ครีมนวดบํารุงเส้นผม ผสม น้ำมันหญ้าแฝก และ น้ำมันลาเวนเดอร์ กิฟฟารีน เวติเวอร์ คอนดิชันเนอร์ (400 มล.)
Giffarine Vetiver Conditioner : Hair Conditioner Mixed With Vetiver Oil and Lavender Oil (400 ml.)
บำรุงผมให้นุ่มสลวยด้วย น้ำมันหญ้าแฝก และ น้ำมันลาเวนเดอร์
ครีมนวดบํารุงเส้นผมให้นุ่มสลวย เงางาม พร้อมมอบกลิ่นหอม สดชื่น และผ่อนคลาย จากการผสมผสานอย่างลงตัวของน้ํามันหอมระเหย 5 ชนิด รวมถึง “น้ำมันหญ้าแฝก” (Vetiver Oil) และ “น้ำมันลาเวนเดอร์” (Lavender Oil)
- ครีมนวดบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวย เงางาม
- พร้อมมอบกลิ่นหอมสดชื่น และผ่อนคลาย
- จากการผสมผสานอย่างลงตัวของ
- น้ำมันหอมระเหย 5ชนิด รวมถึง Vetiver Oil
วิธีใช้ : หลังสระผม ชโลมครีมนวดผมให้ทั่วตลอดโคนจรดปลายผม แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ควรใช้ทุกครั้งหลังสระผมด้วย กิฟฟารีน เวติเวอร์ แชมพู
เวติเวอร์ ซีรี่ย์ Vetiver
ปรนนิบัติผิวพรรณ พร้อมมอบความผ่อนคลายทั่วเรือนร่าง “น้ำมันหญ้าแฝก” (Vetiver Oil) ด้วยกลิ่นหอมสะอาดสดชื่นของน้ํามันหอมกลิ่นแฝกหอม ผสมผสานอย่างลงตัวกับกลิ่นหอมละเอียดอ่อนของ “น้ำมันลาเวนเดอร์” (Lavender Oil)
หญ้าแฝก Vetiver
“หญ้าแฝก” หรือ (Vetiver) ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับ ตะไคร้ ตะไคร้หอม และ Palmarosa มีต้นกำเนิดในอินเดีย อินโดนีเซีย และศรีลังกา น้ำมันหอมระเหยจะได้จากการกลั่นสกัดจากรากที่มีอายุ 2 ปี จะมีสีเหลืองอำพันถึงสีน้ำตาลเข้ม มี กลิ่นหอม หวานปนอบอุ่นของโทนกลิ่นของดินป่าไม้นิยมใช้แต่งกลิ่นเครื่องสำอาง และผสมในน้ำหอม เพื่อช่วยทำให้กลิ่นติดทนนาน
ในทางเครื่องสำอางค์ เหมาะสำหรับลดริ้วรอย ผิวเหี่ยวย่น คนพื้นเมืองในอินเดีย นำรากมาถักเป็นที่นอน ให้กลิ่นหอมสงบ อีกทั้งมีประโยชน์ในทางหัตถกรรมอีกมากมาย มีสรรพคุณยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ฆ่าเชื้อโรค ผ่อนคลายความเครียด และการขับไล่แมลง
“หญ้าแฝก” (Vetiver) สมุนไพรหญ้าแฝก มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า หญ้าแฝกหอม (นครราชสีมา, ภาคกลาง),แกงหอม แคมหอม (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เป็นต้น น้ำมันหอมระเหยหญ้าแฝกมีฤทธิ์เย็น เมื่อสูดดมน้ำมันหอมระเหยหญ้าแฝก โมเลกุลของสารสำคัญต่างๆมีผลต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนการแสดงพฤติกรรมโดยธรรมชาติ เช่น การตอบสนองด้านอารมณ์ การหายใจ ช่วยทำให้ผ่อนคลาย ช่วยระงับอารมณ์ฉุนเฉียว อารมณ์โกรธ ความวิตกกังวล ความกระสับกระส่าย ความตื่นกลัว ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีอาการนอนไม่หลับหลับได้ง่ายขึ้น
ประโยชน์ของ หญ้าแฝก Vetiver
- หญ้าแฝกหอม เป็น พืชที่สะสมน้ำมันหอมไว้ในส่วนของราก คนไทยสมัยก่อนจึงใช้รากของหญ้าแฝกเป็นเครื่องหอมสำหรับอบเสื้อผ้า แก้กลิ่นอับในตู้เสื้อผ้า ใช้ขับไล่แมลง ด้วยการใช้รากแห้งนำมาแขวนในตู้เสื้อผ้าและยังใช้ผสมกับน้ำมันให้เกิดกลิ่นหอม หรือนำไปผลิตเป็นเครื่องสำอางต่อไป
- หญ้าแฝก มีประโยชน์ต่อความเหนื่อยล้าทางประสาท ความเครียดเรื้อรัง ความเมื่อยล้า ความหดหู่ ความวิตกกังวล และการนอนไม่หลับ ช่วยผ่อนคลายและมีความเสถียรมาก และเป็นสิ่งที่ดีในการอาบน้ำและใช้เป็นน้ำมันนวด หญ้าแฝกให้ความรู้สึกนุ่มนวลและผ่อนคลาย
