อาหารเสริม คอลลาเจน ผสม วิตามิน ซี ไลโคปีน และ ไลซีน ชนิดเม็ด กิฟฟารีน คอลลาเจน แมกซ์ (30 เม็ด)

คอลลาเจน (Collagen) คือ อะไร?

“คอลลาเจน (Collagen)” มีรากศัพท์มาจากภาษา “กรีก” คือ “คอลลา (Kola)” ซึ่งแปลว่า “กาว”

“คอลลาเจน (Collagen)” เป็น “โปรตีนชนิดหนึ่ง” ที่ประสานกันเป็น “เส้นใยอยู่ใต้ชั้นผิวหนังแท้” ทําหน้าที่เสริมความเรียบตึงให้แก่ผิวหนัง ทําให้ ผิวหนังดูเรียบ เนียน และทํางานคู่กับโปรตีนอีกชนิดหนึ่งที่ชื่อ “อีลาสติน (Elastin)”

ในขณะที่ “คอลลาเจน (Collagen)” มีหน้าที่เสมือน “โครงสร้างผิว” เจ้า “อีลาสติน (Elastin)” ก็ทํา หน้าที่ “ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิว” (อ้างอิงที่ 1)

“คอลลาเจน (Collagen)” เป็น “โปรตีนชนิดหนึ่ง” ซึ่งอยู่ “ใต้ชั้นผิวหนัง” มี ส่วนสําคัญที่ทําให้ผิวพรรณมีสุขภาพดี เป็นตัวช่วยสร้างความตึงกระชับ ให้กับผิว “ผิวหนัง” จะมีการเสื่อมสภาพได้ด้วยสาเหตุหลักๆ 2 ประการคือ

การเสื่อมตามวัย และเสื่อมเนื่องจากผลกระทบจากสภาวะแวดล้อม ทําให้มีผลกระทบต่อผิวพรรณ เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวหมองคล้ํา ไม่เต่งตึง

ที่สําคัญ คือ กลไกของความเสื่อมที่ทําให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นจากทั้งสอง สาเหตุนี้เกิดจาก “เส้นใยคอลลาเจน (Collagen fibers)” ที่ประสานกันเป็น เส้นใยอยู่ใต้ชั้นผิวหนังแท้มีการเสื่อมลง

คอลลาเจน จากปลา (Fish Collagen Peptide)

“คอลลาเจน จากปลา (Fish Collagen Peptide)” คือโปรตีนสกัดมาจากปลา มีลักษณะเป็นสายเกลียวที่มี หน่วยโมเลกุลเกี่ยวพันกันมากมาย มีหน้าที่เชื่อมต่อผสาน “เซลล์” ต่างๆ ไว้ด้วยกัน และเป็นส่วนประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (ได้แก่ ผิวหนัง กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อและเอ็น)

“คอลลาเจน (Collagen)” เปรียบเหมือนสปริงของผิวหนังที่ไปเสริมให้ผิวหนังเรียบตึง กระชับ มีความยืดหยุ่น และแข็งแรง โดย คอลลาเจน จากปลา ชนิด “ไดเปปไทด์” เป็นนวัตกรรมใหม่จากประเทศญี่ปุ่น ที่เกิดจาก การคัดสรรเฉพาะคู่ของกรดอะมิโนที่ร่างกายสามารถดูดซึม ได้ง่าย และน่าไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

มีหน้าที่ช่วยปรับ “โครงสร้างของผิวให้แข็งแรงและเรียบตึง” ไม่หย่อนคล้อย มีรูปทรงที่สวยงาม ช่วยเพิ่ม ความชุ่มชื้นเปล่งปลั่งให้กับ ผิวพรรณ ช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น หมองคลํา คงความอ่อนเยาว์ อยู่เสมอ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความ ยืดหยุ่นและลดการเสียดสีของข้อต่อต่างๆ ในร่างกาย ช่วยให้ ข้อต่อขยับหรือเคลื่อนไหวได้ อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ ของ คอลลาเจน (Collagen)

