,

น้ำมัน บํารุงผิว ผสม น้ำมันมะกอก น้ำมันงา น้ำมันอาร์แกน และ สารสกัดจากทับทิม กิฟฟารีน กรานาดา ออยล์ ฟอร์ บิวตี้ (100 มล.)

390฿

น้ำมัน บํารุงผิว เพื่อความงาม ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ

น้ํามันเพื่อความงาม ช่วยเสริมประสิทธิภาพการกักเก็บความชุ่มชื้น ตามธรรมชาติของผิว ให้ผิวนุ่มนวล ไม่แห้งกร้าน ด้วยพลังการปรนนิบัติของน้ํามันและสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด

  • ปกป้องผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื้น ด้วย น้ำมันมะกอก Olive Oil, น้ำมันงา Sesame Oil, และ น้ำมันอาร์แกน Argan Oil อันอุดมไปด้วยวิตามิน อี และ Omega-6
  • คืนความเปล่งปลั่ง ตึงกระชับ ด้วยคุณค่าของสารสกัดจากผลทับทิม (Punica Granatum Extract)
  • ผ่อนคลายในทุกสัมผัส ด้วยกลิ่นหอมอันอ่อนหวาน

Availability: มีสินค้าอยู่ 20

รหัสสินค้า: 10712 หมวดหมู่: , ป้ายกำกับ:

น้ำมัน บํารุงผิว ผสม น้ำมันมะกอก น้ำมันงา น้ำมันอาร์แกน และ สารสกัดจากทับทิม กิฟฟารีน กรานาดา ออยล์ ฟอร์ บิวตี้ (100 มล.)

Giffarine Granada Oil for Beauty : Skin Care Oil Mix Olive Oil Sesame Oil Argan Oil and Pomegranate Extract (100 ml.)

น้ำมัน บํารุงผิว เพื่อความงาม ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ

น้ํามันเพื่อความงาม ช่วยเสริมประสิทธิภาพการกักเก็บความชุ่มชื้น ตามธรรมชาติของผิว ให้ผิวนุ่มนวล ไม่แห้งกร้าน ด้วยพลังการปรนนิบัติของน้ํามันและสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด

  • ปกป้องผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื้น ด้วย น้ำมันมะกอก Olive Oil, น้ำมันงา Sesame Oil, และ น้ำมันอาร์แกน Argan Oil อันอุดมไปด้วยวิตามิน อี และ Omega-6
  • คืนความเปล่งปลั่ง ตึงกระชับ ด้วยคุณค่าของสารสกัดจากผลทับทิม (Punica Granatum Extract)
  • ผ่อนคลายในทุกสัมผัส ด้วยกลิ่นหอมอันอ่อนหวาน

วิธีใช้ : หยดน้ํามันผสมกับครีมบํารุงผิว ก่อนลูบไล้ให้ทั่วเรือนร่าง หรือหยดเพียงเล็กน้อย ลูบไล้ให้ทั่วเรือนร่างหลังอาบน้ํา เช้า – เย็น นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นน้ํามันหอมสําหรับ นวดผ่อนคลาย ด้วยการลูบไล้ให้ทั่วเรือนร่าง แล้วนวดเบาๆ

น้ำมันอาร์แกน Argan Oil

น้ำมันอาร์แกน (Argan Oil) คือ น้ำมันที่ได้จากผลอาร์แกน (Argania spinosa) เป็นพืชที่เติบโตตามธรรมชาติเฉพาะบริเวณพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของโมร็อกโกเท่านั้น เป็นน้ำมันบริสุทธิ์จากธรรมชาติจนถูกขนานนามว่า “Miracle Oil” หรือ “Tree of Life” เพราะสามารถนำมาบำรุงได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า โดยวิธีการสกัดน้ำมันอาร์แกนจะเริ่มจากขูดเนื้อผลออกหลังนำไปตากแห้ง แล้วค่อยเก็บเมล็ดมาบีบให้แตกเพื่อนำเนื้อในมาใช้นั่นเอง

ภายในน้ำมันอาร์แกนจะอุดมไปด้วย วิตามิน อี (Vitamin E) ที่มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวและเส้นผม มีกรดไขมันโอเมก้า 9 (Oleic) และกรดไขมันโอเมก้า 6 (Linoleic) ในปริมาณที่เหมาะสม เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายและผิวบอบบาง เพราะสามารถช่วยลดการอักเสบของผิว รักษาสิว เพิ่มความชุ่มชื้น และเพิ่มประสิทธิภาพให้สกินแคร์ตัวอื่นๆ ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น

