อาหารเสริม น้ำมันปลา 1000 มก. ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน น้ำมันปลา 4 เอ็กซ์ (30-60 แคปซูล)
Giffarine Fish Oil 4X : Fish Oil Dietary Dupplement 1000 Mg. Capsule Type (30-60 capsules)
มาเติม โอเมก้า 3 ให้ร่างกาย ได้ทุกวัน
น้ำมันปลาสูตร ดีเอชเอ X 4 เท่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา 1000 มก. ชนิดแคปซูล มีดีเอชเอ ซึ่งมีบทบาทในการส่งเสริมพัฒนาการทางสมอง เพิ่มการเรียนรู้และการจดจำ ถึง 500 มก. มากกว่าสูตรปกติถึง 4 เท่า เพื่อการดูแลที่มากขึ้น ผลิตจากโรงงานคุณภาพ ได้รับการรับรอง มาตรฐาน GHPs จากสำนัก รับรอง ระบบคุณภาพ (สสร.) วัตถุดิบมีคุณภาพตามมาตรฐาน ทางเภสัชและมาตรฐาน GOED (Global Organization for EPA and DHA Omega-3)
มี 2 ขนาดให้เลือก :
- กิฟฟารีน น้ำมันปลา 4 เอ็กซ์ (30 แคปซูล)
- กิฟฟารีน น้ำมันปลา 4 เอ็กซ์ (60 แคปซูล)
คุณประโยชน์ของน้ํามันปลา กับการดูแลสุขภาพ ของคุณ
น้ํามันปลา แหล่งสําคัญของกรดไขมัน โอเมก้า 3
โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันจําเป็นที่ร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ และต้องได้รับจากอาหารในปริมาณที่เพียงพอ
กรดไขมันโอเมก้า 3 ประกอบไปด้วย EPA
- ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์
- เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
- ช่วยลดความหนืดและทําให้เลือดไหลเวียนได้ดี
- ป้องกันหลอดเลือดตีบและอุดตัน จึงช่วยป้องกันสาเหตุหลักของการ เกิดโรคหัวใจล้มเหลวได้
- ช่วยลดอาการอักเสบที่เกิดจากโรคข้อเสื่อม และข้ออักเสบรูมาตอยด์
กรดไขมันโอเมก้า 3 ประกอบไปด้วย DHA
- มีส่วนช่วยในการบํารุงสมอง
- ทําให้เซลล์สมองแข็งแรง
- ช่วยให้สารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้สะดวกขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพการทํางานของเซลล์สมอง
น้ำมันปลา แตกต่างจาก น้ำมันตับปลา อย่างไร ?
นํ้ามันปลา & นํ้ามันตับปลา ชื่อคล้ายแต่ไม่เหมือนกันนะ
นํ้ามันปลา (Fish oil) สกัดได้จาก : ส่วนหัวและเนื้อ ของปลาทะเลน้ําลึก
- ให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวกลุ่มโอเมก้า 3
- ประกอบไปด้วยดีเอชเอ (DHA) มีบทบาทในการพัฒนาสมอง
- อีพีเอ(EPA) ช่วยในการลดระดับไตรกลีเซอไรด์
น้ํามันตับปลา (Cod liver oil) สกัดได้จาก : ตับ ของปลาทะเล
- ให้วิตามินเอ และวิตามินดีสูง ซึ่งทําหน้าที่ในการบํารุงร่างกายทั่วไป
น้ํามันปลาที่ดีต้องดูอย่างไร
ต้องมี สารสําคัญที่ดี
- ต้องมีกรดไขมันไม่อืมตัวชนิดโอเมก้า 3 ที่ประกอบไปด้วย DHA และ EPA ในสัดส่วนและปริมาณที่เหมาะสม
- DHA : EPA = 1:2 หรือ 2:3
- ใน 1,000 มก. ควรมี DHA + EPA > 200 มก.
