สเปรย์น้ำแร่ ผสม สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ สารสกัดจากดอกบัว และ สารสกัดเบต้ากลูแคนจากยีสต์ กิฟฟารีน มิเนอรัล เอสเซนส์ สเปรย์ (50 มล.)
Giffarien Mineral Essence Spray : Mineral Water Spray With Chamomile Flower Extract Lotus Extract And Beta-Glucan Extract (50 ml.)
เติมความสดชื่น ให้กับผิวหน้า สวย ทน นาน
สเปรย์น้ำแร่ละอองสเปรย์เนื้อละเอียด ใช้ฉีดเพื่อให้เครื่องสำอางติดทนนาน และเติมความสดชื่นให้กับผิวหน้า ด้วยหัวสเปรย์นำเข้าจากประเทศอิตาลี มีประสิทธิภาพในการทำให้ผลิตภัณฑ์ ฟุ้งกระจายออกเป็น ละอองฝอยขนาดเล็กกว่าสเปรย์ทั่วไป จึงสามารถซึมเข้าบำรุงผิวได้ดี แห้งไวไม่ทำให้หน้าเยิ้ม ใช้ฉีดเพื่อให้เครื่องสำอางติดทนนาน และเติมความสดชื่นให้กับผิวหน้า สามารถใช้ได้ทั้งก่อนและหลังแต่งหน้า รวมถึงฉีดได้บ่อยครั้ง เมื่อต้องการความสดชื่น
ด้วยส่วนผสมของ “มิเนอรัลคอมเพล็กซ์” (Mineral Complex) เติมเต็มแร่ธาตุที่มีคุณประโยชน์ต่อผิว ช่วยสร้างสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงผิวธรรมชาติ ช่วยให้ผิวหน้าสดชื่นเย็นสบาย และยัง เป็น มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื่นมีชีวิตชีวาตลอดวัน สารสกัดจาก “ดอกคาโมมายล์” (Camomile) และ สารสกัดจาก “ดอกบัว” (Water-Lily) และ “สารสกัดเบต้ากลูแคนจากยีสต์” (Yeast Beta Glucan) ช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกรบกวนจากมลภาวะภายนอก ความร้อนจากแสงแดด และช่วยผ่อนคลายผิว อีกทั้งยังเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น มีชีวิตชีวาตลอดวัน ปรับสภาพผิว ให้รู้สึกสดชื่นแม้ในผิวบอบบาง แพ้ง่าย
ดับร้อนให้ผิวหน้า พร้อมเติมความชุ่มชื้น บํารุงผิว ด้วย มิเนอรัล เอสเซนส์ สเปรย์ ดับร้อนให้ผิว…เพิ่มความสดใส สามารถใช้ได้ทั้ง ก่อนและหลังแต่งหน้า รวมถึงฉีดได้บ่อยครั้ง เมื่อต้องการความสดชื่น สเปรย์น้ําแร่ ละอองสเปรย์เนื้อละเอียด ซึมเร็ว ไม่ทําให้หน้าเยิ้ม ช่วยให้ Make-Up ติดทนนาน และเติมความสดชื่น ให้กับผิวหน้า Mineral Essence Spray รวมแร่ธาตุที่มี คุณประโยชน์ที่ดีต่อผิว
พกพาง่าย สะดวก เข้ากับทุก Life Style
- หัวสเปรย์นําเข้าจากอิตาลี
- ละอองฝอยขนาดเล็ก บางเบา ละมุนผิว
- ซึมเข้าบํารุงผิวได้รวดเร็ว
- แห้งไว ไม่ทําให้ผิวมันเยิ้ม
สเปรย์น้ําแร่บํารุงผิว ฉีดแล้วสดชื้น ผิวหน้าสดใส
- เติมความชุ่มชื้น สร้างสมดุลน้ําหล่อเลี้ยงผิว
- เมคอัพติดทนนาน เพียงฉีดก่อนและหลังการแต่งหน้า
- เพิ่มความสดชื่น ให้ผิวระหว่างวัน
- ปลอบประโลมผิว หลังจากเผชิญแสงแดดและมลภาวะ
รวมสารบำรุง ปลุกผิวให้ตื่น พร้อมเผชิญทุกสภาวะ
- Mineral Complex บำรุง Skin Barrier ช่วยป้องกันผิวจากการระคายเคือง
- สารสกัดเบต้ากลูแคนจากยีสต์ ปลอบประโลมและฟื้นบําารุงผิว หลังจากเผชิญรังสี UV และ มลภาวะ
- สารสกัดจากดอกคาโมมายด์ Soothing และ Refreshing wo ให้รู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา
- สารสกัดจากดอกบัว ปกป้องผิวจากสารอนุมูลอิสระ เพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวเปล่งปลั่ง สดใส
- Allantonin บํารุงผิวให้เนียนนุ่ม แลดูสุขภาพผิวดี
วิธีใช้ : ฉีด Mineral Essence Spray ให้ทั่วใบหน้าทั้งก่อนและหลังแต่งหน้าและสามารถฉีดได้บ่อยครั้ง เมื่อต้องการความสดชื่น โดยให้ห่างจากผิว ประมาณ 10-15 ซม.
