,

อาหารเสริม เม็ดอมกลิ่นส้ม ผสม วิตามินซี วิตามินบีรวม และ โคลีน กิฟฟารีน เซเว่น บี พลัส ไฮ ซี แอนด์ โคลีน (40 เม็ด)

220฿

อร่อย ทานง่าย ได้วิตามินซีสูง 200% Thai RDI

อาหารเสริม เม็ดอมกลิ่นส้ม ผสม วิตามินซี วิตามินบีรวม และ โคลีน กิฟฟารีน เซเว่น บี พลัส ไฮ ซี แอนด์ โคลีน อร่อย ได้ประโยชน์ มีวิตามินซีสูง 200% Thai RDI (ให้วิตามินซี 60 มก./เม็ด) ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย ผสานคุณประโยชน์ของวิตามินบี 1, 2, 3, 5, 6, 12, โฟเลต และโคลีน ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง

 

Availability: มีสินค้าอยู่ 20

อาหารเสริม เม็ดอมกลิ่นส้ม ผสม วิตามินซี วิตามินบีรวม และ โคลีน กิฟฟารีน เซเว่น บี พลัส ไฮ ซี แอนด์ โคลีน (40 เม็ด)
Giffarine Seven B Plus Hi C and Choline : Orange Flavored Tablet Mixed With Vitamin C Vitamin B Complex and Choline (40 tablets)

อร่อย ทานง่าย ได้วิตามินซีสูง 200% Thai RDI

อาหารเสริม เม็ดอมกลิ่นส้ม ผสม วิตามินซี วิตามินบีรวม และ โคลีน กิฟฟารีน เซเว่น บี พลัส ไฮ ซี แอนด์ โคลีน อร่อย ได้ประโยชน์ มีวิตามินซีสูง 200% Thai RDI (ให้วิตามินซี 60 มก./เม็ด) ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย ผสานคุณประโยชน์ของวิตามินบี 1, 2, 3, 5, 6, 12, โฟเลต และโคลีน ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง

*Thai Recommended Daily Intakes (Thai RDI ) หมายถึง ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน สำหรับคนไทย
อายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป โดยคิดจากความต้องการพลังงานวันละ 2,000 แคลอรี

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ สารอาหารสําหรับเด็ก และ เม็ดเคี้ยวสำหรับเด็ก

วิตามินบี 7 ชนิด และ วิตามิน ซี มีความสำคัญกับเด็กอย่างไร?

วิตามิน คืออะไร?

อธิบายแบบง่ายๆ “วิตามิน คือ สารอินทรีย์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิต” ทำหน้าที่ “ปรับสมดุลในร่างกายให้ทำงานดีขี้น” ที่สำคัญคือ “ร่างกายของเราไม่สามารถผลิตหรือสังเคราะห์วิตามินขึ้นได้เอง”

“วิตามิน” เป็นสารอาหารที่จําเป็นต่อร่างกาย แม้ว่า “ร่างกายต้องการวิตามิน ไม่มากนักแต่ก็ขาดไม่ได้” เนื่องจากจะทําให้มีปัญหาสุขภาพตามมา เช่น หากขาดวิตามินซี จะทําให้เป็นโรคเลือดออกตามไรฟัน หากขาดวิตามินบี 1 จะทําให้ เป็นโรคเหน็บชา หากขาดวิตามินเอ จะทําให้ไม่สามารถมองเห็นในที่มืดได้ เป็นต้น

นักวิชาการได้ แบ่งวิตามินออกเป็น 2 ชนิด ตามคุณสมบัติของวิตามิน ดังนี้

1. วิตามินที่ละลายในน้ํา

ชนิดแรก คือ “วิตามินที่ละลายในน้ํา” ร่างกายจะนําวิตามินไปใช้ ประโยชน์ได้ต้องมีน้ําเป็นตัวพาไป ได้แก่ “วิตามินบีรวม” และ“วิตามินซี”

2. วิตามินที่ไม่ละลายในน้ำ แต่ละลายในไขมัน

วิตามินอีกชนิดหนึ่งคือ “วิตามินที่ไม่ละลายในน้ำ แต่ละลายในไขมัน” วิตามินชนิดนี้ ร่างกายจะนําไปใช้ประโยชน์ ได้ต้องมีน้ํามันเป็นตัวนํา วิตามินในกลุ่มนี้ ได้แก่ “วิตามินเอ” “วิตามินดี” “วิตามินอี” และ “วิตามินเค” (อ้างอิงที่ 48)

วิตามินบีรวม ประกอบด้วยวิตามินอะไรบ้าง?