1. คอลลาเจน เป็นโครงสร้างที่ สําคัญของผิวหนัง ผิวหนังที่ เสื่อมจากวัยมีรอยย่นเกิดจากปริมาณคอลลาเจนในผิวหนังลดลง
2. ช่วยให้ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นกับผิว
3. ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์
4. ช่วยการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
5. ช่วยสร้างโปรตีนทุกชนิดใน ร่างกาย ทั้งกระดูกอ่อนของข้อและสร้างเคราตินของผม
6. ช่วยให้เลือดแข็งตัว ป้องกันไม่ให้ร่างกายเสียเลือดมากเกินไป
7. ช่วยบํารุงกระดูก ข้อ และผม

โรค หรือ ภาวะที่จะแนะนำ ในการใช้ คอลลาเจน(Collagen)

• ใช้ได้กับทุกคน
• ผู้สูงอายุ
• สตรีวัยทอง
• โรคข้อเข่าเสื่อม
• เพื่อการบํารุงผม
• นักกีฬา

ข้อห้าม ข้อควรระวัง ในการใช้ คอลลาเจน (Collagen)

• คอลลาเจน ท่าจากปลาทะเล ไม่ควรรับประทาน ในผู้ที่แพ้อาหารทะเลหรือปลาทะเล
• เด็กเล็ก และสตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์

หมายเหตุ

ควรรับประทานหลังอาหารเย็น จะน่าไปใช้ ประโยชน์ได้ดีที่สุด

ชั้นผิวหนัง ของเรา โดยปกติแล้วแบ่งเป็น กี่ชั้น กันนะ?

ชั้นผิวหนัง ของเรา โดpปกติแล้วแบ่งเป็น 3 ชั้น คือ

ชั้นหนังกําพร้า (Epidermis) เป็นผิวชั้นนอกสุด

ประกอบด้วยเซลล์ผิวหนัง (Keratinocyte) ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างสาร “เคราติน (keratin)” ปกคลุมผิวหน้าของผิวหนังเป็นชั้นขี้ไคล ชั้นหนังกําพร้านี้ทําหน้าที่รักษา ความชุ่มชื้นให้กับพื้นผิว ป้องกันเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย รักษาอุณหภูมิ ของร่างกายให้คงที่ (อ้างอิงที่ 2, 3)

ชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นผิวชั้นใน

ประกอบด้วยส่วนที่เป็นเส้นใย ประสานกันไปมาคือ โปรตีนเส้นใยของคอลลาเจน (Collagen fibers), โปรตีนเส้นใยอีลาสติก (Elastic fibers) และโปรตีนเส้นใยร่างแห (Rochl culum fibers) นอกจากนี้ยังมีกล้ามเนื้อ เส้นเลือด เส้นประสาทต่างๆ ที่รับ ความรู้สึกอยู่ด้วย (อ้างอิงที่ 2, 3)

ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutis) ทําหน้าที่รองรับผิวหนังให้คงรูปร่าง

ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutis) ทําหน้าที่รองรับผิวหนังให้คงรูปร่าง ช่วยลดการกระทบกระแทก และเป็นแหล่งพลังงานของร่างกายยามขาดแคลน พลังงาน (อ้างอิงที่ 2, 3)

ในวัยเด็ก “คอลลาเจน (Collagen)” ยังไม่เสื่อมสลายและมีจํานวนมาก จึงทําให้เห็นว่าเด็กๆ หรือวัยรุ่นที่กําลังแตกเนื้อหนุ่มสาวมีผิวหนังที่เต่งตึง

แต่เมื่อมีวัยมากขึ้น เส้นใย “คอลลาเจน (Collagen)” เหล่านี้จะเสื่อมสลายและมีปริมาณลดลง ทําให้ชั้น ผิวหนังยุบตัวลง อันเป็นต้นเหตุของความเหี่ยวย่นและริ้วรอย

อย่างไรก็ตาม เราสามารถเสริมสร้าง “คอลลาเจน (Collagen)” ให้แก่ร่างกายได้เพื่อลดรอยเหี่ยวย่น (อ้างอิงที่ 4) ด้วยการรับประทาน “คอลลาเจน (Collagen)” หรือวิธีการฉีด “คอลลาเจน (Collagen)” เข้าใต้ชั้นผิวหนัง แท้ แต่วิธีการฉีดนั้นค่อนข้างจะยุ่งยากเพราะต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้น วิธีการรับประทานจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด

สารอาหารที่ช่วยเสริมสร้าง คอลลาเจน และ สุขภาพผิวที่ดีมีอะไรบ้าง?