ต้องมาจาก แหล่งทีดี
- ผลิตจากโรงงานที่น่าเชื่อถือ และได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP, BRC และ ISO9001
- วัตถุดิบมีคุณภาพตามมาตรฐาน ทางเภสัชและมาตรฐาน GOED (Global Organization for EPA and DHA Omega-3)
- นําเข้าจากประเทศที่เป็นแหล่งของปลาที่มีโอเมก้า 3 สูง
ประโยชน์ของนํ้ามันปลาในแต่ละช่วงวัย
- ทารกและสตรีมีครรภ์ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และการเจริญเติบโตของสมอง
- วัยเรียน เสริมสร้างสมาธิ และเพิ่มประสิทธิภาพการทํางานของสมอง
- วัยทํางาน เสริมสร้างสมาธิ และเพิ่มประสิทธิภาพการทํางานของสมอง และลดความเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ เป็นต้น
- ผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันภาวะสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ และบรรเทา อาการของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคข้อเสื่อม โรคเบาหวาน เป็นต้น
น้ํามันปลา คุณภาพ คูณ 3 ถ้ากิฟฟารีนเลือกแล้ว ต้องดีที่สุด
พิถีพิถันในการ เลือกวัตถุดิบ ที่มาจากแหล่ง ที่มีคุณภาพ…
- มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูงสุด
- สกัดจากทุกส่วนของปลา
- สกัดจากปลาหลากหลายชนิดจากทะเลแถบทวีปยุโรป อเมริกาใต้ และแอฟริกาเหนือซึ่งเป็นทะเลที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพของปลา
- นํามาสกัดเป็นน้ํามันปลาที่ประเทศไอซ์แลนด์
ผลิตจากโรงงานคุณภาพ… ได้รับการรับรอง ระบบประกันคุณภาพ GMP ระดับสากล
วัตถุดิบมีคุณภาพตามมาตรฐาน ทางเภสัชและมาตรฐาน GOED (Global Organization for EPA and DHA Omega-3) มีความเข้มงวดในการควบคุมปริมาณสารสําคัญ และการควบคุมสารปนเปื้อน และสารตกค้างต่างๆจากสิ่งแวดล้อม เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้บริโภค
ประโยชน์ ของ น้ำมันปลา (Fish Oil)
นํ้ามันปลา กับ การบํารุงสมอง
- ช่วยให้คิดไวขึ้น
- ความจําดี
- สมองสดชื่น ไม่อ่อนล้า
- ป้องกันโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์
น้ํามันปลา กับ การดูแลหัวใจ
- ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
- ช่วยลดความข้นหนืดของเลือด ทําให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
- ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน จากการจับตัวของเกล็ดเลือด
- ป้องกันการเกิดตะกอน (Plaque) สาเหตุของหลอดเลือดตีบและอุดตัน
น้ํามันปลา กับโรคข้อเสื่อมและโรคและข้ออักเสบรูมาตอยด์
- ช่วยลดการสร้างสาร ที่ทําให้เกิดการอักเสบ จึงช่วยลดการอักเสบ และบวมของข้อได้
ทราบ หรือ ไม่? น้ำมันปลา มีสัดส่วนของ EPA:DHA อย่างไร?
ปกติแล้ว น้ำมันปลา จะประกอบด้วยกรดไขมันหลัก 2 ชนิด คือ EPA และ DHA ซึ่งจะมีการปรับสัดส่วนของ EPA:DHA ให้เหมาะสมกับความต้องการที่แตกต่างกัน
- น้ำมันปลา ที่มีสัดส่วนของ EPA:DHA เป็น 3:2 เช่น มี EPA 180 มก. และ DHA 120 มก. เหมาะกับการดูแลสุขภาพโดยรวม ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ ลดอาการอักเสบของข้อต่างๆ และ บำรุงสมองโดยรวม
- น้ำมันปลา ที่มีสัดส่วนของ EPA:DHA เป็น 1:5 เช่น EPA 100 มก. และ DHA 500 มก. หรือ DHA มากกว่าสูตรปกติถึง 4 เท่า จะเน้นการส่งเสริม พัฒนาการทางสมอง เพิ่มการเรียนรู้และจดจำ รวมทั้งลดความเสี่ยงต่อการเกิด อัลไซเมอร์ อีกด้วย
คำถามเกี่ยวกับ น้ำมันปลา
Q: โอเมก้า 3 ในน้ำมันปลา แตกต่างจากโอเมก้า 6 อย่างไร?
