วิตามิน อี บริสุทธิ์จากธรรมชาติ ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ยกเว้น ผิวมัน กิฟฟารีน เนเชอรัล อี (35 มล.)

วิตามิน อี บริสุทธิ์จากธรรมชาติ กิฟฟารีน เนเชอรัล อี (35 มล.)

Giffarine Natural E : Pure Natural Vitamin E (35 ml.)

บํารุงได้ทุกจุด ทั่วใบหน้า และทั่วเรือนร่าง

วิตามิน อี บริสุทธิ์จากธรรมชาติ ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นอย่างล้ําลึกให้ผิวพรรณที่แห้งกร้าน บํารุงได้ทุกจุดทั่วใบหน้าและทั่วเรือนร่าง ทั้งยังเป็นเสมือนเกราะต้านอนุมูลอิสระและรังสียูวี ซึ่งเป็นตัวการของริ้วรอย ผิวจึงคงความเนียนนุ่ม กระชับ สดใส สามารถใช้แทนครีมบํารุงผิวรอบดวงตา และไนท์ครีมได้เป็นอย่างดี ใช้ได้กับทุกสภาพผิว *ยกเว้นผิวมัน

วิธีใช้ : ลูบไล้ทั่วใบหน้า รอบดวงตาหรือจุดแห้งกร้านที่ต้องการบํารุง

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ สําหรับผิวหน้า ให้เหมาะสมกับความต้องการของผิว

หลักการใช้ผลิตภัณฑ์ ถนอมผิวรอบดวงตา

1. วอร์มผลิตภัณฑ์ก่อนใช้เสมอ ตักผลิตภัณฑ์ลงบนฝ่ามือ และ ใช้นิ้วมืออีกข้างนวดวนเพื่อให้ เนื้อครีมอุ่นขึ้น จนเนื้อครีมมีสีจางลง และมีความข้นลดลง
2. วิธีการทา ใช้นิ้วนางแตะผลิตภัณฑ์ลงบนผิวบริเวณใต้ดวงตา เริ่มจากหัวตา บริเวณที่ชิดกับจมูก แล้วกดเบาๆ นวดวนไล่มาทางหางตา ในทิศทางยกโครงสร้างผิวขึ้น อย่าให้ผลิตภัณฑ์เข้าตา

หลักการใช้ผลิตภัณฑ์ ถนอมผิวชนิดชะลอริ้วรอย

1. ควรวอร์มผลิตภัณฑ์ก่อนทาผิวเสมอ เริ่มจากตักแบ่งหรือปั๊มผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่พอเหมาะ ลงบนฝ่ามือ และ ใช้นิ้วมืออีกข้างนวดวนเพื่อให้ เนื้อครีมอุ่นขึ้น จนเนื้อครีมมีสีจางลง และมีความข้นลดลง
2. วิธีการทา ใช้นิ้วมือลูบไล้ผลิตภัณฑ์แตะลงบนผิว เริ่มจากบริเวณกึ่งกลางใบหน้า นวดเบาๆ วนเป็นวงกลมไล่ออกสู่กรอบหน้า ในทิศทางยกโครงสร้างผิวขึ้น

หลักการใช้ผลิตภัณฑ์ ถนอมผิวชนิดยกกระชับ

ควรวอร์มผลิตภัณฑ์ก่อนทาผิวเสมอ เริ่มจากตักแบ่งหรือปั๊มผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่พอเหมาะ ลงบนฝ่ามือ และ ใช้นิ้วมืออีกข้างนวดวนเพื่อให้ เนื้อครีมอุ่นขึ้น จนเนื้อครีมมีสีจางลง และมีความข้นลดลง