วิตามินซี (Vitamin C)

“วิตามินซี (Vitamin C)” เป็น “สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)” มีความจําเป็น ที่จะต้องใช้ในการเปลี่ยน “กรดอะมิโน (Amino Acid)” ชื่อ Proline เป็น Hydroxy Proline และ Lysion เป็น Hydroxylysine โดยทั้ง Hydroxyproline และ Hydroxylysine มีความสําคัญในการสร้าง “คอลลาเจน (Collagen)” (อ้างอิงที่ 5)

เป็นตัวสําคัญในกระบวนการสร้าง “คอลลาเจน (Collagen)” จาก “กรดอะมิโน (Amino Acid)” ให้กับผิว การขาด “วิตามินซี (Vitamin C)” อาจส่งผลทําให้ยับยั้งการสังเคราะห์คอลลาเจน (อ้างอิงที่ 6)

ประโยชน์ของ วิตามินซี (Vitamin C) ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

มีบทบาทในระบบ “ปฏิกิริยาไฮดร๊อกซิเลชั่น (Hydroxylation)” ของ “โพรลีน (Proline)” เพื่อสร้าง “คอลลาเจน (Collagen)” ซึ่งเป็นองค์ประกอบของกระดูก กระดูกอ่อน ฟัน และผนังเส้นเลือด ช่วยเพิ่มการดูดซึมของเหล็ก ถ้าขาดจะมีเลือดออกตามไรฟัน อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เหงือกบวม ฟันหลุดง่าย

1. มีส่วนช่วยในการทําหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
2. มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ
3. มีช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง
4. มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทํางานตามปกติของผิวหนัง

ประโยชน์ของ วิตามินซี (Vitamin C) ในผลิตภัณฑ์เสริมความงาม

นอกจาก “วิตามิน ซี (Vitamin C)” จะช่วยเรื่องสุขภาพและภูมิคุ้มกันของเราแล้ว ยังช่วยเรื่องผิวพรรณอีกด้วยไม่ว่าจะจากการรับประทานหรือจากการที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆนำไปผสมจนเป็นสารบำรุงผิวสามารถใช้ภายนอกได้

1. ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส วิตามินซีเองเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มี่อนุภาคเป็นกรด และมีฤทธิฺในการยั้งยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน จึงสามารถช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิวและบำรุงผิวให้กระจ่างใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ และปลอดภัยเมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสมอีกด้วย
2. ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจน วิตามินซียังช่วยในการสร้างและฟื้นฟูคอลลาเจนที่อยู่ในชั้นผิว ทำให้ผิวมีความตึงขึ้นข่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
3. เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ตัววิตามินซีเอง เมื่อนำมาเป็นสารบำรุงหน้าแล้ว มีสรระคุณในการควบคุมความมันและเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ในผิว ทำให้หน้าไม่แห้งและมีความฉ่ำมากขึ้น
4. กระชับรูขุมขน หน้าเรียบเนียน นอกจากจะช่วยในเรื่องฟื้นฟูคอลลาเจนแล้ว ด้วยคุณสมบัติในการควบคุมความมันของใบหน้า ทำให้ลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันในชั้นผิวหนัง ทำให้รูขุมขนที่กว้างเพราะผลิตน้ำมันมาก ดูเล็กลงจนใบหน้าดูเรียบเนียนผิวกระชับ
5. ช่วยลดรอยดำและรอยแดง จากคุณสมบัติของวิตามินซีที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ จึงช่วยเรื่องผลัดเซลล์ผิว จึงทำให้บริเวณที่มีรอยดำ หรือรอยแดงจากสิว จางลงเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ให้สีผิวเรียบเนียนเท่ากันมากขึ้น