ประโยชน์ของ น้ำมันอาร์แกน Argan Oil
  1. โดดเด่นด้วยส่วนผสมของวิตามิน อี มากกว่า น้ำมันมะกอกถึง 5 เท่า ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้
  2. มีกรดไขมันดีในปริมาณที่พอเหมาะ ได้แก่ กรดไขมันไลโนเลอิก และ กรดไขมันโอเลอิก ช่วยป้องกันเซลล์ผิวจากสภาพแวดล้อมภายนอก ป้องกันไม่ให้ผิวแห้งและสูญเสียความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน พร้อมช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิว บำรุงผิวให้ผิวเปล่งปลั่ง
  3. มีสารสเตอรอล (Sterols) ที่ช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนัง รักษาแผล ฟื้นฟูเซลล์ผิว และต่อต้านการเกิดการผิดปกติของเซลล์ผิวได้ดี
  4. อุดมไปด้วย สควาเลน (Squalane) ที่ช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง มีเกราะคุ้มกันรังสียูวีจากแสงแดด และฟื้นฟูผิวที่โดนแสงแดดเผาได้กลับมามีสุขภาพดีดังเดิม

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ น้ำมันมะกอก กับการดูแลผิวพรรณ และ หลอดเลือดหัวใจ

ประโยชน์ของ น้ำมันมะกอก กับ ผิวพรรณ และ เส้นผม

“น้ำมันมะกอก” เป็น น้ำมันที่ให้ประโยชน์มากกว่าโทษ หลายคนจึงนิยมนำมาใช้ประกอบอาหาร รวมถึงนำมาใช้บำรุงผิวพรรณและเส้นผมอีกด้วย เรียกได้ว่าน้ำมันมะกอกมีประโยชน์แบบ 2 in 1 กันเลยทีเดียว สำหรับประโยชน์ของน้ำมันมะกอกในด้านความงามมีดังต่อไปนี้

