, ,

อาหารเสริม ขมิ้นชัน ผสม วิตามินซี และ วิตามินอี ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน เคอร์คิวมา ซี-อี (60 แคปซูล)

240฿

ดูแลสุขภาพด้วยขมิ้นชัน คุณค่าจากสมุนไพรไทย

กิฟฟารีน เคอร์คิวมา ซี-อี ผลิตภัณฑ์คุณภาพได้มาตรฐานสมุนไพรไทย สรรพคุณช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง ประกอบด้วย สารเคอร์คูมิน (Curcumin) จากขมิ้นชัน วิตามินซี (Vitamin C) และ วิตามินอี (Vitamin E) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

Availability: มีสินค้าอยู่ 20

อาหารเสริม ขมิ้นชัน ผสม วิตามินซี และ วิตามินอี ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน เคอร์คิวมา ซี-อี (60 แคปซูล)
Giffarine Curcuma C-E : Dietary Supplement Turmeric Mixed with Vitamin C and Vitamin E Capsule Type (60 capsules)

ดูแลสุขภาพด้วยขมิ้นชัน คุณค่าจากสมุนไพรไทย

กิฟฟารีน เคอร์คิวมา ซี-อี ผลิตภัณฑ์คุณภาพได้มาตรฐานสมุนไพรไทย สรรพคุณช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง ประกอบด้วย สารเคอร์คูมิน (Curcumin) จากขมิ้นชัน วิตามินซี (Vitamin C) และ วิตามินอี (Vitamin E) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

กิฟฟารีน เคอร์คิวมา ซี-อี ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารเคอร์คูมิน (Curcumin) จากขมิ้นชัน วิตามินซี (Vitamin C) และ วิตามินอี (Vitamin E) ผลิตภัณฑ์คุณภาพ การันตีด้วยถ้วยรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีเด่นระดับชาติประจำปี 2561 และได้รับเกียรติบัตรสมุนไพรคุณภาพ Premium Product ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ กรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ จึงมั่นใจได้ในมาตรฐานและความปลอดภัยจากกิฟฟารีน

ขมิ้นชัน กับ 4 โรคยอดฮิต ของผู้หญิง

  1. ลดขนาดของเนื้องอกในมดลูก
  2. ยับยั้งเซลล์มะเร็งรังไข่
  3. ยับยั้งเซลล์มะเร็งปากมดลูก
  4. ยับยั้งเซลล์มะเร็งเต้านม

ขมิ้นชัน กับเนื้องอกในมดลูก ศึกษาในกลุ่มคนไข้ที่เป็นเนื้องอกในมดลูก ในโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชจํานวน 35 คน โดยให้ขมิ้นชัน 1,200 มก./วัน เป็นเวลา 6 เดือน ทําการวัดขนาดเนื้องอก ด้วยเครื่อง Ultrasound ก่อนการทดสอบ และวัดซ้ําาที่ระยะเวลา 3 และ 6 เดือน พบว่า… การได้รับขมิ้นชัน ช่วยลดขนาดของเนื้องอกมดลูกได้อย่างมีนัยสําคัญ โดยไม่พบผลข้างเคียง (อ้างอิงที่ 1) 

 

 

ขมิ้นชัน กับมะเร็งปากมดลูก จากการศึกษาในเซลล์เยื่อบุปากมดลูก โดยให้สารเคอร์คูมินเข้มข้น 100 ไมโครโมล ในช่วงเวลา 15 นาที – 24 ชั่วโมง พบว่า… สารเคอร์คูมินช่วยลด การลุกลามของเซลล์มะเร็งปากมดลูก ระยะแพร่กระจาย และลดการกลายพันธุ์ เซลล์เยื่อบุปากมดลูกที่ผิดปกติได้ (อ้างอิงที่ 2) 

ขมิ้นชัน กับมะเร็งเต้านม มีรายงานการวิจัยว่า…สารเคอร์คูมิน ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโต ของเซลล์เนื้องอกเต้านม ในหลอดทดลอง โดยไปยับยั้งเซลล์ที่ผิดปกติ ก่อนเข้าสู่ระยะสังเคราะห์ดีเอ็นเอ และกลายเป็นมะเร็ง จึงสรุปได้ว่า เคอร์คูมินมีฤทธิ์เป็นสารต้านมะเร็งเต้านมได้ (อ้างอิงที่ 3) 