โรค หรือ ภาวะที่จะแนะนำ ในการใช้ วิตามินซี

• เหมาะกับบุคคลทั่วไป
• ผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียเป็นประจํา

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ประโยชน์ของ ทับทิม มะเขือเทศ และ ไลโคปีน 

ไลโคปีน (Lycopene)

“ไลโคปีน (Lycopene)” เป็นสาร “แคโรทีนอยด์ ( Carotenoid)” ที่มีสีแดง พบได้ใน มะเขือเทศ และ ผลไม้ที่มีสีแดง

“ไลโคปีน (Lycopene)” เป็นสาร “แคโรทีนอยด์( Carotenoid)” ที่พบว่ามีปริมาณมากที่สุดในร่างกายมนุษย์ โดยมักพบอยู่ใน “ผนังเซลล์” และมีฤทธิ์เป็น “สารต้านอนุมูลอิสระ” ที่มี ประสิทธิภาพสูงกว่าสาร “แคโรทีนอยด์( Carotenoid)” อื่นๆ

“ไลโคปีน (Lycopene)” ช่วยลดความผิดปกติ และความเสื่อมของเซลล์อันเนื่องมาจากการทําลายของอนุมูลอิสระ จึงสามารถป้องกันเซลล์ในอวัยะต่างๆ ที่มีสาร “ไลโคปีน (Lycopene)” อยู่ (อ้างอิงที่ 7)

สามารถช่วยป้องกัน “โรคหัวใจ” ได้ ด้วยกลไกการยับยั้ง “อนุมูลอิสระ” ที่จะไป ทําลาย “LDL Cholesterol (ไขมันที่ไม่ดี)”

เพราะการที่ “LDL Cholesterol” ถูก “Oxidized (รวมตัวกับอ็อกซิเจน)” ด้วย “อนุมูลอิสระ” จะทําให้ดึง “เม็ดเลือดขาว” มาทําลาย “ผนังหลอดเลือด” ทําให้เกิดการอักเสบ

และ “ผนังหลอดเลือด” หนาตัวขึ้นกลายเป็น “Plaque” หรือ “ตะกอน” เกาะที่ “ผนังหลอดเลือด” ส่งผลทําให้ “หลอดเลือด” แข็ง ไม่ยืดหยุ่นและตีบ

มีงานวิจัยที่ชัดเจนในญี่ปุ่นพบว่า ผู้ที่มีระดับ “ไลโคปีน (Lycopene)” ในเลือดสูงจะลดอัตราการตายจากโรคหัวใจอย่างมีนัยสําคัญ (อ้างอิงที่ 8) ยับยั้งเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากของมนุษย์ (อ้างอิงที่ 9) อาจมีบทบาทในการช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่างๆ

โดยเริ่มมีงานวิจัยใน เรื่องนี้บ้างแล้ว แต่ยังมีข้อมูลจํากัด คือยังมีไม่มาก ได้แก่ มะเร็งต่อม ลูกหมาก (Prostate cancer) มะเร็งรังไข่ (Ovarian cancer) มะเร็งกระเพาะอาหาร (Gastric cancer) และมะเร็งตับอ่อน (Pancreatic cancers) (อ้างอิงที่ 10, 11)

ประโยชน์ ของ ไลโคปีน ( Lycopene )

1. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง
2. ช่วยบํารุงผิว ทําให้ผิวเนียนนุ่ม ป้องกันผิวเสียจากแสงแดด
3. ช่วยต้านมะเร็ง เช่น มะเร็งรังไข่ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งปอด
4. ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคกระดูกพรุนในผู้หญิงวัยทอง
5. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
6. ป้องกันและลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
7. ช่วยลดขนาดเนื้อร้ายในผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก
8. ช่วยหยุดการโตของต่อมลูกหมากในผู้ป่วยต่อมลูกหมากโต
9. เพิ่มปริมาณและคุณภาพของตัวอสุจิในชายที่มีบุตรยาก

โรค หรือ ภาวะที่จะแนะนำ ในการใช้ ไลโคปีน

• สุภาพบุรุษที่มีอายุมาก หรือมีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก หรือ ต่อมลูกหมากโต
• สุภาพสตรี เพราะไลโคปีนบํารุงผิวพรรณ จากกลไกการต้านอนุมูลอิสระ และช่วยโรคหัวใจ