- หญ้าแฝก กลิ่นมีคุณสมบัติกระตุ้น ทำให้อารมณ์สมดุลระหว่างมีประจำเดือนใช้โดยการผสมน้ำแล้วสเปรย์เพื่อกระจายกลิ่นหรือผสมน้ำมันนวดตัว ทางเครื่องสำอางเหมาะสำหรับผิวเหี่ยวย่น มีริ้วรอย นิยมใช้แต่งกลิ่นเครื่องสำอางและผสมในน้ำหอมเพื่อช่วยทำให้กลิ่นติดทนนาน
ลาเวนเดอร์ Lavender
ต้นลาเวนเดอร์ (Lavender) เป็นพืชอเนกประสงค์ มีกลิ่นหอมชวนผ่อนคลาย เป็นสัญลักษณ์แห่งความสบายใจ และการไร้ความวิตกกังวล ลาเวนเดอร์ (Lavender) มักใช้ในการบำบัดด้วยกลิ่นหอม ช่วยส่งเสริมความสงบ และสุขภาพที่ดี
น้ำมันลาเวนเดอร์ (Lavender Oil) สามารถช่วยบรรเทาความมผิดปกติของระบบประสาท ช่วยในเรื่องของปัญหานอนไม่หลับ ปัญหาผิว ผมร่วง ความวิตกกังวล ความเครียด ไปจนถึงบรรเทาความเจ็บปวด
ประวัติ ของ ลาเวนเดอร์ Lavender
ลาเวนเดอร์ (Lavender) มาจากรากศัพท์ ภาษาละติน “lavare” (ลาวาเร่) ซึ่งแปลว่า “การชำระล้าง” ดอกลาเวนเดอร์ และน้ำมันที่ได้จากดอกลาเวนเดอร์ มีประวัติอันยาวนานในยาสมุนไพร ถูกใช้ในหลาย ๆ ด้านเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี ตามตำนานว่ากันว่า ดอกลาเวนเดอร์มีมาตั้งแต่ 3,000 ปีก่อน มีต้นกําเนิด อยู่แถวเขตเมดิเตอร์เรเนียน, ตะวันออกกลาง และอินเดีย
โดยชาวอียิปต์ใช้ น้ำมันลาเวนเดอร์ ในกระบวนการทำมัมมี่ ชาวเปอร์เซีย กรีก และโรมัน ผสม ลาเวนเดอร์ ลงในน้ำอาบเพื่อช่วยชำระร่างกาย และทำให้จิตใจให้บริสุทธิ์ ในกรีก และโรมัน ลาเวนเดอร์ถูกใช้เป็นยารักษารอบด้าน เป็นยาฆ่าเชื้อ และระงับกลิ่นกายตามธรรมชาติ ในสมัยกรีกโบราณ พวกเขาเรียก ลาเวนเดอร์ (Lavender) ว่า “Nardus” (นาร์ดัส) หรือ “Nard” (นาร์ด) และ ถูกใช้เป็นสมุนไพรหลักในการทําน้ําศักดิ์สิทธิ์
- 1500 ปีก่อนคริสต์ศักราช – 539 ปีก่อนคริสต์ศักราช ตามตํานานเล่าว่า เมื่อ 3,000 ปีก่อน ชาวฟินิเซียซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ทําอาชีพค้าขายเก่งมาก และพวกเขามักจะท่องเรือไปตามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คน จึงเชื่อกันว่าพวกเขาเป็นคนที่นําดอกลาเวนเดอร์มาเผยแพร่ให้แก่ชาวอังกฤษ
- 31 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ช่วงก่อนคริสต์ศักราช บันทึกการปลูกดอกลาเวนแดอร์และการใช้งานมีมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ ประมาณ 3,000 ปีก่อน พวกเขาใช้มันในการทําขี้ผึ้งบําบัด ทําน้ําหอม และน้ํายาดองศพ อย่างที่มีคนค้นพบไหที่บรรจุขี้ผึ้งทํามาจากบางอย่างที่คล้ายกับดอกลาเวนเดอร์ในสุสานของกษัตริย์ตุตันคาเมน นอกจากนี้ในผู้ชายอียิปต์ที่มีฐานะร่ํารวยใส่เครื่องประดับบนศีรษะ มีลักษณะเป็นกรวยแข็ง ไว้ใส่ขี้ผึ้งที่ทําจากดอกลาเวนเดอร์ เพื่อให้ร่างกายมีกลิ่นหอม อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ดอกลาเวนเดอร์ยังมีเรื่องเล่าว่าเคยเป็นดอกไม้ที่พระนางคลีโอพัตรามักใช้เพื่อยั่วยวนจูเลียส ซีซาร์ และมาร์ค แอนโทนีด้วย