ขมิ้นชัน กับมะเร็งรังไข่ จากการศึกษา ในหลอดทดลอง พบว่า… สารเคอร์คูมิน ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโต และกระตุ้นการตายของ เซลล์มะเร็งรังไข่ได้ (อ้างอิงที่ 4) 

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ชมิ้นชัน และ เคอร์คูมินอยด์ เทคโนโลยี PNS จาก กิฟฟารีน

ขมิ้นชัน คืออะไร?

“ขมิ้นชัน (Curcumin)” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma longa Linn., Curcuma domestica Valeton. ชื่อวงศ์ Zingiberaceae

“ขมิ้นชัน” ชื่อท้องถิ่น ขมิ้นแกง, ขมิ้นชัน ขมิ้นหยวก ขมิ้นหัว ขี้มิ้น ยากยอ สะยอ หมิ่น ส่วนที่ใช้คือ เหง้าสดและแห้ง

“ขมิ้นชัน” มีสารสำคัญใน “กลุ่มโพลีฟีนอล (Polyphenol) (คือ กลุ่มของสารที่ให้สีที่พบในพืชผักผลไม้ทั่วไป)” ที่เรียกว่า “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)”

โดย “เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids)” ประกอบด้วยสารหลัก 3 ชนิด คือ

  1. เคอร์คูมิน (Curcumin)
  2. เดเมทอกซีเคอร์คูมิน (Demethoxycurcumin)
  3. บิสเดเมททอกซีเคอร์คูมิน (Bisdemethoxycurcumin)

ประโยชน์ของ ขมิ้นชัน จากการวิจัยทางการแพทย์

“ขมิ้นชัน (Curcumin)” เป็น “พืชสมุนไพร” ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีสรรพคุณในทางยามากมาย นิยมนำมาปรุงใช้ในสูตรยาสมุนไพรไทยเพื่อดูแลรักษาอาการต่างๆมาอย่างยาวนานนับร้อยปี

ในปัจจุบันได้มีการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีคุณประโยชน์และมีงานวิจัยทางด้านการแพทย์สนับสนุนกล่าวโดยสรุปได้ดังนี้

ประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร

“ขมิ้นชัน (Curcumin)” ช่วยแก้ท้องอืดเฟ้อ ลดแผลในกระเพาะ ช่วยย่อยอาหาร บํารุงตับ ลด การปวดมดลูก ลดการเจ็บป่วยจากโรคลําไส้อักเสบเรื้อรัง ขมิ้นชันช่วยแก้ท้องอืดเฟ้อด้วยการขับลม

นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และฤทธิ์ป้องกันตับอักเสบ จากสารพิษอีกด้วย จากผลทั้งหมดดังกล่าว ขมิ้นจึงมีผลช่วย บรรเทาอาการปวดท้องเนื่องจากแผลในกระเพาะได้ และช่วยแก้ท้องอืดเฟ้อ

ประโยชน์ต่อระบบหัวใจ หลอดเลือดหัวใจและสมอง

“สารเคอร์คูมิน (Curcumin)” ใน “ขมิ้นชัน (Curcumin)” มีความเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมากเพียงพอ และ มีงานวิจัยในหนูทดลองว่า ลดการเกิดปริมาณกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการ ขาดเลือดได้จริง

โดยการวิจัยได้ทดลองผูกเส้นเลือดหัวใจให้กล้ามเนื้อหัวใจ ตาย กลุ่มที่ได้รับสารเคอร์คิวมินจะมีปริมาณกล้ามเนื้อหัวใจตายน้อยกว่า อย่างมีนัยสําคัญ

ในทํานองเดียวกัน “สารเคอร์คูมิน (Curcumin)” ใน “ขมิ้นชัน (Curcumin)” มีผลในการป้องกันเซลล์สมองตาย จากการขาดเลือดได้ จากกลไกการต้านอนุมูลอิสระ ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับ การแข็งตัวของเกล็ดเลือด