  1. ช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวย น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยวิตามิน B และวิตามิน E ที่จะช่วยบำรุงผมคุณได้อย่างล้ำลึก เพิ่มความนุ่มสลวยและทำให้ผมแข็งแรง ไม่เปราะหรือขาดง่าย โดยน้ำมันมะกอกจะซึมเข้าไปในแกนผมและช่วยรักษาความชุ่มชื้น ความเงางาม ทำให้ผมดูเรียบขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผมแห้งเสีย ชี้ฟู หรือผู้ที่ผมเสียจากการทำสีผม นอกจากนี้น้ำมันมะกอกยังช่วยขจัดรังแค และยังช่วยให้ผมดกดำอีกด้วย
  2. ช่วยดูแลปัญหาสิว น้ำมันมะกอกยังสามารถใช้รักษาสิวได้อีกด้วย เนื่องจากในน้ำมันมะกอกมีสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียตามธรรมชาติ จึงสามารถป้องกันแบคทีเรียตัวก่อให้เกิดสิวบนใบหน้าได้ นอกจากนี้น้ำมันมะกอกยังป้องกันการอักเสบ และอาการบวมแดงของสิวได้ด้วย
  3. ช่วยบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว หากคุณมีผิวแห้งกร้าน น้ำมันมะกอกสามารถช่วยบำรุงผิวคุณให้กลับมาชุ่มชื้น ดูสุขภาพดีได้ น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินอี วิตามินดี และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยเติมเต็มน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวได้อย่างล้ำลึก ซึมซาบเร็ว และกักเก็บความชุ่มชื้น เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ผิวพรรณของคุณก็จะค่อย ๆ กลับมานุ่มชุ่มชื้นอย่างแน่นอน
  4. ช่วยบำรุงเล็บให้แข็งแรง เราสามารถใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์มาเป็นส่วนผสมเพื่อใช้บำรุงเล็บและมือของเราได้ด้วย โดยนำไปผสมกับผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอื่น ๆ เช่น น้ำมันมะนาว น้ำผึ้งสด น้ำตาล เป็นต้น เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่นให้กับเล็บ น้ำมันมะกอกจะช่วยบำรุงให้เล็บฉีกขาดน้อยลง ไม่เป็นขุยหรือเล็บลอก แถมยังช่วยคืนความนุ่มให้กับมือของเราด้วย
  5. ใช้ล้างเครื่องสำอางได้หมดจด น้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันที่สามารถใช้เช็ดล้างเครื่องสำอางได้อย่างสะอาดหมดจด รวมถึงยังอ่อนโยนต่อผิวหน้าอีกด้วย โดยเฉพาะผิวบริเวณรอบดวงตาที่มีความบอบบาง ต้องอาศัยความระมัดระวังในการล้างออก การใช้น้ำมันมะกอกผสมกับน้ำอุ่นจะช่วยล้างพวกมาสคาร่า หรืออายไลน์เนอร์ที่เกาะติดแน่นได้ดี อีกทั้งยังลดการทำร้ายผิวบริเวณรอบดวงตาอีกด้วย
  6. ช่วยป้องกันการเสียดสีจากการโกนขน ก่อนที่คุณจะเริ่มโกนขนบริเวณแขน ขา ให้ชโลมน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์จนทั่วก่อน จากนั้นจึงค่อย ๆ โกนขนอย่างเบามือ โดยน้ำมันมะกอกจะช่วยลดการเสียดสีของผิว ไม่ให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองในระหว่างที่โกนขน นอกจากนี้น้ำมันมะกอกจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นหลังโกนขน ไม่แห้ง และคันน้อยลง
  7. ช่วยบำรุงริมฝีปากให้นุ่ม ชุ่มชื้น น้ำมันมะกอกสามารถช่วยบำรุงให้ปากนุ่มชุ่มชื้นด้วยนะ โดยนำน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์มาผสมกับน้ำตาลทรายเล็กน้อย พร้อมกับเติมน้ำมะนาวสักนิดและเติมน้ำอุ่นลงไป เพื่อนำไปพอกกับริมฝีปาก กรดจากน้ำมันมะกอกและน้ำมะนาวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วพร้อมเผยผิวปากที่เนียนนุ่มและชุ่มชื้น
  8. ช่วยลดปัญหาริ้วรอย และรอยแผลเป็น นำน้ำมันมะกอกมาแต้มบริเวณริ้วรอยจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว รวมถึงนำมานวดบริเวณรอยแผลเป็นเล็กน้อย ประมาณ 5 นาที จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วค่อยล้างออก วิตามินและแร่ธาตุในน้ำมันมะกอกจะช่วยให้เซลล์ผิวทำงานได้ดีขึ้น สร้างผิวใหม่ขึ้นมา ทำให้รอยแผลเป็นค่อย ๆ จางลง
  9. ช่วยในการบำรุงส้นเท้าแตก น้ำมันมะกอกโดดเด่นในเรื่องเพิ่มการชุ่มชื้นเป็นอย่างมาก จึงเหมาะกับการนำมาบำรุงส่วนที่แห้งแตกหรือแห้งกร้าน อย่างส้นเท้าแตกและตาตุ่มด้าน โดยนำน้ำมันมะกอกมานวดบริเวณที่แห้งกร้านและพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที โดยไม่ต้องล้างออก ทำเป็นประจำทุกวัน ส่วนที่แห้งกร้านจะค่อย ๆ เนียนและชุ่มชื้นขึ้น
  10. นำมาเป็นส่วนผสมในการมาส์กหน้า การนำน้ำมันมะกอก มาเป็นส่วนผสมในการมาส์กหน้า จะมีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้ เช่น นำมาผสมกับทานาคาหรือขมิ้นแล้วพอกทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที นอกจากจะได้เรื่องความเนียนนุ่มชุ่มชื้นแล้ว ผิวยังใสอีกด้วย หากทำเป็นประจำก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องความหมองคล้ำได้ นอกจากนี้น้ำมันมะกอกยังสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวอีกด้วย เพราะน้ำมันมะกอกไม่ทำให้เกิดการอุดตัน
ประโยชน์ของ กรดไขมันโอเมก้า 9 ในน้ำมันมะกอก Extra Virgin Olive Oil
  1. ดีที่สุดในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และผม เพราะไขมันที่ผิวหนัง และเส้นผมมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับกรดไขมันโอเมก้า 9 มากที่สุด
  2. ปรับสมดุลของกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6
  3. ปกป้องไขมันจากการจู่โจมของสารอนุมูลอิสระเท่ากับปกป้องทุกเซลล์ของร่างกายเพราะในทุกเซลล์มีไขมันเป็นส่วนประกอบ
  4. ลดการอักเสบ ลดการหดตัวของหลอดเลือดและหลอดลม
  5. ลดไขมันชนิดเลว ( LDL) เพิ่มไขมันชนิดดี ( HDL)
  6. ป้องกันโรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต มะเร็ง ฯลฯ