- 55 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 410 สมัยโรมันบันทึกเอาไว้ว่า ลาเวนเดอร์ มีคุณสมบัติในการรักษาและฆ่าเชื้อโรค นอกจากนี้ยังสามารถฆ่าแมลงและใช้ในการชําระล้างได้ด้วย โดยทหาร โรมันจะใช้ลาเวนเดอร์เพื่อรักษาบาดแผลเวลาออกรบ และในยุคนี้เองที่คนหันมาเรียกดอกไม้ชนิดนี้ว่าลาเวนเดอร์ เพราะคําว่า Lavender มีที่มาจาก ภาษาลาติน คําว่า “lavare” (ลาวาเร่) ที่แปลว่า “การชำระล้าง” หรือทําความสะอาด เพราะคนโรมันมักจะใช้กลิ่นของดอกลาเวนเดอร์ในการอาบน้ํา พรมที่นอน เสื้อผ้า หรือ พรมเส้นผมนั่นเอง
- ช่วงปลาย ค.ศ 1400 – ต้น ค.ศ. 1600 ดอกลาเวนเดอร์ ถือว่าเป็นดอกไม้ที่ฮ็อตฮิตมาก ๆ โดยเฉพาะในยุคของพระราชินีอลิซาเบธ (1558-1603) ที่ พระองค์ทรงชื่นชอบดอกลาเวนเดอร์มากถึงขนาดที่ว่าต้องมีดอกลาเวนเดอร์ที่เก็บมาใหม่ในทุกวัน และชื่นชอบการดื่มชาจากดอกลาเวนเดอร์ หรือ สกัดเป็นน้ําหอมเพื่อใช้งาน รวมถึงมีความเชื่อว่าถ้านําลาเวนเดอร์มาแขวนไว้ที่ประตูจะช่วยป้องกันปีศาจได้
- ช่วงกลาง ค.ศ. 1630 เกิด Great Plague หรือกาฬโรคครั้งใหญ่ขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส ตอนนั้นมีกลุ่มโจรไปขโมยของที่สุสานแต่ไม่ติดโรค พวกเขาจึง ถูกจับไปสอบสวน ถามหาสูตรลับในยาที่ช่วยป้องกัน กาฬโรคเพื่อแลกกับการถูกปล่อยตัว และจากคําบอกเล่าของโจรทั้ง 4 หนึ่งในสมุนไพรที่ใช้ทําเป็น ยาก็มีลาเวนเดอร์รวมอยู่ด้วย
- ค.ศ. 1700 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส (Louis XIV, Sun King) ทรงโปรดปรานการอาบน้ําที่มีกลิ่นลาเวนเดอร์มาก ๆ อีกทั้งหลังจากที่พระองค์ทรงสร้าง “Hôtel des Invalides” หรือโรงพยาบาลสําหรับทหารผู้พิการก็ได้ทรงเพิ่มการรักษาแบบใหม่ที่ใช้ลาเวนเดอร์ในการรักษาด้วย
- ค.ศ. 1800 การทําฟาร์มลาเวนเดอร์เริ่มต้นขึ้นที่ประเทศออสเตรเลียช่วงต้น 1894 โดยฟาร์มลาเวนเดอร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ Bridestowe lavender Estate ซึ่งก่อตั้งในปี ค.ศ. 1921 ทางตอนใต้ของรัฐแทสเมเนีย
- ช่วง ค.ศ. 1900 ชาวยิปซีซึ่งมักจะท่องเที่ยวไปทั่วโลก ได้นําช่อลาเวนเดอร์มาขายบนถนนในลอนดอน โดยบอกว่าจะนําโชคดีมาให้ และช่วยปกป้อง อาการเจ็บป่วยและโชคร้าย
- ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1900 จนถึง ปัจจุบัน ดอกลาเวนเดอร์ถือว่าเป็นดอกไม้ที่มีบทบาทในหลายด้านมาก ทั้งการแพทย์ ความสวยความงาม มีการทําฟาร์ม ลาเวนเดอร์ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะที่บริเวณแถบคาบสมุทรโอลิมปิก, รัฐวอชิงตัน, รัฐออริกอน, รัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐเท็กซัส นอกจากนี้ ย้งถูกปลูกในบางพื้นที่ท่องเที่ยวสําคัญของประเทศแคนาดา อย่างรัฐโนวาสโกเชีย, คาบสมุทรไนแองการ่า และรัฐออนแทรีโอ
ประโยชน์ของ น้ำมันลาเวนเดอร์ Lavender Oil
- ช่วยในการนอนหลับ
- ช่วยลดความเครียด
- ช่วยบรรเทาความเครียด และวิตกกังวลในผู้ป่วยโรคมะเร็ง
- บรรเทาอาการผิวหนังอักเสบ ผิวไหม้แดด
- ช่วยลดริ้วรอย และให้ผิวกระจ่างใส
- ช่วยกำจัดสิวบนใบหน้า
- บรรเทาอาการกลาก และผิวแห้ง
- ช่วยบำรุงสภาพผิวหนัง และเส้นผม
- บรรเทาอาการปวด
- ช่วยไล่แมลง และบรรเทาอาการคันจากแมลงกัดต่อย
เรียบเรียงและจัดทำโดย Sirikul Shop
รหัสสินค้า : 14207
เลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ : 10-1-6200023041
ขนาด กxยxส : 8x22x4
น้ำหนัก/กิโลกรัม : 0.45
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์