มอยเจอร์ไรเซอร์
มอยเจอร์ไรเซอร์ คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวนุ่มและอิ่มน้ำมากขึ้น ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพและป้องกันการสร้างน้ำมันส่วนเกินบนผิวหนัง ทั้งยังปกป้องผิวจากปัญหาผิวแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย คันและระคายเคือง โดยมอยเจอร์ไรเซอร์อาจมีหลายเนื้อสัมผัสและหลายประเภท เช่น ครีม ขี้ผึ้ง โลชั่น สูตรน้ำ สูตรน้ำมัน ซึ่งอาจเหมาะสมกับสภาพผิวที่แตกต่างกันไป
ประโยชน์ของ มอยเจอร์ไรเซอร์
การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวเป็นประจำอาจให้ประโยชน์ต่อผิว ดังนี้
- ช่วยเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้นภายในผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ อ่อนนุ่ม ชุ่มชื้นและเรียบเนียนมากขึ้น
- ช่วยปกป้องผิวจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เช่น อากาศแห้ง เย็น ซึ่งอาจส่งผลทำให้ผิวแห้งกร้าน ผิวแตก ลอก คันและระคายเคือง ทั้งยังอาจช่วยป้องกันปัญหาผิวขาดน้ำ
- ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ส่งผลทำให้ผิวมีความสม่ำเสมอและเรียบเนียนมากขึ้น
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยและความเหี่ยวย่น สำหรับมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินเออาจช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่เป็นโครงสร้างของผิวหนัง ทำให้ผิวแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
วิธีเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับผิว
การเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของมอยเจอร์ไรเซอร์ในการบำรุงผิวได้ ดังนี้
- สภาพผิวปกติ เป็น ลักษณะของผิวที่แข็งแรง มีความสมดุลของน้ำมันและความชุ่มชื้นบนผิว ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทเนื้อครีมหรือเจลที่มีความบางเบา ที่อาจมีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ไดเมทิโคน (Dimethicone) ว่านหางจระเข้ และกลีเซอรีน (Glycerin)
- สภาพผิวผสม เป็น ลักษณะของผิวผสมระหว่างผิวแห้งกับผิวมัน โดยผิวอาจแห้งและมันบางบริเวณ เช่น ผิวอาจมันมากบริเวณทีโซน (T-Zone) หน้าผาก จมูก คาง ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาผิว เช่น รูขุมขนกว้าง สิวอุดตัน ที่อาจเกิดขึ้นเฉพาะจุด จึงควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทที่มีความบางเบาทาในบริเวณทีโซน ซึ่งเป็นบริเวณที่ผิวมัน และประเภทครีมที่มีความหนักกว่าในส่วนที่ผิวแห้ง โดยอาจมีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) และทีทรีออยล์ (Tea Tree Oils) ที่มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ลดความมันในบริเวณที่ผิวมัน และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในบริเวณที่ผิวแห้ง
- สภาพผิวแห้ง เป็น ลักษณะของผิวที่ขาดความชุ่มชื้น ส่งผลทำให้ผิวดูหมองคล้ำ แห้ง แตก ลอก ผิวตึงและขาดความยืดหยุ่น ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทน้ำมัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ซึ่งอาจมีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก ไดเมทิโคน (Dimethicone) ลาโนลิน (Lanolin) น้ำมันแร่ (Mineral Oil) พาราฟินเหลว (Liquid Paraffin) ปิโตรลาทัม (Petrolatum) โพรพิลีน ไกลคอล (Propylene Glycol) ยูเรีย (Urea) โจโจ้บาออยล์ (Jojoba Oil) น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันจมูกข้าวสาลี น้ำมันมะพร้าว น้ำมันละหุ่ง น้ำมันเมล็ดองุ่น เชียบัตเตอร์ (Shea Butter) ขี้ผึ้ง (Beeswax Cholesterol) สควาลีน (Squalene) กรดไขมัน กรดแลคติก (Lactic Acid) และซูโดเซอราไมด์ (Pseudo-Ceramides)