“วิตามินบีรวม” ประกอบด้วยวิตามินบีหลายชนิดที่รู้จักแพร่หลาย คือ “วิตามินบี 1” “วิตามินบี 2” “วิตามินบี 6” “วิตามินบี 12” “โฟเลต” “ไนอะซิน” และสารอาหารที่จัดให้อยู่กับ วิตามินบีรวม ก็คือ “โคลีน” วิตามิน กลุ่มนี้ แม้ว่าจะบริโภคเกินความต้องการในแต่ละวัน ก็จะไม่มีอันตราย เนื่องจากวิตามินกลุ่มนี้มีคุณสมบัติ ละลายในน้ํา เมื่อได้รับมากเกินไปร่างกายก็จะขับออก เองได้ จึงไม่สะสมให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ

“โคลีน (Choline)” เป็นสารอาหารอีกตัวที่ละลายในน้ํา และมักจะถูกจัดเข้าไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับ “วิตามินบีรวม” โคลีนเป็นสารตั้งต้นหลักในการสังเคราะห์ สารสื่อประสาทที่มีชื่อว่า อะเซททิลโคลีน (Acetylcholine) ทําหน้าที่เป็นสารสื่อ ประสาทสําคัญที่เกี่ยวข้องกับความจํา การควบคุมกล้ามเนื้อ และหน้าที่อื่นๆ อีกหลายประการ

โดยมีปริมาณที่แนะนําว่าเพียงพอต่อร่างกายใน 1 วัน (Adequate Intake) สําหรับผู้ใหญ่ เพศชายและหญิง คือ 550 มก. และ 425 มก. ตามลําดับ (อ้างอิงที่ 49)

สํานักงาน คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทําบัญชีแสดง “ปริมาณของวิตามินที่ละลายในน้ํา ที่แนะนําให้ควรบริโภคประจําวันสําหรับคนไทย อายุตั้งแต่ 6 ปี” ขึ้นไป (Thai Recommended Daily Intakes หรือ Thai RDI) รวมถึงข้อความกล่าวอ้าง เกี่ยวกับหน้าที่ของวิตามินที่ละลายในน้ําแต่ละชนิด ตามรายละเอียดในตาราง

ตารางแสดงปริมาณของวิตามินที่ละลายในน้ํา ที่แนะนําให้บริโภคต่อวันสําหรับคนไทย อายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป

ตารางที่ : แสดงปริมาณของวิตามินที่ละลายในน้ํา ที่แนะนําให้บริโภคต่อวันสําหรับคนไทย อายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป และข้อความกล่าวอ้างเกี่ยวกับหน้าที่ของสารอาหารของวิตามินที่ละลายในน้ํา (อ้างอิงที่ 50,51)