ประโยชน์ของ น้ำมันงา Sesame Oil
  1. ช่วยต้านการอักเสบ ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคข้อกระดูกอักเสบ โรคข้อเสื่อม สารเซซามิน ในน้ำมันงาดำ ช่วยยับยั้งไอแอลวันเบต้า (Interleukin-1 Beta, IL-1 Beta) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการทำให้กระดูกอ่อนสลาย ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ โรคเบาหวาน ฯลฯ ช่วยในการกำจัดสารพิษของตับทำให้ตับทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะในน้ำมันงาดำยังมีวิตามินอี กรดไขมันโอเมก้า 3 ธาตุสังกะสี ทองแดง ฯลฯ ที่ช่วยต้านการอักเสบได้ดี
  2. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ในน้ำมันงาดำประกอบไปด้วยสารเซซามิน วิตามินอี ธาตุสังกะสี วิตามินบี 1, 2, 3, 5, 6, 9 ทองแดง ไอโอดีน ใยอาหาร ฯลฯ ซึ่งสำคัญต่อการช่วยต้านอนุมูลอิสระ
  3. ช่วยเสริมในการทำงานของวิตามินอี ทำให้ชะลอความชรา ไม่แก่เร็ว ไม่ป่วยเป็นโรคร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก เนื่องจากมีสารเซซามิน ธาตุสังกะสี ฯลฯ ที่ช่วยเสริมการทำงานของวิตามินอีให้ดียิ่งขึ้น
  4. ลดปฏิกิริยาความเครียดระดับเซลล์ในเนื้อเยื่อต่างๆ ทำให้คลายเครียด นอนหลับสบาย ส่งผลให้ระบบการทำงานในร่างกายดีขึ้นโดยรวม โดยสารเซซามิน โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุสังกะสี แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฯลฯ ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในน้ำมันงาดำจะไปช่วยคลายความเครียดและกระตุ้นการทำงานในเนื้อเยื่อต่างๆ
  5. ช่วยลดการดูดซึมและการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ป้องกันโรคหัวใจ ทำให้ระบบหัวใจแข็งแรง ช่วยกระตุ้นประสาทเรื่องการหดตัวของกล้ามเนื้อและการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้เป็นไปอย่างปกติ เนื่องจากสารสำคัญในน้ำมันงาดำ เช่น สารเซซามิน กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน กรดไขมันโอเมก้า 3 กรดไขมันไลโนเลอิก กรดไขมันโอเมก้า 9 ฯลฯ มีส่วนช่วยในการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล
  6. ช่วยในการเผาผลาญสลายไขมัน ลดความอ้วนแบบธรรมชาติ ปลอดภัย เสริมสร้างกล้ามเนื้อให้กระชับ โดยในน้ำมันงาดำมีสารเซซามิน ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ฯลฯ ที่ช่วยในการเผาผลาญสลายไขมัน
  7. ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ในระบบประสาท ทำให้สมองทำงานดี ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ความจำเสื่อม เพราะมีสารสำคัญอย่างเซซามิน ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม ฯลฯ ที่ช่วยป้องกันการเสื่อมของระบบประสาท
  8. ทำให้ระดับไขมันอยู่ในสัดส่วนที่พอดี ช่วยดูแลเกี่ยวกับเรื่องของอัตราส่วนของไขมันในร่างกาย ลดปริมาณของอเลสเตอรอล มีไขมันดีมากขึ้น ป้องกันโรคหัวใจ ลดความดันโลหิตสูงได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากสารสำคัญในน้ำมันงาดำ เช่น สารเซซามิน กรดไขมัน โอเมก้า 3 กรดไขมันไลโนเลอิก กรดไขมันโอเมก้า

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ประโยชน์ของ ทับทิม มะเขือเทศ และ ไลโคปีน

ผลิตภัณฑ์คุณภาพจากทับทิม อัญมณีแห่งผลไม้ กรานาดา ซีรี่ย์ Granada

เติมความสดชื่น คืนความสดใส ตราบนานเท่านาน ด้วยพลังการบํารุง ทั่วเรือนร่างของสารสกัดจากทับทิม ผลไม้แห่งความงามที่อุดมไปด้วยอาหารผิว ทั้งยังช่วยปกป้องผิวจากการทําลายของอนุมูลอิสระ