ข้อห้าม ข้อควรระวัง ในการใช้ ไลโคปีน

• ห้ามในผู้ที่รับประทาน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาต้านเกล็ด เลือด เช่น แอสไพริน

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ประโยชน์ของ ทับทิม มะเขือเทศ และ ไลโคปีน

ไลซีน (Lysine)

“ไลซีน (Lysine)” เป็น “กรดอะมิโน จําเป็น (Essential amino acid)” หมายความว่าร่างกาย “สร้างเองไม่ได้” ต้องรับประทานเข้าไปจากอาหารเท่านั้น มีความจําเป็น และเป็นส่วนสําคัญในการสร้างโปรตีนทุกชนิดในร่างกาย

“ไลซีน (Lysine)” เป็นสารตั้งต้นในการสร้าง “ไฮดรอกซีโพรลีน Hydroxylysine” (องค์ประกอบในการสังเคราะห์คอลลาเจน) (อ้างอิงที่ 13) ซึ่งจําเป็นต่อ การสร้างคอลลาเจน

ดังนั้นจึงเป็นเหตุเป็นผลกันว่าการรับประทาน “ไลซีน (Lysine)” จะช่วยเสริมสร้าง “คอลลาเจน Collagen” โดย “ไลซีน (Lysine)” จะถูกเปลี่ยนเป็น “ไฮดรอกซีโพรลีน Hydroxylysine” ได้นั้น จําเป็นต้องมี “วิตามินซี (Vitamin C)” อยู่ด้วย (อ้างอิงที่ 5, 12) “ไลซีน (Lysine)” นิยมทําเป็นอาหารสุขภาพ ทั้งแยกเดี่ยวต่างหาก และใส่ร่วมใน อาหารสุขภาพชนิดอื่นๆ

ประโยชน์ของ ไลซีน (Lysine)

1. ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย
2. มีส่วนในการช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย
3. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ฮอร์โมน และเอนไซม์ต่าง ๆ ในร่างกาย
4. ช่วยให้ร่างกายนำกรดไขมันไปเผาผลาญเป็นพลังงาน
5. มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
6. ช่วยปรับสมดุลของระดับไนโตรเจน ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง
7. ช่วยป้องกันและรักษาโรคกระพรุน
8. ช่วยรักษาและบรรเทาปัญหาด้านการสืบพันธุ์บางประการ
9. ช่วยลดความถี่และป้องกันการเกิดโรคเริมหรือตุ่มใสที่ริมฝีปาก
10. มีส่วนช่วยรักษาโรคงูสวัด
11. ช่วยรักษาอาการจากหัวใจขาดเลือด

ข้อห้าม ข้อควรระวัง ในการใช้ ไลซีน

• ผู้สูงอายุโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพศชาย ร่างกายจะต้องการไลซีนมากกว่าผู้ที่อายุน้อย
• สำหรับผู้ที่รู้สึกเหนื่อย มีอาการเบื่อ ไม่มีสมาธิ มีอาการตาแดงเพราะเส้นเลือดฝอยแตก หรือมีอาการคลื่นไส้ วิงเวียน หรือผมร่วง หรืออยู่ในภาวะโลหิตจาง มีความเป็นไปได้ว่าร่างกายของคุณอาจขาดไลซีน
• ขนาดที่แนะนำให้รับประทานกันโดยทั่วไปคือประมาณ 1,000-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยรับประทานก่อนมื้ออาหารครึ่งชั่วโมง
• สำหรับผู้ที่เป็นโรคเริมควรรับประทานอาหารเสริมไลซีนในขนาดประมาณ 3,000-6,000 มิลลิกรัมต่อวันร่วมกับอาหารที่มีไลซีนสูงด้วย และในกรณีที่มีตุ่มน้ำใสหรือมีแผลพุพองที่ปากควรรับประทาน 500-1,000 มิลลิกรัมต่อวันในระหว่างมื้ออาหาร ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการกำเริบของโรคได้ดีมาก
• เด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบไม่ควรรับประทานไลซีนเสริมอาหาร นอกจากจะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ได้
• หญิงตั้งครรภ์หรือหญิงให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะรับประทานไลซีนเสริมอาหาร
• สำหรับผู้ที่ใช้ยาปฏิชีวนะไม่ควรรับประทานไลซีนเสริมอาหาร
• ผู้ที่มีปัญหาเรื่องตับหรือไตไม่ควรรับประทานไลซีนเสริมอาหาร