ประโยชน์ในด้านการช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งหลายชนิด

ปัจจุบันนี้ขมิ้นได้รับการวิจัยมากขึ้น และพบว่าสามารถให้เสริมกับยา ต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี เพราะช่วยกันทําลายเซลล์มะเร็งโดยกลไกอื่นๆ อีกเพิ่มเติม นอกเหนือไปจากยาต้านมะเร็ง

และ “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ยังได้รับ คําแนะนําว่าน่าจะมีบทบาทในการป้องกันมะเร็งได้มาก เพราะมีกลไกป้องกันมะเร็ง โดยออกฤทธิ์ที่เอนไซม์ระยะหนึ่งและสอง (Phase I and II carcinogen-metabolizing enzymes) ในการทํางานก่อมะเร็งของสาร เหนี่ยวนํามะเร็งอีกด้วย

“สารเคอร์คูมิน (Curcumin)” ใน “ขมิ้นชัน (Curcumin)” มีฤทธิ์ยับยั้งและทําลายเซลล์มะเร็งของมนุษย์ได้หลายชนิด เช่น เซลล์มะเร็งตับ เซลล์มะเร็งเม็ดโลหิตขาว T cell Leukemia เซลล์มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ Bladder Cancer cell เซลล์มะเร็งปอดชนิดNon small cell Carcinoma

ทําให้มีการเสนอแนะว่า “ขมิ้นชัน (Curcumin)” น่าจะมี บทบาทในการป้องกันมะเร็งปอดในผู้ที่สูบบุหรี่ เซลล์มะเร็งผิวหนัง (Melanoma) เซลล์มะเร็งต่อมน้ําเหลือง Non-Hodgkin’s lymphoma เซลล์มะเร็งลําไส้ใหญ่ (Human colon adenocarcinoma) เซลล์มะเร็ง ต่อมลูกหมาก เซลล์มะเร็งรังไข่ เซลล์มะเร็งเต้านม

และเนื่องจาก “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ยับยั้ง ไวรัสหูด HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักและปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก ทําให้ อาจจะมีที่ใช้ในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก

ประโยชน์ในด้านช่วยบำรุงสมอง และอาจช่วยเรื่องอัลไซเมอร์

ปัจจุบันมีการค้นพบว่า โรคอัลไซเมอร์หรือสมองเสื่อม มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างมาก ในกลุ่มที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ และกลไกของการต้านอนุมูลอิสระ อาจมีบทบาทในการป้องกันการเกิดโรคนี้ได้ ซึ่งตอนนี้ได้มีงานวิจัยที่บอกว่า “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ก็เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่น่าจะมีบทบาทในการป้องกันโรคนี้

ขมิ้นหรือขมิ้นชันช่วยฆ่าเชื้อมาเลเรีย

“สารเคอร์คูมิน (Curcumin)” ใน “ขมิ้นชัน (Curcumin)” มีประสิทธิภาพที่ค้นพบทางการแพทย์เพิ่มเติม อีกหลายอย่าง เช่น พบคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อมาลาเรีย P. Falciparum

ทําให้ปัจจุบันมีการพัฒนาเพิ่มเติมที่จะนํามาใช้เป็นยารักษา หรือป้องกัน มาลาเรีย

การทดลองในหนูพบว่าหนูที่ได้กินเคอร์คิวมิน สารสกัด จาก “ขมิ้นชัน (Curcumin)” สามารถลดปริมาณเชื้อมาลาเรีย (P. Falciparum) ได้ 80 – 90% 

โดยสรุป “ขมิ้นชัน (Curcumin)” จึงจัดเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์กว้างขวาง ปลอดภัย เพราะเป็นพืชผักสวนครัว และมีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับมาก เนื่องจาก ขมิ้นช่วยขับน้ําดี จึงมีข้อแนะนําไม่รับประทานในผู้ป่วยที่เป็นนิ่วในท่อน้ําดี