วิธีการทา

1. ใช้นิ้วลูบไล้ผลิตภัณฑ์บริเวณหน้าผาก ลูบไล้ขึ้นไปที่แนวไรผม แล้วนวดเบาๆ จากหว่างคิ้วถึงขมับ ยกค้างไว้ชั่วครู่
2. แตะผลิตภัณฑ์บริเวณแก้มด้านใน ลูบไล้ออกไปที่โหนกแก้ม ยกค้างไว้ชั่วครู่
3. แตะผลิตภัณฑ์บริเวณใต้คาง ลูบไล้อย่างเบามือขึ้นไปที่หางตา แล้วยกค้างไว้ชั่วครู่
4. แตะผลิตภัณฑ์บริเวณมุมปาก กดเบาๆ เพื่อยกมุมปาก แล้วลูบไล้ออกไปทางจอน ยกค้างไว้ชั่วครู่
5. แตะผลิตภัณฑ์ที่ปลายคางลูบไล้ไปตามแนวขากรรไกรจนถึงติ่งหู ยกค้างไว้ชั่วครู่
6. แตะผลิตภัณฑ์บริเวณลําคอ ใช้ปลายนิ้วนวดจากบริเวณไหปลาร้า ขึ้นมาที่แนวขากรรไกรทีละด้าน จนทั่วลําคอ

ขั้นตอนแห่งการผ่อนคลายผิวหน้า

ควรวอร์มผลิตภัณฑ์ก่อนทาผิวเสมอ เริ่มจากตักแบ่งหรือปั๊มผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่พอเหมาะ ลงบนฝ่ามือ และ ใช้นิ้วมืออีกข้างนวดวนเพื่อให้ เนื้อครีมอุ่นขึ้น จนเนื้อครีมมีสีจางลง และมีความข้นลดลง

วิธีการทา

1. แต้มผลิตภัณฑ์บริเวณใต้ตา แล้วนวดวนเบาๆ บริเวณหัวตาไปหางตา พร้อมกดเบาๆ เพื่อยกหางตาขึ้น
2. แต้มผลิตภัณฑ์แล้วลูบไล้ไปตามสันจมูกขึ้นไปจนถึงหัวคิ้ว โดยคลึงเบาๆ เพื่อผ่อนคลายริ้วรอยบริเวณหัวคิ้ว
3. แต้มผลิตภัณฑ์บริเวณกึ่งกลางหน้าผาก แล้วลูบไล้ไล่ขึ้นไปสู่แนวไรผม และนวดเบาๆ จากระหว่างคิ้วจนถึงขมับ พร้อมยกค้างไว้สักครู่ เพื่อยกกระชับผิว
4. แต้มผลิตภัณฑ์บริเวณร่องแก้มและมุมปาก แล้วนวดวนเบาๆ เพื่อผ่อนคลายผิว (ควรใช้ร่วมกับเฟซ คอนทัวร์ แอพพลิเคเตอร์)
5. แต้มผลิตภัณฑ์บริเวณแก้มด้านใน แล้วลูบไล้ออกไปที่โหนกแก้ม ยกค้างไว้ชั่วครู่ ทําจนทั่วใบหน้า

เพื่อการบํารุงผิวบริเวณที่แห้งหรือมีริ้วรอยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผิวรอบดวงตา หลังจากบํารุงด้วยซีรั่ม สามารถใช้ กิฟฟารีน แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง เฟเชียล ครีม เพิ่มเติมได้ทั้งเช้าและก่อนนอน

วิตามิน (Vitamin) คืออะไร?

“วิตามิน (Vitamin) คือ สารอินทรีย์” ที่มีความจำเป็นต่อร่างกายของเราทุกคน โดยเป็น “ตัวช่วยในการทำให้ระบบต่างๆ” ภายในร่างกายเกิดความสมดุลขึ้น ตลอดจนเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย และเสริมสร้างสุขภาพที่ดีภายในร่างกายขึ้น

ที่สำคัญคือ “ร่างกายของเราไม่สามารถผลิตหรือสังเคราะห์วิตามินขึ้นได้เอง” จึงจำเป็นต้องได้รับสารอาหาร จากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละมื้อ หรือการได้รับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเข้าไปเพื่อทดแทนวิตามินที่ร่างกายเราขาดไป