- สภาพผิวมันและเป็นสิวง่าย เป็น ลักษณะของผิวที่มันกว่าปกติ เนื่องจากผิวผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามากขึ้น ทำให้ผิวมันวาว รูขุมขนกว้าง อาจทำให้เป็นสิวได้ง่ายขึ้น ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทที่ไม่ก่อให้เกิดสิวและไม่อุดตันรูขุมขน โดยอาจมีส่วนผสมของกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) กรดไฮยาลูโรนิก เรตินอล (Retinol) สควาลีน ทีทรีออยล์ และกรดซาลิไซลิก
- สภาพผิวบอบบาง แพ้ง่าย เป็น ลักษณะของผิวที่อ่อนแอ บอบบาง ระคายเคืองง่ายและไวต่อสิ่งกระตุ้น เช่น แสงแดด มลภาวะ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว การเสียดสีกับเนื้อผ้าบางชนิด อาจทำให้มีอาการผื่นแดง คัน แสบร้อน ผิวอักเสบ ผิวลอก ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทที่ปราศจากน้ำหอม ปราศจากสารก่อภูมิแพ้และมีส่วนผสมน้อย อาจมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้และกลีเซอรีน
- สภาพผิวที่เสื่อมตามอายุ เป็น ลักษณะของผิวที่อาจพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เนื่องจาก การเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวหนัง อาจทำให้ผิวอ่อนแอ ขาดความยืดหยุ่น ริ้วรอยเหี่ยวย่นหรือมีจุดด่างอายุ ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นของน้ำมันและโปรตีนผิว ซึ่งอาจมีส่วนผสมของปิโตรลาทัม โจโจ้บาออยล์ น้ำมันมะพร้าว คอลลาเจน อีลาสติน (Elastin) และเคราติน (Keratin) เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และกระตุ้นการสร้างความแข็งแรงของผิวหนัง
ดอกคาโมมายล์
สารสกัดจาก “ดอกคาโมมายล์” (Camomile) เป็นที่นิยมนำมาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่ง “ดอกคาโมมายล์” (Camomile) จัดเป็นพืชในตระกูลดอกเดซี่ เป็นสมุนไพรที่นิยมมาตั้งแต่ยาวนาน อย่างชาวกรีกและอียิปต์โบราณมักใช้ “ดอกคาโมมายล์” (Camomile) มาทาลงบนผิวเพื่อรักษารอยแดง ผื่นแดง และความแห้งกร้าน เพราะมีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบและช่วยปลอบประโลมผิว รวมถึงยังมีคุณสมบัติช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและช่วยในการนอนหลับ สารสกัดธรรมชาติจาก “ดอกคาโมมายล์” (Camomile) มีคุณประโยชน์ต่อผิว ดังนี้
ประโยชน์ ของ ดอกคาโมมายล์
1. ช่วยปลอบประโลมผิวแพ้ง่าย ลดการอักเสบของผิว
สารสกัดจาก “ดอกคาโมมายล์” (Camomile) มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการถูกทำลายของเซลล์และเนื้อเยื่อร่างกายจากอนุมูลอิสระ เพราะประกอบด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ กลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) หลายตัว และมีกรดฟีโนลิก (Phenolic acids) ซึ่งช่วยบรรเทาความรุนแรงของรอยแดงที่เกิดจากการอักเสบ โดยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ชื่อ อะพิจีนิน (Apigenin) จะเข้าไปยับยั้งกระบวนการที่ก่อให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง และยังช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์และเนื้อเยื่ออีกด้วย