วิตามินที่ละลายในน้ํา ปริมาณที่แนะนําให้บริโภคต่อ 1 วัน ข้อความกล่าวอ้างเกี่ยวกับ หน้าที่ของสารอาหาร
วิตามินบี 1 (Thiamine) 1.5 มก. (mg) วิตามินบี 1 มีส่วนช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตตามปกติ
วิตามินบี 1 มีส่วนช่วยในการทํางานตามปกติของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
วิตามินบี 1 มีส่วนช่วยในการทํางานตามปกติของหัวใจ
วิตามินบี 2 (Riboflavin) 1.7 มก. (mg) วิตามินบี 2 มีส่วนช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตโปรตีน และ ไขมันตามปกติ
วิตามินบี 2 มีส่วนช่วยคงสภาพปกติของเยื่อบุต่างๆ
วิตามินบี 2 มีส่วนช่วยในการทํางานตามปกติของระบบประสาท
วิตามินบี 2 มีส่วนช่วยคงสภาพปกติของเม็ดเลือดแดง
วิตามินบี 2 มีส่วนช่วยคงสภาพปกติของผิวหนัง
วิตามินบี 2 มีส่วนช่วยคงสภาพปกติของการมองเห็น
วิตามินบี 2 มีส่วนช่วยในเมตาบอลิซึมปกติของเหล็ก
ในอะชิน (Niacin) หรือวิตามินบี 3 20 มก. เอ็น อี (mg NE) ไนอะซิน มีส่วนช่วยคงสภาพปกติของเยื่อบุทางเดินอาหารและผิวหนัง
ไนอะซิน มีส่วนช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และ ไขมัน ตามปกติ
ไนอะซินมีส่วนช่วยในการทํางานตามปกติของระบบประสาท
กรดแพนโทธินิค (Pantothenic acid) หรือวิตามินบี 5 6 มก. (mg) กรดแพนโทธินิคมีส่วนช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานจากเมตาบอลิซึมตามปกติ
กรดแพนโทธินิคมีส่วนช่วยในการสังเคราะห์และเมตาบอลิซึมตามปกติของฮอร์โมน วิตามินดี และสารสื่อประสาทบางชนิด
วิตามินบี 6 (Vitamin B6) 2 มก. (mg) วิตามินบี 6 มีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงตามปกติ
วิตามินบี 6 มีส่วนช่วยในการทํางานตามปกติของระบบประสาท
วิตามินบี 6 มีส่วนช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานจากเมตาบอลิซึมตามปกติ
วิตามินบี 6 มีส่วนช่วยในเมตาบอลิซึมปกติของโปรตีนและไกลโคเจน
วิตามินบี 6 มีส่วนช่วยในการทําาหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
โฟเลต (Folate) หรือวิตามินบี 9 200 มคก. (µg) กรดโฟลิค โฟเลต มีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงตามปกติ
กรดโฟลิค/โฟเลต มีส่วนช่วยในการสังเคราะห์กรดอะมิโนตามปกติ
กรดโฟลิค โฟเลต มีส่วนช่วยในการทําหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
วิตามินบี 12 (Vitamin B12) 2 มคก. (µg) วิตามินบี 12 ช่วยสร้างสารที่จําเป็นในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการทํางานตามปกติของระบบประสาทและสมอง
วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานจากเมตาบอลิซึมตามปกติ
วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการทําหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
วิตามินซี (Vitamin C) 120 มก. (mg) วิตามินซี ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง
วิตามินซี มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินซี มีส่วนช่วยในการปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ
วิตามินซี มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทํางานตามปกติของ กระดูกอ่อน
วิตามินซี มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทํางานตามปกติของกระดูก
วิตามินซี มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทํางานตามปกติของเหงือก
วิตามินซี มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทํางานตามปกติของผิวหนัง
วิตามินซี มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทํางานตามปกติของฟัน
วิตามินซี มีส่วนช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานจากเมตาบอลิซึมตามปกติ
วิตามินซี มีส่วนช่วยในการทํางานตามปกติของระบบประสาท
วิตามินซี มีส่วนช่วยในการทําหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
วิตามินซี มีส่วนช่วยในการคืนสภาพของรีดิวซ์วิตามิน
วิตามินซีเพิ่มการดูดซึมเหล็ก

โดย วิตามิน ที่กล่าวมาข้างต้นเหล่านี้ สามารถพบได้ในอาหารต่างๆ อยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาวะรีบเร่งในชีวิตประจําวัน ส่งผลให้พฤติกรรมของ ผู้บริโภคเปลี่ยนไป ดังนั้น โอกาสที่จะได้รับประทานอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่ จึงเป็นไปได้ยาก เช่น นักเรียนนักศึกษาที่ช่วงเข้ารีบเร่งจนไม่ได้รับประทานอาหารเช้า กลางวันก็มักจะรับประทานอาหารจานเดียวเป็นต้น

ดังนั้น ทางเลือกหนึ่งที่ช่วย ป้องกันให้ไม่ขาดสารอาหารเหล่านี้คือ รับประทานอาหารที่มีการเติมสารอาหาร เหล่านี้ลงไป ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและอยู่ในรูปแบบ ที่รับประทานได้สะดวก อีกทั้งมีรสชาติอร่อย ชวนรับประทาน เช่น รูปแบบ “เม็ดเคี้ยว” เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม “ไม่แนะนําให้รับประทานผลิตภัณฑ์ที่จัดเป็นยา” เนื่องจากจะมีปริมาณของวิตามินสูงมาก ซึ่งทั่วไปนั้น มักจะใช้รักษาผู้ป่วยที่แสดง อาการของการขาดวิตามินแล้วเท่านั้น

10 วิตามิน ที่จําเป็นสําหรับเด็ก มีอะไรบ้าง?

1. ประโยชน์ของ วิตามิน เอ (Vitamin A)
  • ช่วยในการทํางานของ ระบบภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยในการเจริญเติบโต
  • ช่วยในการมองเห็น
2. ประโยชน์ของ วิตามินบี 1 (Vitamin B1) หรือ ไทอะมีน (Thiamine)
  • ช่วยในการทํางานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
3. ประโยชน์ของ วิตามินบี 2 (Vitamin B2) หรือ ไรโบฟลาวิน (Riboflavin)
  • ช่วยในการทํางาน ของระบบประสาท
4. ประโยชน์ของ วิตามินบี 3 (Vitamin B3) หรือ ไนอะซิน (Niacin)
  • ช่วยในการทํางาน ของระบบประสาท
5. ประโยชน์ของ วิตามินบี 5 (Vitamin B5) หรือ กรดแพนโททีนิค (Pantothenic acid)
  • ช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงาน จากการเผาผลาญ