ปัจจุบันนี้งานวิจัยของ “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ยังมีตลอดเวลา โดยมีแนวโน้มที่จะนํา สารสกัดมาศึกษาเพิ่มเติม จึงเป็นสมุนไพรไทยที่น่าภูมิใจและน่าใช้สําหรับ คนไทย

อย่างไรก็ตามการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพจาก “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ควรเลือก จากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (Good Manu facturing Practice หรือ GMP) เป็นอย่างน้อย

รวมถึงมีการควบคุม คุณภาพของ “ขมิ้นชัน (Curcumin)” ให้มั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ขมิ้นชันนั้นมีค่าสารสําคัญคือ “สารเคอร์คูมิน (Curcumin)” ตามมาตรฐานกําหนดและมีความปลอดภัย

โรค หรือ ภาวะที่จะแนะนำ ในการใช้ ขมิ้นชัน
  • ผู้ที่มีพาหะไวรัสตับอักเสบบี ที่ตับไม่อักเสบมาก คือ มีระดับเอนไซม์ การทํางานของตับปกติ
  • ผู้ที่ดื่มสุรา
  • ผู้มีประวัติครอบครัว เป็นมะเร็ง
  • บําารุงผิวพรรณ
  • โรคธาลัสซีเมีย
  • โรครูมาตอยด์
  • โรคสะเก็ดเงิน
  • โรคข้อเข่าเสื่อม
  • โรคมะเร็งตับ, มะเร็งตับอ่อน, มะเร็งเม็ดโลหิตขาว, มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, มะเร็งปอด, มะเร็งเต้านม, มะเร็งรังไข่, มะเร็งมดลูก, มะเร็งปากมดลูก,มะเร็งต่อมลูกหมาก, มะเร็งหลอดอาหาร, มะเร็งลําไส้ใหญ่, มะเร็งผิวหนัง,มะเร็งสมอง,มะเร็งต่อมน้ําเหลือง, และมะเร็งหู คอ จมูก
  • โรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ เอ
  • โรคกระเพาะอาหาร
  • โรคจมูกอักเสบ ภูมิแพ้
  • ผู้ป่วยเบาหวาน
  • ผู้ป่วยโรคไขมัน พอกตับที่ไม่ได้เกิดจาก แอลกอฮอล์
ข้อห้าม ข้อควรระวัง ในการใช้ ขมิ้นชัน
  • โรคนิ่วในถุงน้ําดี
  • เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน
  • เป็นสมุนไพร จึงห้าม รับประทานในผู้ที่ตับอักเสบมาก คือมีค่า การทํางานของตับ เอนไซม์ SGOT SGPT มากกว่า 40 เบ X
  • ควรระวังหรือหลีกเลี่ยงในผู้ได้รับยาต้านการ แข็งตัวของเลือด และ เกล็ดเลือด

วิตามินซี (Vitamin C)

“วิตามิน ซี (Vitamin C)” เป็น “สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)” ที่ดี มีส่วนช่วยในการสร้าง เนื้อเยื่อ “คอลลาเจน (Collagen)” จึงช่วยลดการเกิดริ้วรอยและช่วยป้องกันอันตรายจากรังสียูวีจากแสงแดด นอกจากนี้ยังสามารถลดภาวะการเกิดผิวหมองคล้ําได้อย่างนัยสําคัญ จึงเป็นส่วนสําคัญที่ช่วยให้ผิวพรรณแลดูกระจ่างใส และมีสุขภาพดี

ประโยชน์ของ วิตามินซี (Vitamin C) ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

มีบทบาทในระบบ “ปฏิกิริยาไฮดร๊อกซิเลชั่น (Hydroxylation)” ของ “โพรลีน (Proline)” เพื่อสร้าง “คอลลาเจน (Collagen)” ซึ่งเป็นองค์ประกอบของกระดูก กระดูกอ่อน ฟัน และผนังเส้นเลือด ช่วยเพิ่มการดูดซึมของเหล็ก ถ้าขาดจะมีเลือดออกตามไรฟัน อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เหงือกบวม ฟันหลุดง่าย

  1. มีส่วนช่วยในการทําหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
  2. มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ
  3. มีช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง
  4. มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทํางานตามปกติของผิวหนัง

วิตามิน อี (Vitamin E)

“วิตามิน อี (Vitamin E)” เป็น “สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)” ป้องกันการแตกสลายของเยื่อหุ้มเซลล์ ทําให้เม็ดเลือดแดง ไม่แตกง่าย และจําเป็นต่อการเจริญและพัฒนาต่อเซลล์ประสาท

“วิตามิน อี (Vitamin E)” เป็น “สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)” ซึ่งจะไป “ทำให้เป็นกลาง (Neutralized)” ของการเกิด “อนุมูลอิสระ (Free radicals)” ดังนั้น “วิตามิน อี (Vitamin E)” เป็น สิ่งสำคัญในการดูแลรักษาผิว

มีการศึกษาวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า “วิตามิน อี (Vitamin E)” ช่วยลด “โรคสะเก็ดเงินเกิดผื่นแดง (Psoriasis erythema)” และช่วยลดการเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนัง ช่วยรักษาแผลเป็น และช่วยลดริ้วรอยบนผิว

และจากการศึกษาพบว่า ผิวหนังในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น ใบหน้า จะมีปริมาณของ “วิตามิน อี (Vitamin E)” มากกว่าบริเวณแขนถึง 20 เท่า เนื่องจากต่อมไขมัน เป็นช่องทางที่สำคัญ ในการหลั่ง “วิตามิน อี (Vitamin E)” ออกสู่ผิวหนัง

ประโยชน์ของ วิตามิน อี

ประโยชน์ของการใช้ ผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของ วิตามิน อี ในการป้องกันและรักษาผิวพรรณ

  1. ช่วยลดอัตราการทำลายของแสงแดด ที่ทำให้เกิดรอยแดง
  2. ลดอัตราการเกิดมะเร็งผิวหนังจากแสงแดด
  3. ช่วยชลอความชราภาพของผิว ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น แตกลาย
  4. การให้ความชุ่มชื้นและ ลดความหยาบกร้านของผิวพรรณ

จะเห็นได้ว่า “วิตามิน อี (Vitamin E)” มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันผิวและช่วยบำรุงรักษาผิวและช่วยป้องกันอันตรายที่เกิด จากรังสีอุลตร้าไวโอเล็ตได้อีกด้วย

เอกสารอ้างอิง

  1. Malik M. Ph.D. et al. Curcumin, a nutritional supplement with antineoplastic activity, enhanced leiomyoma cell apoptosis and decreases fibronectin expression. Fertility and Sterility. 2009: Vol.91 No.5; 2177-2184.
  2. Bhupesh K. et al. Constitutive activation of transcription factor AP-1 in cervical cancer andsuppression of human papillomavirus (HPV) Transcription and AP-1 activity in Hela cells by curcumin. Int. J. Cancer.
  3. Mehta, K. et al. Antiproliferative effect of curcumin (Diferuloylmethane) against human brest tumor cell lines. Anticancer Drugs. 1997: Jun;8(5); 470-81.
  4. Shi M. et al. Antiproliferation and apoptosis induced by curcumin in human ovarian cancer cells. Cell Biol Int. 2006: Mar;30(3):221-6.

เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop

รหัสสินค้า : 41008

เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-03440-1-0072

ขนาด กxยxส : 5.5×5.5×10

น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.06

กิฟฟารีน เคอร์คิวมา ซี-อี (60 แคปซูล)

ส่วนประกอบสำคัญใน 1 แคปซูล:
ขมิ้นชันผง 300 มก.
กรดแอสคอร์บิก 20 มก.
วิตามินอี แอซีเทต 10 มก.
วิธีรับประทาน: รับประทานวันละ 1-3 แคปซูล พร้อมอาหาร

 

รีวิว

ยังไม่มีบทวิจารณ์

มาเป็นคนแรกที่วิจารณ์ “อาหารเสริม ขมิ้นชัน ผสม วิตามินซี และ วิตามินอี ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน เคอร์คิวมา ซี-อี (60 แคปซูล)”

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Shopping Cart
Scroll to Top