การมีสุขภาพดีเป็นที่ต้องการของทุกคน ส่วน “วิตามิน (Vitamin)” กับเรื่องความสวยงามมีการศึกษาวิจัยว่า การใช้ “วิตามิน (Vitamin)” ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันและซ่อมแซมการสึกหรอของเส้นผม ผิว และเล็บได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “วิตามิน (Vitamin)” ที่ช่วยป้องกัน ช่วยยืดเวลา และยับยั้งการเสื่อมสภาพของผิว ช่วยชลอความแก่ ช่วยลดการเกิดริ้วรอยตีนกา

“วิตามิน (Vitamin)” ที่เป็นส่วนผสมในครีมและโลชั่นทาผิวจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นในการบำรุงผิว ซึ่งเป็นคุณสมบัติตามธรรมชาติของ “วิตามิน (Vitamin)” เอง

“วิตามิน (Vitamin)” ที่เป็นที่นิยมใช้กันมากในเครื่องสำอางมีหลายชนิด แต่ที่จะกล่าวถึงในวันนี้คือ “วิตามิน อี (Vitamin E) {Tocopherol}” ซึ่งมีบทบาทและคุณบัติหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อผิว จากการศึกษาอย่างกว้างขวาง

วิตามิน อี (Vitamin E)

“วิตามิน อี (Vitamin E)” เป็น “สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)” ป้องกันการแตกสลายของเยื่อหุ้มเซลล์ ทําให้เม็ดเลือดแดง ไม่แตกง่าย และจําเป็นต่อการเจริญและพัฒนาต่อเซลล์ประสาท

“วิตามิน อี (Vitamin E)” เป็น “สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)” ซึ่งจะไป “ทำให้เป็นกลาง (Neutralized)” ของการเกิด “อนุมูลอิสระ (Free radicals)” ดังนั้น “วิตามิน อี (Vitamin E)” เป็น สิ่งสำคัญในการดูแลรักษาผิว

มีการศึกษาวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า “วิตามิน อี (Vitamin E)” ช่วยลด “โรคสะเก็ดเงินเกิดผื่นแดง (Psoriasis erythema)” และช่วยลดการเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนัง ช่วยรักษาแผลเป็น และช่วยลดริ้วรอยบนผิว

และจากการศึกษาพบว่า ผิวหนังในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น ใบหน้า จะมีปริมาณของ “วิตามิน อี (Vitamin E)” มากกว่าบริเวณแขนถึง 20 เท่า เนื่องจากต่อมไขมัน เป็นช่องทางที่สำคัญ ในการหลั่ง “วิตามิน อี (Vitamin E)” ออกสู่ผิวหนัง

ประโยชน์ของ วิตามิน อี

ประโยชน์ของการใช้ ผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของ วิตามิน อี ในการป้องกันและรักษาผิวพรรณ

1. ช่วยลดอัตราการทำลายของแสงแดด ที่ทำให้เกิดรอยแดง
2. ลดอัตราการเกิดมะเร็งผิวหนังจากแสงแดด
3. ช่วยชลอความชราภาพของผิว ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น แตกลาย
4. การให้ความชุ่มชื้นและ ลดความหยาบกร้านของผิวพรรณ

จะเห็นได้ว่า “วิตามิน อี (Vitamin E)” มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันผิวและช่วยบำรุงรักษาผิวและช่วยป้องกันอันตรายที่เกิด จากรังสีอุลตร้าไวโอเล็ตได้อีกด้วย

การใช้ “วิตามิน อี (Vitamin E)” เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางจะได้ผลดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปริมาณ “วิตามิน อี (Vitamin E)” ที่ผสมอยู่ในเครื่องสำอาง ปริมาณ “วิตามิน อี (Vitamin E)” ที่ใช้เป็นส่วนผสมในครีมบำรุงจะต้องมีปริมาณความเข้มข้นที่ เหมาะสม เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่

เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop

รหัสสินค้า : 15001

เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 10-1-6100007917

ขนาด กxยxส : 4x13x4

น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.16