6. ประโยชน์ของ วิตามินบี 6 วิตามินบี 6 (Vitamin B6) หรือ ไพริดอกซีน ไฮโดรคลอไรด์ (Pyridoxine Hydrochloride)
  • ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกัน ทํางานเป็นปกติ
  • ช่วยในการทํางาน ของระบบประสาท
7. ประโยชน์ของ วิตามินบี 12 (Vitamin B12) หรือ ไซยาโนโคบาลามิน (Cyanocobalamin)
  • ช่วยในการทํางานของระบบภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยในการทํางานของระบบประสาท และสมอง
8. ประโยชน์ของ วิตามินบี 9 (Vitamin B9) หรือ กรดโฟลิก (Folic acid)
  • ช่วยในการทํางาน ของระบบภูมิคุ้มกัน

9. ประโยชน์ของ วิตามินซี (Vitamin C)
  • ช่วยใน การทํางาน ของระบบ ภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยในการสร้าง คอลลาเจนเพื่อ กระดูก, กระดูกอ่อน และฟันที่แข็งแรง
  • ช่วยในการทํางาน ของระบบ ประสาท
10. ประโยชน์ของ วิตามิน ดี (Vitamin D)
  • ช่วยในการทํางานของระบบภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยคงสภาพปกติของกระดูกและฟัน
  • ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และฟอสฟอรัส

เติม วิตามินซี (Vitamin C) ให้ร่างกาย ได้อย่างไรบ้าง

วิตามินซี (Vitamin C) เป็นวิตามิน ที่ละลายในนํ้า พบมากในผักและผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว สตรอเบอร์รี่ ฝรั่ง มีความจําเป็น ต่อร่างกาย เนื่องจากร่างกาย ไม่สามารถสร้างเองได้

ปริมาณ วิตามินซี ที่ควรได้รับต่อวัน สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้กําหนดให้ใน 1 วัน เราสามารถรับประทานวิตามินซีได้สูงสุด 120 มก. หรือ 200% Thai RDI (Thai Recommended Daily Intake)

เราเติมวิตามินซี จากที่ไหนได้บ้าง?

  • ส้ม ประมาณ 2.5 ลูก
  • สตรอเบอร์รี่ ประมาณ 14 ลูก
  • เม็ดเคี้ยวที่มีส่วนผสม ของวิตามินซี
  • เครื่องดื่มที่มีส่วนผสม ของวิตามินซี

เม็ดเคี้ยวที่มีส่วนผสม ของวิตามินซี

เครื่องดื่มที่มีส่วนผสม ของวิตามินซี

ประโยชน์ดีๆของ วิตามินซี (Vitamin C)
  • ต้าน อนุมูลอิสระ
  • ช่วยใน การทํางาน ของระบบ ภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยให้ หลอดเลือด แข็งแรง
  • ช่วยเพิ่มการดูดซึม ธาตุเหล็ก
  • ช่วยในการสร้าง คอลลาเจนเพื่อ กระดูก, กระดูกอ่อน และฟันที่แข็งแรง
  • ช่วยในกาทํางาน ของระบบประสาท

เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop

รหัสสินค้า : 40751

เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 13-1-03440-6-0014

ขนาด กxยxส : 4x4x8

น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.05

กิฟฟารีน เซเว่น บี พลัส ไฮ ซี แอนด์ โคลีน (40 เม็ด)

ส่วนประกอบสำคัญใน 1 เม็ด:
น้ำตาลแลคโตส 157.185 มก.
น้ำตาลเด็กซ์โตรส 139.446 มก.
ซอร์บิทอล 111.538 มก.
น้ำตาลซูโครส 100 มก.
วิตามินซี 61.538 มก.
น้ำตาลฟรุคโตส 30 มก.
ผงส้ม 30 มก.
โคลีน ไบทาร์เทรต 12.2 มก.
วิตามินบี3 2 มก.
วิตามินบี5 0.66 มก.
วิตามินบี6 0.25 มก.
วิตามินบี12 0.1% 0.2 มก.
วิตามินบี1 0.17 มก.
วิตามินบี2 0.17 มก.
กรดโฟลิค 0.02 มก.

วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 2 เม็ด เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน

ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร : มีแลคโตส

หมายเหตุ : เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป หรือเด็กที่สามารถเคี้ยวและกลืนเองได้

รีวิว

ยังไม่มีบทวิจารณ์

มาเป็นคนแรกที่วิจารณ์ “อาหารเสริม เม็ดอมกลิ่นส้ม ผสม วิตามินซี วิตามินบีรวม และ โคลีน กิฟฟารีน เซเว่น บี พลัส ไฮ ซี แอนด์ โคลีน (40 เม็ด)”

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Shopping Cart
Scroll to Top