ทองแดง (Copper)

มีบทบาทสําคัญในการสร้าง “คอลลาเจน Collagen” และยังทํางานร่วมกับ “วิตามินซี (Vitamin C)” ในการสร้าง “อีลาสติน (Elastin)” (โปรตีนชนิดหนึ่ง) (อ้างอิงที่ 14) ซึ่งจะทําให้ผิวพรรณชุ่มชื้น นุ่มนวลและแข็งแรง

ผู้ชายสมัยนี้ เค้าดูแลตัวเองอย่างไร

5. เคล็ดลับดูดี หล่อขั้นเทพ เคล็ดลับดีๆ ที่ผู้ชายต้องแชร์

• แอสตาแซนธิน ลดริ้วรอย กิฟฟารีน แอสตา คิว พลัส แคโรทีนอยด์ 
• เซราไมด์ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ป้องกันผิวแห้ง มาทำความรู้จักกับเซราไมด์ กิฟฟารีน วีท เซราไมด์ พลัส
• ไลโคปีน ปกป้องผิวไม่ให้ถูกทําลายจากแสงแดด กิฟฟารีน ไลโคปีน
• สังกะสี (ชิงก์) ลดความันบนใบหน้า ลดการเกิดสิว กิฟฟารีน ซิงก์ แอนด์ คอลลาเจน
• คอลลาเจน ช่วยทําให้ผิวยืดหยุ่นได้ดี กิฟฟารีน คอลลาเจน แมกซ์

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ แอสตาแซนธิน และสารที่มีประโยชน์ กับ ริ้วรอยบนผิวหนัง

หุ่นปัง!! งาน Six pack ต้องมา

• เวย์ โปรตีน เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ กิฟฟารีน ไฮ เวย์ มารีน ดริ้งก์
• แอล-อาร์จินีน, แอล-ออร์นิทีน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยสร้าง ความแข็งแรงให้ร่างกาย กิฟฟารีน คอลลาเจน พลัสซิงก์
• ครีเอทินีน, แอล-คาร์นิทีน เพิ่มพลังงานแก่กล้ามเนื้อ เพิ่มความทนทานในการออกกําลังกาย กิฟฟารีน ฟิตต์-เอน-เฟิร์ม

คืนพลังหนุ่ม ฟื้นฟูความแข็งแรง

• ถั่งเช่า เสริมสร้างสมรรถภาพ ทางเพศและบํารุงร่างกาย ให้แข็งแรง กิฟฟารีน ถั่งเช่า
• โสม บํารุงหัวใจ, เสริมสมรรถภาพ ทางเพศในผู้ชาย กิฟฟารีน ทรีจี จินเส็ง

คู่ฮิต ฟิต และเฟิร์ม

เสริมกล้ามได้ง่ายๆที่คุณไม่ควรพลาด

ฮิต 1 คู่ฮิต…เสริมสร้างกล้ามเนื้อ

• กิฟฟารีน ไฮ เวย์ มารีน ดริ้งก์
• กิฟฟารีน ฟิตต์-เอน-เฟิร์ม

ฮิต 2 คู่ฮิต…เพื่อหุ่นเฟิร์มกระชับ

• กิฟฟารีน ไฮ เวย์ มารีน ดริ้งก์
• กิฟฟารีน ซิตริแม็กซ์
• กิฟฟารีน ซี แอล เอ-900

ฮิต 3 คู่อิต…..เพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย

• กิฟฟารีน ไฮ เวย์ มารีน ดริ้งก์
• กิฟฟารีน ซูปราวิต-เอ็ม
• กิฟฟารีน ซูปราวิต-ดับเบิ้ลยู