A: โอเมก้า 3 และ 6 เป็นไขมันที่ไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนทั้งคู่ โดย:
- โอเมก้า 3 มักพบอยู่ในอาหารจำพวกปลาและอาหารทะเล ทำหน้าที่ช่วยยับยั้งการอักเสบ ข้ออักเสบรูมาตอยด์ ป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันมะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ สมองเสื่อม จอประสาทตาเสื่อม
- โอเมก้า 6 มักพบอยู่ในน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม หากรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดการอักเสบ และอาจเกิดโรคร้ายต่างๆตามมา
Q: เราสามารถได้รับโอเมก้า 3 จากแหล่งไหนได้บ้าง และมีวิธีการเลือกทานอย่างไร?
A: แหล่งของโอเมก้า 3 มีอยู่ 2 แหล่ง ดังนี้
- โอเมก้า 3 จากปลาทะเล ให้สารสำคัญในรูปของ EPA และ DHA
- โอเมก้า 3 จากพืช เช่น น้ำมันถั่วดาวอินา น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ เป็นต้น ที่ให้สารสำคัญในรูปของ ALA แนะนำในผู้ที่แพ้ปลา หรืออาหารทะเล
โดย ALA จะต้องถูกเปลี่ยนเป็น EPA และ DHA ก่อน จึงจะดูดซึมไปใช้ได้ ดังนั้นโอเมก้า 3 จากปลาทะเลจะถูกดูดซึมและนำไปใช้ได้ไวกว่า
Q: น้ำมันปลาช่วยลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองได้อย่างไร?
A: น้ำมันปลาช่วยลดระดับไขมันในเลือดชนิดไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglycerides) และลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น จึงลดโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองได้
Q: น้ำมันปลาช่วยลดการอักเสบได้อย่างไร เมือเทียบกับยาต้านการอักเสบ?
A: ยาต้านอักเสบ จะไปยับยั้งขั้นตอนสุดท้ายของการอักเสบ แต่น้ำมันปลาจะไปยับยั้งสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ ซึ่งเป็นการยับยั้งที่ต้นเหตุ จึงมีความปลอดภัยและได้ผลดีกว่า สามารถทานต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องหยุดเหมือนยาต้านอักเสบ
Q: ประโยชน์อื่นๆของโอเมก้า 3 ในน้ำมันปลา มีอะไรบ้าง?
A: ประโยชน์อื่นๆของโอเมก้า 3 ในน้ำมันปลา มีดังนี้
- ลดภาวะซึมเศร้าได้ โดยเข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ทำลายเซโรโทนิน (Serotonin)
- ป้องกันและรักษาโรคกล้ามเนื้อถดถอยอ่อนแรง (Sarcopenia) ในกลุ่มผู้สูงอายุได้
- ช่วยให้มีการเรียนรู้และความทรงจำที่ดีขึ้น และมีประโยชน์ในการส่งเสริมสุขภาพการทำงานของสมองในผู้สูงอายุ
Q: ประโยชน์โดยรวมของน้ำมันปลามีอะไรบ้าง?
A: ประโยชน์ด้านอื่นๆของน้ำมันปลามีดังนี้
- ช่วยให้คิดไวขึ้น ความจำดี สมองสดชื่น ไม่อ่อนล้า
- ป้องกันโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์
- ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอรไรด์ และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
- ช่วยลดความข้นหนืดของเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดี
- ป้องกันหลอดเลือดอุดตันจากการจับตัวของเกล็ดเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดและสมองได้
- ช่วยลดการสร้างสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ จึงช่วยลดการอักเสบและบวมของข้อได้
Q: ใครสามารถทานน้ำมันปลาได้บ้าง?