“ทับทิม” เป็นผลไม้ที่สวยงาม และมีกลิ่นหอมมาก “ทับทิม” สามารถปลูกได้ในประเทศไทย แต่ที่แท้จริงเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากเปอร์เซีย (ประเทศอิหร่านในปัจจุบัน) ทับทิม เป็นผลไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ในประวัติศาสตร์ พบว่าได้มีการนำทับทิมมาทำเป็นยารักษาโรคตั้งแต่ 8,000 ปีมาแล้ว

สรรพคุณของ ทับทิม
  1. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสมีน้ำมีนวล
  2. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยในการชะลอวัยให้ดูอ่อนวัย
  3. น้ำทับทิมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึงมีน้ำมีนวล ด้วยการนำน้ำทับทิบมาทาหน้า
  4. ช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด
  5. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรง บรรเทาอาการหวัด
  6. น้ำทับทิมช่วยเพิ่มความสดชื่น แก้กระหาย คลายร้อนได้เป็นอย่างดี
  7. ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์
  8. ช่วยในการปรับฮอร์โมนวัยทอง
  9. ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ
  10. ช่วยในการบำบัดอาการของโรคเบาหวาน
  11. ช่วยบำรุงสายตา
  12. ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ
  13. ช่วยบำรุงสุขภาพฟันให้แข็งแรง
  14. ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
  15. ช่วยลดความดันโลหิตสูง
  16. ช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด
  17. ช่วยในการฟอกไตและท่อปัสสาวะ
  18. ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูง
  19. มีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
  20. ช่วยบำรุงสุขภาพตับให้แข็งแรง
  21. มีส่วนช่วยบำรุงและต่อต้านอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย
  22. เปลือกทับทิมสามารถรักษาโรคท้องเดินและโรคบิดได้ เพราะมีสารในกลุ่มแทนนินอยู่ในปริมาณมาก
  23. เปลือกทับทิมมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ
  24. เปลือกผลช่วยรักษาแผลหิด กลากเกลื้อน
  25. เปลือกของทับทิมช่วยต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
  26. ยาต้มจากเปลือกผลช่วยรักษาอาการอุจจาระร่วงได้ โดยช่วยลดจำนวนครั้งในการขับถ่ายและทำให้ระยะเวลาเริ่มถ่ายครั้งแรกนานขึ้น
  27. ดอกทับทิมใช้ห้ามเลือดได้ ด้วยการนำดอกแห้งมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาทาหรือโรยใส่บริเวณบาดแผล
  28. ดอกทับทิมช่วยแก้อาการหูชั้นในอักเสบ
  29. ช่วยลดปัญหาผมร่วง โดยการทาที่ศรีษะ
  30. ทับทิมช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้มากกว่า 13 ชนิด โดยช่วยให้เซลล์มะเร็งไม่เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ เป็นต้น
  31. ช่วยในการทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่

  1. ลดการเกิดตะกอน “Plaque (คราบจุลินทรีย์)” ในเส้นเลือด
  2. ยับยั้งและทําลายเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลําไส้ใหญ่และมะเร็งเม็ดโลหิตขาว HL 60 ของคนได้
  3. มีสารต้านอนุมูลอิสระมาก
  4. บํารุงตับ
  5. มีงานวิจัยในผู้ป่วยเบาหวานว่า ช่วยลดภาวะไขมันในเลือดสูง หรือผิดปกติ อาจช่วยลด ความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจในเบาหวาน
  1. มีวิตามินซีและคอลลาเจนสูงมาก จึงช่วยบำรุงผิวให้ดูกระจ่างใสและเปล่งปลั่ง
  2. มีสาร Anthocyanin และ Hydrolysable ที่จะช่วยป้องกันอนุมูลอิสระไปทำลายเซลล์ผิว ฟื้นฟูสภาพผิวและช่วยให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ชะลอการเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
  3. บรรเทาอาการผิวไหม้ ลดอาการอักเสบของผิวจากแสงแดด และมีสารป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตที่ช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ
  4. ด้วยโครงสร้างโมเลกุลขนาดเล็กของสารสกัดจากทับทิม จะช่วยให้ซึมซับลงสู่ผิวได้ง่าย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวมีสุขภาพดี
  5. ช่วยในการลดฝ้า กระ จุดด่างดำจากสิวให้จางหาย เพราะทับทิมเป็นแหล่งรวมวิตามินเอ ซี ดี อี และ AHA Complex ซึ่งเป็นกรดผลไม้ที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยน

ถึงแม้ว่า สารสกัดทับทิม จะมีประโยชน์อย่างมากในด้านของผิวพรรณ แต่ความจริงแล้ว สารสกัดทับทิม นั้นยังมีประโยชน์มีมากมายแฝงอยู่ โดยเฉพาะการดูแลเส้นผม ซึ่งมีประโยชน์ดังนี้

  1. ช่วยเสริมสร้างรูขุมขน ในเมล็ดทับทิมนั้นมีกรดพูนิซิคที่ช่วยทำให้รูขุมขนแข็งแรงขึ้น และยังทำให้เลือดไหลเวียนไปที่หนังศีรษะอย่างเหมาะสมอีกด้วย และยังช่วยในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม โดยการดึงน้ำมันตามธรรมชาติในเส้นผมออกมาและป้องกันผมขาดร่วง นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากยังส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมและช่วยป้องกันการหลุดร่วงของเส้นผม
  2. ช่วยรักษาผมแห้งและชี้ฟู น้ำมันทับทิมจะช่วยบำรุงหนังศีรษะและเส้นผมอย่างล้ำลึก ทำให้ผมดูนุ่มสลวย จัดทรงง่าย และมีสุขภาพดี และช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่หนังศีรษะที่แห้งและระคายเคืองมาก
โรค หรือ ภาวะที่จะแนะนำ ในการใช้ สารสกัดจากทับทิม (Pomegranate Extract)
  • โรคตับ
  • โรคหัวใจ
  • อัมพาต อัมพฤกษ์
  • มะเร็งเต้านม
  • โรคเบาหวาน
  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลําไส้
ข้อห้าม ข้อควรระวัง ในการใช้ ทับทิม
  • น้ําทับทิม ห้ามใน โรคล้างไตฟอกเลือด (ทานชนิดเม็ดได้) แต่ถ้าเป็นโรคตับรุนแรง (SGOT, SGPT มากกว่า 40 IU) แนะนําน้ําทับทิม และห้ามชนิดเม็ด
  • โรคเบาหวาน รับประทานน้ําทับทิมได้ ในปริมาณไม่มาก แต่ถ้ามีระดับน้ําตาลในเลือดสูง แนะนําให้รับประทาน ทับทิม ชนิดเม็ดจะดีกว่าชนิดน้ํา
  • ในสัตว์ทดลองมีรายงานว่า อาจจะ ทําให้ความดันต่ํา เมื่อทานกับยาลด ความดันบางชนิดจึงควรระวังความดันต่ำ ในคนด้วย

หมายเหตุ

  • น้ําทับทิม เมื่อเปิดใช้ ต้องใส่ตู้เย็นเสมอ เพราะไม่มีสารกันบูดจะเสียได้ง่าย
  • ในผู้ป่วย เบาหวาน การรับประทานน้ําทับทิมมากๆ ทําให้น้ําตาลใน เลือดสูงได้
  • น้ําทับทิม เป็นน้ําผลไม้ บํารุงตับ ไม่จัดเป็น สมุนไพร
  • ทับทิมชนิดเม็ด มีส่วนที่ทําจากเปลือกทับทิมด้วย จึงจัดเป็นสมุนไพร และห้าม รับประทานในผู้ที่ตับอักเสบมาก คือมีค่า เอนไซม์ SGOT SGPT มากกว่า 40 IU
  1. ช่วยในการลดฝ้า กระ จุดด่างดำจากสิวให้จางหาย เพราะทับทิมเป็นแหล่งรวมวิตามินเอ ซี ดี อี และ AHA Complex ซึ่งเป็นกรดผลไม้ที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยน

เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop

รหัสสินค้า : 10712

เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-6400028684

ขนาด กxยxส : 5.5x13x13.5

น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.13

รีวิว

ยังไม่มีบทวิจารณ์

มาเป็นคนแรกที่วิจารณ์ “น้ำมัน บํารุงผิว ผสม น้ำมันมะกอก น้ำมันงา น้ำมันอาร์แกน และ สารสกัดจากทับทิม กิฟฟารีน กรานาดา ออยล์ ฟอร์ บิวตี้ (100 มล.)”

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Shopping Cart
Scroll to Top