาณของแคลเซียมที่ร่างกายดูดซึมได้จริง 124.8 มก. 82.7
ราคา ราคาถูกกว่า ราคาแพงกว่าต้องรับประทานมากกว่า จึงจะได้แคลเซียมเท่ากับที่ได้รับจาก แคลเซียม คาร์บอเนต

 

Q: ชนิดของ แคลเซียม ในท้องตลาด ?

A: ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในท้องตลาด จะแตกต่างกันที่ ชนิด และ ปริมาณ ของแคลเซียม ดังนี้

ผลิตภัณฑ์ ชนิดของแคลเซียมที่ใช้ ปริมาณแคลเซียมที่ใส่ต่อ 1 เม็ด (มก.) ปริมาณแคลเซียมที่ได้ (มก.)
A ไตร แคลเซียม ซิเตรท 1,000 211
B แคลเซียม คาร์บอเนต 1,750 700
C แคลเซียม คาร์บอเนต 1,500 600
D แคลเซียม คาร์บอเนต 1,000 400
ซึ่ง โดยปกติแล้ว ร่างกายของเรา สามารถ ดูดซึมแคลเซียม ได้ครั้งละไม่เกิน 500มก. เราจีงควรเลือก ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม ต่อการดูดซึมของร่างกายเรานั่นเอง

Q: แคลเซียมของกิฟฟารีน ทำมาจากแคลเซียมชนิดใด ?

A: แคลเซียมของกิฟฟารีน มีทั้งชนิดเม็ดและน้ำ ซื่งทั้ง 2 ชนิด ใช้แคลเซียม คาร์บอเนต ซึ่งเป็นรูปแบบที่แตกตัว ให้แคลเซียมสูงที่สุด และมีราคาไม่แพง

  • แคลเซียมในรูปแบบเม็ด แนะนำให้ทานพร้อมอาหารเพื่อให้ประสิทธิภาพในการดูดซึมดียิ่งขี้น
  • แคลเซียมในรูปแบบน้ำ แคลเซียมในรูปแบบน้ำนี้ เป็นแคลเซียมที่มาจากสาหร่ายสีแดง ประเทศไอช์แลนด์ ซี่งมีงานวิจัยว่าแตกตัวได้ดีมาก ให้แคลเซียมสูง และดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย

ดังนั้น ในการเลือกทานแคลเซียมจึงต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า ในด้านของราคา และเน้นย้ำซึ้งวิธีการทาน เช่น แนะนำให้ทานพร้อมมื้ออาหาร เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั่นเอง

 

Q: ในแต่ละวัน ควรทานแคลเซียม วันละเท่าไหร ?

A: ในแต่ละช่วงวัยร่างกายต้องการแคลเซียมที่แตกต่างกัน ดังนี้

ช่วงอายุ ปริมาณแคลเซียมที่ต้องการในแต่ละวัน (มิลลิกรัม) ปริมาณนมที่ควรดื่มเพื่อให่ได้แคลเซียมตามที่ต้องการ
4 – 8 ปี 800 มก. 3 – 5 แก้ว
9 – 18 ปี 1200 มก. 5 – 6 แก้ว
19 – 45 ปี 800 มก. 3 – 5 แก้ว
45 ปีขึ้นไป 1200 มก. 5 – 6 แก้ว
โดยร่างกายของเรา จะสามารถ ดูดซึมแคลเซียม ได้ครั้งละไม่เกิน 500มก. ดังนั้น เราจีงควรแบ่งช่วงเวลาในการทานแคลเซียมให้เหมาะสมกับความต้องการ เพื่อให้ร่างกายสามารถนำแคลเซียมไปใช้ ได้อย่างเ๖้มประสิทธิภาพนั่นเอง

Q: ถ้าทานแคลเซียม เกินความต้องการในแต่ละวัน จะทำให้เกิดโรคกระดูกงอก หรือไม่ ?

A: หากเราทานแคลเซียมเกินความต้องการ “แคลเซียมที่เหลือ จะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แต่จะถูกขับออกจากร่างกายโดยธรรมชาติ และไม่เป็นสาเหตูของ โรคกระดูกงอก”

เพราะ โรคกระดูกงอก เกิดจากการสร้างหรือผสานกระดูกที่ผิดปกติ มักเกิดกับผู้ที่กระดูกบางเปราะแตกง่าย หากเกิดรอยร้าวจีงผสานได้ไม่ดี ทำให้เกิดกระดูกงอกขึ้น

Q: การทานแคลเซียม ช่วยทำให้สูงขึ้น ได้จริงหรือไม่ ?

A: ในช่วง ปีทอง ของ วัยรุ่น หรือ Growth Spurt (วัยรุ่นชาย อายุ 10-16 ปี และ วัยรุ่นหญิง อายุ 9-13 ปี)

ร่างกายจะพัฒนาอย่างเต็มที่ และจะมีส่วนสูงขึ้น เฉลี่ย 6-11 ซม./ปี ดังนั้น อาหารที่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง จึงจำเป็นอย่างมากในการเสริมสร้างความยาวของกระดูก โดยเด็กในช่วงนี้ ควรได้รับแคลเซียม วันละ 1200 มก. หรือ ดื่มนม วันละ 4-5 แก้ว แต่เด็กไทยส่วนใหญ่มักจะดื่มนมได้น้อย จึงควรได้รับแคลเซียมเสริมเพื่อให้เหมาะสมต่อความต้องการในแต่ละวัยนั่นเอง

 

Q: การทานแคลเซียม มีข้อห้าม หรือ ข้อควรระวัง หรือไม่ ?

  1. เด็กเล็กสามารถสามมารถทานแคลเซียมได้ แต่ต้องเป็รในรูปแบบที่เด็กเล็กสามารถทานได้เท่านั้น
  2. ผู้ที่เป็นโรคไต หรือ นิ่วในไต ควรได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสมจีงยังไม่แนะนำ หรือต้องปรีกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
  3. แคลเซียมจำเป็นสำหรับสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร แต่ต้องอยู่ในตวามดูแลของแพทย์เท่านั้น

เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop

กิฟฟารีน แคล-ดี-แมก (60 เม็ด)

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 เม็ด :
แคลเซียม 400 มก.
แมกนีเซียม 54 มก.
วิตามิน ดี3 90 หน่วยสากล
วิตามิน ซี 32 มก.
สังกะสี 4.2 มก.
วิตามิน อี 3 หน่วยสากล
ทองแดง 0.45 มก.
วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 เม็ด พร้อมอาหารเช้า-เย็น

กิฟฟารีน แคล-ดี-แมก รหัสสินค้า : 40509

เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-03440-1-0037

รีวิว

ยังไม่มีบทวิจารณ์

มาเป็นคนแรกที่วิจารณ์ “อาหารเสริม แคลเซียม ผสม แมกนีเซียม สังกะสี ทองแดง วิตามินซี วิตามินอี และ วิตามิน ดี 3 ชนิดเม็ด กิฟฟารีน แคล-ดี-แมก (60 เม็ด)”

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Shopping Cart
Scroll to Top