A: น้ำมันปลาให้โอเมก้า 3 ซึ่งร่างกายเราไม่สามารถสร้างขี้นเองได้ ดังนั้นจึงสามารถรับประทานได้ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเกิดโรคต่างๆ
Q: ในแต่ละช่วงวัยต้องทาน น้ำมันปลาเท่าไหร่ เพื่อให้เพืยงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน
A: ในแต่ละช่วงวัยต้องทาน น้ำมันปลาเท่าไหร ตามตารางดังนี้
ช่วงอายุ | EPA-DHA (mg.) | FISH OIL (mg.) | คิดเป็นแคปซูล |
2 – 4 ปี | 100 – 1500 | 300 – 500 | 500 มก. 1 แคปซูล |
4 – 6 ปี | 150 – 200 | 500 – 670 | 500 มก. 1 แคปซูล |
6 – 10 ปี | 200 – 250 | 670 – 830 | 500 มก. 1 – 2 แคปซูล |
มากกว่า 10 ปี | 250 – 2,000* | 830 – 6,670 | 1,000 มก. 1 – 7 แคปซูล |
Q: ประโยชน์ของ น้ำมันปลา ในแต่ละช่วงวัย
ทารกและสตรีมีครรภ์ | เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ และ การเจริญเติบโตของสมอง |
วัยเรียน | เสริมสร้างสมาธิ และ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง |
วัยทำงาน | เสริมสร้างสมาธิ และ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง และ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ เป็นต้น |
ผู้สูงอายุ | ป้องกันภาวะสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ และ บรรเทาอาการของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคข้อเสื่อม โรคเบาหวาน เป็นต้น |
Q: ในการรับประทานน้ำมันปลา มีข้อห้าม ข้อควรระวังหรือไม่?
A: ข้อห้าม ข้อควรระวัง ของการทานน้ำมันปลามีดังนี้:
- ควรหลีกเลี่ยงการเสริมน้ำมันปลาในผู้ป่วยที่ได้ยาต้านเกร็ดเลือด (เช่น แอสไพริน) และยาต้านการแข็งตัวของเลือด (เช่น วาร์ฟาริน)
- ผู้ที่แพ้อาหารทะเล มักแพ้โปรตีนจากอาหารจึงสามารถทานน้ำมันปลาได้ แต่หากมีความผิดปกติ เช่นผื่นผิวหนัง คลื่นไส้ ไม่สบายท้อง ก็ต้องหยุดทาน
Q: ในการเลือกซื้อน้ำมันปลา เราควรพิจารณาจุดใดบ้าง
A: เราควรพิจารณาจาก:
- น้ำมันปลาที่ดีต้องมี DHA และ EPA ในสัดส่วนที่เหมาะสม คือ DHA:EPA = 1:2 หรือ 2:3
- ใน 1,000 มก. ควรมี DHA + EPA มากกว่า 200 มก.
- น้ำมันปลาต้องนำเข้าจากประเทศที่เป็นแหล่งของปลาที่มีโอเมก้า 3 สูง
- มีคุณภาพตามมาตรฐานของเภสัชและมาตรฐาน GOED (Global Organization for EPA and DHA Omega-3)
- ต้องผลิตจากโรงงานที่เชื่อถือได้ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP, BRP, และ ISO 9001
ดังนั้นการรับประทานอาหาร หรือ อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของ กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก หรือ DHA จะมีส่วนสำคัญในการเสริมพัฒนาการในเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น และผู้ป่วยออทิสติก นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงในการเป็น โรคอัลไซเมอร์ และมีส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง เพิ่มการเรียนรู้ และการจดจำได้อีกด้วยนะครับ
เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop
นํามันปลา 4 เอ็กซ์ 30 เม็ด รหัสสินค้า : 40117
เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-03440-1-0154
ขนาด กxยxส : 5.5×5.5×10
น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.08
นํามันปลา 4 เอ็กซ์ 60 เม็ด รหัสสินค้า : 40118
เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-03440-1-0154
ขนาด กxยxส : 5.5×5.5×10
น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.11
น้ำมันปลา กิฟฟารีน 4 เอ็กซ์ 1000 มก.
ใน 1 แคปซูล มีน้ำมันปลา 1000 มก. ประกอบด้วย |
กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง |
กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (อีพีเอ) 100 มก. |
กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (ดีเอชเอ) 500 มก. |
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์