รวมถึงมีงานวิจันที่พบว่า ครีมบำรุงผิวที่มีสารสกัดจาก “ดอกคาโมมายล์” (Camomile) สามารถช่วยลดการอักเสบในผู้ที่มีอาการผิวหนังอักเสบจากกลาก ช่วยลดระดับการแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สารสกัดจาก ดอกคาโมมายล์ จึงมักถูกใช้เพื่อลดอาการอักเสบของผิวหนัง จากการถูกแสงแดดเผา ผด ผื่นแดง ดังนั้น หากเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจาก “ดอกคาโมมายล์” (Camomile) ก็จะช่วยปลอบประโลมผิวแพ้ง่ายที่อาจถูกทำร้ายจนเกิดอาการคัน ผด ผื่นร้อน ผื่นแดง ช่วยให้ลูกสบายตัวขึ้น
2. ช่วยเสริมเกราะปกป้องผิว จากมลภาวะภายนอก
สารสกัดจาก “ดอกคาโมมายล์” (Camomile) มีกรดไขมันหลายชนิดที่ช่วยเสริมเกราะปกป้องผิวหนัง และช่วยลดการระคายเคืองผิวจากปัจจัยภายนอกที่ทำร้ายผิวเด็ก เช่น แสงแดด ฝุ่น มลภาวะ สภาพอากาศ สารเคมี ฯลฯ ที่มักจะเข้ามาก่อกวนจนผิวที่บอบบางจนเสียสมดุลและมักทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ผิวเด็ก ซึ่งถ้าเยื่อหุ้มเซลล์ผิวถูกทำลาย สิ่งแปลกปลอมก็จะจู่โจมทำให้ระคายเคืองผิวนั่นเอง
นอกจากนี้สารสกัดจาก “ดอกคาโมมายล์” (Camomile) มีสารที่ช่วยต่อต้านเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัสก่อโรคผิวหนัง เช่น เชื้อไวรัสเริม เป็นต้น โดยมีงานวิจัยที่พบว่า ครีมบำรุงผิวที่มีสารสกัดจาก “ดอกคาโมมายล์” (Camomile) สามารถช่วยรักษา สมานแผล และมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียในแผลที่ติดเชื้อได้ เมื่อเทียบกับครีมที่ไม่มีสารสกัดจาก “ดอกคาโมมายล์” (Camomile) เป็นส่วนผสม
ซึ่งสารสกัดจาก “ดอกคาโมมายล์ (Camomile)” มีความอ่อนโยนและสามารถใช้ติดต่อกันได้โดยไม่พบผลข้างเคียง ดังนั้น หากเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติจาก “ดอกคาโมมายล์ (Camomile)” ต่อเนื่องเป็นประจำ จะช่วยให้ผิวที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ ค่อยๆ แข็งแรงขึ้น ไม่แพ้ง่าย พร้อมกับช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้งหยาบกร้าน
3. ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับสบาย
สารสกัดจาก “ดอกคาโมมายล์” (Camomile) ขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องของการนอนหลับ เพราะมีฤทธิ์คลายวิตกกังวล ทำให้รู้สึกจิตใจสงบ และเสริมคุณภาพการนอนหลับให้ดีขึ้น โดยพบว่าสารประกอบ 3 ชนิด ได้แก่ อะพิจีนิน (Apigenin) ไบโซโพรลอล (Bisoprolol) และ คามาซูลีน (Chamazulene) ที่มีสรรพคุณในการผ่อนคลาย นอกจากนี้ในสารสกัดยังพบ สารกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาท กลุ่มเดียวกับสารเซโรโทนิน (Serotonin) ที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสงบและง่วง ที่มีหน้าที่ยับยั้งหรือลดการทำงานของเซลล์ประสาท จึงช่วยทำให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล เพราะมีกลิ่นหอมละมุนอ่อนๆ สามารถช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายตัว หลับยาวได้ตลอดคืน
ประโยชน์ของ สารสกัดจากดอกบัว
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ
- ช่วยชะลอความแก่ชราก่อนวัย
- ช่วยให้ผิวพรรณขาวและกระจ่างใสขึ้น
- ช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง
- ช่วยลดรอยแดงจากการเกิดสิวและช่วยให้สิวแห้งไวขึ้น
- ช่วยเผยผิวใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยสร้างคอลลาเจน
เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop
รหัสสินค้า : 10604
เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 10-1-6100023694
ขนาด กxยxส : 3.5x14x3.5
น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.08
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์